21 ก.พ. 2022 เวลา 11:00 • การตลาด
กรณีศึกษา Ophtus ธุรกิจแว่นเกมเมอร์ ที่เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์แบบไม่จำกัด
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่หนีไม่พ้นนอกจากความตาย ก็คือโฆษณาแว่น Ophtus”
ซึ่งถ้าหากว่าใครเป็นคนที่อยู่ในวงการเกม ก็น่าจะคุ้นเคยชื่อแว่น Ophtus กันเป็นอย่างดี
เพราะเกือบทุกช่องในยูทูบที่เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม มักจะมี Ophtus เป็นผู้สนับสนุนอยู่เสมอ
จนกลายเป็นคำถามชวนสงสัยของใครหลายคนว่า ทำไม Ophtus ถึงจ้างอินฟลูเอนเซอร์มากมายขนาดนี้ ?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแว่น Ophtus กันเสียก่อน
สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน Ophtus เป็นธุรกิจแว่นกรองแสง
ที่เกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในการเล่นเกมของตัวผู้ก่อตั้งเอง
ถ้าหากใครที่เกิดในช่วงปี 2000 - 2010 จะพบว่ายุคนั้น เป็นยุคที่เกมออนไลน์เฟื่องฟูมาก
ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์อย่าง Ragnarok, PangYa, Yulgang, Maplestory หรือ Audition
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นยุคที่เกมออนไลน์เฟื่องฟู แต่ก็เป็นยุคที่ผู้ใหญ่หลายคน ไม่ให้การยอมรับเรื่องของ “การเล่นเกม” และเมื่อเด็ก ๆ เกิดปัญหาบางอย่าง
ผู้ใหญ่ก็มักจะเลือกโทษเกมเป็นอย่างแรก..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ตัวผู้ก่อตั้ง Ophtus ที่ประสบปัญหาเล่นเกมแล้วปวดตา ก็ไม่กล้าบอกใคร
เพราะกลัวว่าผู้ใหญ่จะโทษเกม และในขณะเดียวกันการไปตัดแว่นที่ร้าน เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
ก็ทำได้ยาก เนื่องจากร้านแว่นในสมัยก่อนมักจะมีเจ้าของเป็นผู้ใหญ่ ทำให้ไม่เข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน
1
รวมถึงในยุคนั้นก็ยังไม่มีบริษัทไหน ที่โฟกัสการทำแว่นสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะอีกด้วย
ทำให้ในปี 2018 ตัวผู้ก่อตั้ง ก็ได้ตัดสินใจเปิดตัวแว่น Ophtus ขึ้นมาแสดงแก่สายตาชาวโลก
โดยสิ่งที่แบรนด์ Ophtus พยายามสื่อสารไปยังผู้บริโภคก็คือ การเป็นแว่นกรองแสง
ที่ช่วยลดปัญหาแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาของเราโดยเฉพาะ และความพิเศษอีกอย่างคือ ความแข็งแรง
ที่ไม่ว่าผู้ใส่จะ เหยียบ นั่งทับ หรือปาใส่กำแพง
แว่น Ophtus ก็จะยังคงสภาพเดิม..
นอกจากนี้ สาเหตุที่ตัวผู้ก่อตั้งเลือกทำแว่นสำหรับเกมเมอร์ หรือกลุ่มคนเล่นเกมโดยเฉพาะ
ก็เป็นเพราะอดีตในวัยเด็ก และความคุ้นเคยของตนเองที่อยู่ในแวดวงเกมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Ophtus เริ่มหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตด้วย
แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วง 3 - 4 ปีที่แล้ว คำว่า อินฟลูเอนเซอร์ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักด้วยซ้ำ
สิ่งที่ Ophtus ทำในทีแรก จึงเป็นเหมือนการส่งสินค้าไปให้กลุ่มเกมเมอร์ทั้งหลาย แล้วเก็บเสียงตอบรับ (Feedback) เพื่อนำมาพัฒนา Ophtus ต่อไป
ต่อมา Ophtus จึงเริ่มขยายกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนว่าจะมีจำนวนผู้ติดตามเท่าไร
โดยสิ่งที่นำมาเป็นเกณฑ์ในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนก็คือ “ความชอบของผู้ก่อตั้ง”
และความต้องการที่จะตอกย้ำจุดยืน การเป็นแว่นสำหรับทุกคน หรือ “Eyewear For All”
“เวลาเราดูใครแล้วเราชอบ เราก็อยากให้เขาได้ลองใช้สินค้าของเรา”
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นโฆษณาแว่น Ophtus ผ่านอินฟลูเอนเซอร์มากหน้าหลายตา
อย่างล่าสุด Ophtus ก็ได้คุณ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์
เพื่อตอกย้ำจุดยืน การเป็นแว่นสำหรับทุกคน
ที่น่าสนใจคือ Ophtus แทบจะไม่เคยบรีฟอินฟลูเอนเซอร์ในการทำคอนเทนต์เลย
โดยตัวผู้ก่อตั้งได้พูดถึงประเด็นในมุมนี้ว่า
“เราพยายามสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ ให้พูดแบบจริงใจไปเลย
ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์แบรนด์มาก อยากนำเสนออะไรก็ใส่มาได้เต็มที่”
1
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นคอนเทนต์ที่เรียกได้ว่า ครีเอตจนสงสัยว่าคิดได้อย่างไร
เช่น Pasulol กับคลิป “การผจญภัยของกัปตันออปตัส” ที่แค่ 11 วันก็มียอดวิวสูงถึง 1.6 ล้านครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ทั้งคลิปมีแต่การขายของ Ophtus ล้วน ๆ หรือประโยคเด็ดอย่าง
“ถ้าคุณไม่อยากตาบอด” จากคุณ NAKLAS GAMER เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสำเร็จของการใช้งานอินฟลูเอนเซอร์ของ Ophtus
ตัวผู้ก่อตั้งกลับไม่ได้มองเม็ดเงินเป็นตัววัดความสำเร็จ แต่มองว่า “เราสนุก ลูกค้าสนุก” ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนแผนการในอนาคตของ Ophtus ก็จะยังคงเน้นการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ต่อไป
รวมถึงเน้นการขยายสาขาหน้าร้าน เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า ที่อยากเข้ามาตัดแว่นกับทาง Ophtus ด้วย
และสุดท้าย ทางผู้ก่อตั้งยังกระซิบมาอีกว่า ในปีนี้เตรียมตัวพบกับสินค้าใหม่จากทาง Ophtus แน่นอน
แต่ยังไม่พร้อมสปอยล์ตอนนี้..
อ้างอิง :
-สัมภาษณ์โดยตรงกับผู้ก่อตั้ง Ophtus
โฆษณา