22 ก.พ. 2022 เวลา 09:06
ยมทูตชุดขาว
มันคือความฝันและความจริงในเวลาเดียวกัน
เมื่อปีที่ผ่านมาฉันเคยฝันเห็นชายสวมชุดขาว
2 ท่านได้มาบอกเรื่องราวให้ฉันฟังว่า
จะมีคนตาย 3 คนในโรงงานเราแลมันก็เป็นความจริง ซึ่ง 2 ใน 3 นั้ คือเด็กฝึกงานในโรงงานเราเองเกิดอุบัติเหตุถูรถชนและอีกคนนั้นเกือบไปแล้วเนื่องจากความผิดพลาดผิดคนอีกคนที่เหลือเลยรอดตาย
และคราวนี้เราฝันอีกครั้ง
เรานั่งอยู่บนกำแพงหน้าอำเภอบนกำแพงมีผู้หญิงคนหนึ่ง
ใบหน้าเน่าเฟะผมยาวด้านหลังผู้หญิงคนนั้นมีจะว่าเป็นคนก็ไม่ใช่มีลักษณะหัวโตตากลมดำไม่มีผมไม่มีคิ้วปากเล็กนิดเดียวผิวสีซีดลำตัวมีขนาดเล็กเหมือนคนแคระนั่งเรียงกันแล้วหันหน้ามาทางเราประมาณว่า 10 กว่าตน
จากนั้นเราก็ถามผู้หญิงคนนั้นตายเพราะถูกข่มขืนเหรอ?
ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่าไม่ได้ตายเพราะถูกข่มขืน
เรากำลังจะถามต่อ
คนแคระด้านหลังผู้หญิงคนแรกเริ่มเปลี่ยนไปร่างกายเปลี่ยนเป็นผู้ชายคนหนึ่งร่างกายเน่าเฟะ
ด้วยความกลัวและเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าเราจึงกระโดดลงกำแพงแล้วเดินออกมา
ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะบอกเราถึงเรื่องสาเหตุการตายของเธอ
จากนั้นเราก็เดินมาถึงหน้าปากซอยทางเข้าบ้านเรา
ตรงปากทางมีร้านขายของชำที่ตรงนั้นมีชายชุดขาววัยกลางคนแต่เราเห็นหน้าไม่ชัดเจนเขากำลังหาของบางอย่างอยู่
จากนั้นชายคนนั้นก็พูดกับเราว่า
เขาเคยมารับคนที่เป็นโรคมะเร็งและชายอีกคนหนึ่งที่ร้านนี้
เราก็นึกขึ้นมาได้ว่าร้านนี้คือร้านป้าพรกับลุงเปล่ง
ซึ่งท่านทั้ง 2 ก็ได้ตายไปเมื่อปีกลาย
ป้าพรตายด้วยโรคมะเร็งและลุงเปล่งตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตก
แค่ความรู้สึกเราในขณะที่เขาบอกเราก็เฉยๆนะเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
หลังจากที่ชายคนนั้นได้ของแล้วมันคือสมุดบันทึกเล่มหนึ่งแล้วสมุดนั้นก็เปิดให้เราดู
ในสมุดนั้นเป็นรายชื่อคนและมีตัวเลขหลายหลักเขียนกำกับไว้ไม่แน่ใจว่าเป็นปีพ.ศ. หรือว่าเป็นลำดับที่เรียงกันมา
สมุดเล่มนั้นเหมือนสำมะโนครัวเพราะมันมีชื่อคนในครอบครัวของเราและครอบครัวของป้าเราด้วย
ด้วยความอยากรู้เราก็เลยไปดูชื่อของเรามันมีชื่อเราจริงมีตัวเลขกำกับด้านหลังแต่เราจำเลขมาไม่หมดมันขึ้นต้นด้วย11--834
จากนั้นเราก็ไปเปิดอีกแผ่นมันมีชื่อของลูกพี่ลูกน้องเรา
เมื่อก่อนพี่เขาชื่อ "รังษี" แล้วมาเปลี่ยนเป็นชื่อ
" ศรานุวัฒร์ "
แต่ในสมุดเล่มนั้นยังเป็นชื่อ"รังษี" อยู่เลยด้านหลังชื่อมีตัวเลขกำกับเหมือนกับชื่อคนอื่นๆขึ้นต้นด้วย11-----เหมือนกัน
ด้วยความอยากรู้เรื่องตัวเลขเลยผลิกไปดูชื่อเราคราวนี้มีแต่ชื่อไม่มีตัวเลขเพราะโดยลบไปแล้ว
ก็เลยกลับไปดูของพี่ชายอีกครั้ง..เฮ้ย
มีแต่ชื่อตัวเลขโดยลบเหมือนกัน
(คิดว่าเขาคงไม่อยากให้เรารู้เห็นความ....ของตัวเรามั้ง)
จากนั้นชายขุดขาวก็พาเราเดินขึ้นไปตามซอยแล้วเราก็มาหยุดที่หน้าบ้านเรา
เราก็พูดขึ้นว่า"นี่บ้านของหนูแต่หนูเข้าไปไม่ได้"
เพราะตัวบ้านเหมือนมีกำแพงสีเหลืองและหมอกล้อมรอบตัวบ้านไว้
เราก็ได้แต่ยืนนอกรั้วบ้านมองดูบ้านด้วยความคิดถึง
ส่วนชายชุดขาวนั้นเข้าไปบ้านป้าเราได้ซึ่งบ้านป้ากับบ้านเราอนู่ติดกัน
เราได้แต่อยู่หน้าบ้านมองดู
สักพักจู่ๆชายชุดขาวได้พาป้าคนหนึ่งมาด้วยพามาจุดที่เรายืนอยู่
(เขาไปพาป้าคนนี้มาตอนไหนทั้งที่เขาก็ยู่กับเรา)
และเขาก็พามาจากปากซอยแยกด้านขวาด้วยสิ
เราเห็นป้าคนนั้นลางๆเห็นใบหน้าไม่ชัด
ผมแกดัดผมลอนใส่เสื้อนุ่งซิ่นนั่งยองๆข้อมือโดนมัดด้วยเส้นด้ายสีใสเส้นเล็กมากๆ
คิดไปคิดมาเหมือนชุดที่ป้าอีกคนของเราใส่เลยบ้านแกอยู่อีกซอยถัดไป
ป้าแกก็มองเราพยายามขยับข้อมือเพื่อเอาด้ายเส้นนั้นออกแต่มันไม่เป็นผลเหมือนแกพยายามขอร้องเรา
แต่ทำไมเราถึงมีความรู้สึกนิ่งเฉยไม่มีความเห็นใจไม่สงสารไม่มีความรู้สึกอะไรเลยมันว่างเปล่า
มันเหมือนเรามีหน้าที่แค่เฝ้าและยืนดูเฉยๆ
สักพักเราก็ถามชายชุดขาวว่ามีเชือกอีกเส้นมั้ยเส้นนี้มันเล็กและสั้นเกินไปอยากได้เส้นยาว
ชายชุดขาวก็ตอบมาว่าไม่เป็นไรแล้วให้เราพาป้าคนนั้นมาไว้ที่หน้าปากซอยทางเข้าบ้านเรา
เท่านั้นเอง
จากนั้นเกิดอะไรต่อเราก็ไม่รู้เพราะสะดุ้งตื่นขึ้นก่อน
โฆษณา