23 ก.พ. 2022 เวลา 09:44 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก By ละเลงหนัง
บทความรีวิวนี้ของผมนั้น เขียนเรียบเรียงออกมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผมที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งหากผิดพลาดประการใด หรือการวิจารณ์ของผมไม่ถูกใจใคร ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งก่อนเราจะมาเริ่มรีวิว เรามาดูเรื่องย่อและข้อมูลเบื้องต้นของภาพยนตร์ภัยพิบัติฟอร์มยักษ์เรื่องนี้กันก่อนดีกว่า
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
เรื่องย่อ Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของทีมนักบินอวกาศจาก NASA ที่ได่ถูกส่งออกไปนอกโลก เพื่อกู้วิกฤติหลังจากที่ดวงจันทร์ถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน ส่งผลให้วงโคจรของดวงจันทร์เปลี่ยนไป และกำลังจะพุ่งชนโลก เมื่อเวลาของมนุษยชาติใกล้จะหมดลง โจ ฟาวเลอร์ (ฮัลลี เบอร์รี) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NASA และอดีตนักบินอวกาศที่เป็นคนสำคัญขอการทำภารกิจกู้โลกอย่าง ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (แพทริก วิลสัน) ที่เคยร่วมงานกับเธอ ซึ่งเขาเป็นบินอวกาศที่ขับยานได้เก่งที่สุด และ เค.ซี. เฮาส์แมน (จอห์น แบรดลีย์) นักทฤษฏีสมคบคิดสติเฟื่อง พวกเขาทั้งสามคมต้องร่วมมือกัน และเดินทางออกไปยังอวกาศ พร้อมกับทำภารกิจเสี่ยงเปชี้เป็นชี้ตาย เพื่อปกป้องคนที่พวกเขารัก และทุกชีวิตบนโลก
ข้อมูลเบื้องต้น
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Roland Emmerich (โรแลนด์ เอ็มเมอริช) ผู้กำกับสายภาพยนตร์ภัยพิบัติล้างโลก ที่เคยทำแนวนี้มาแล้วหลายเรื่องมากๆ อาทิเช่น ID4 Independence Day (1996) , The Day After Tomorrow (2004) และ 2012 (2009) โดยเรื่องนี้มีเหล่านักแสดงนำได้แก่ Patrick Wilson (แพทริก วิลสัน) ผู้รับบท King Orm ใน Aquaman (2018) , Halle Berry (ฮัลลี เบอร์รี) ผู้รับบท Storm ในภาพยนตร์แฟรนไชส์ X-Men และ John Bradley (จอห์น แบรดลีย์) จากซีรีส์ Game of Thrones และสุดท้าย ภาพยนตร์ Moonfall (วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก) ใช้ทุนสร้างไปทั้งหมด 140 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,580 ล้านบาท)
​​​​​​รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก (มีสปอยล์)
ละเลงหนัง
​​​​​​รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
สำหรับผมภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ผมดูสนุกและเพลินดี การโปรดักชั่นการออกแบบภาพก็ทำออกมาได้ดี แม้ในบางฉากบางซีนจะมี CGI ลอยๆบ้างแต่ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น และสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือทฤษฎีสมคบคิดสุดเวอร์วัง แต่ก็ส่งมันไปได้จนสุดทางและไม่รู้สึกค้างคาอะไร ถ้าดูแบบไม่อะไรมากและปล่อยให้หนังนำทางเราไป รับรองว่าสนุกแน่นอน อย่างน้อยแค่มาดูฉากโลกกำลังเผชิญกับภัยพิบัติก็คุ้มแล้ว ภาพสวยมากและอลังการงานสร้าง ดูยิ่งใหญ่ สเกลใหญ่โคตรๆ โดยรวมแล้วสนุกเอ็นจอย เหมาะไปดูกับเพื่อนๆและครอบครัว
ทฤษฎีสมคบคิดสุดบ้าแต่ก็บันเทิงและเกินคาด
ละเลงหนัง
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
สิ่งที่ผมชอบและประทับใจที่สุด ก็คือพล็อตเรื่องและบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มาพร้อมกับทฤษฎีสมคบคิดสุดแหวกแนวและเกินคาดมากๆ และก็พาเราถอดสมองไปกับทฤษฎีสุดเพี้ยนนี้ได้จนสุดทาง มันล้ำมากจริงๆ ซึ่งใคซึ่งใครที่ดูแล้วงง หรือตามไม่ทันมาอ่านอันนี้ได้นะครับ ผมจะสรุปให้แบบง่ายๆ
สรุปก็คือดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ประดิษฐ์ หรือก็คือสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่าเราในยุคปีจจุบันมาก ซึ่งเริ่มเรื่องมาหนังจะอธิบายให้ฟังว่าหลุมบนดวงจันทร์นั้น เกิดจากเทคโนโลยี AI สุดล้ำ ซึ่งตอนแรกผมก็คาดเดาไปว่าเอเลี่ยนแน่ๆ จนหนังก็ค่อยๆสืบหาความจริงเรื่อยๆ จนรู้เพิ่มว่า AI สุดล้ำนี้ มันขุดเข้าไปในแกนกลางของดวงจันทร์ก็เพื่อเปลี่ยนทิศทางวงโคจรและหวังทำลายล้างโลก และเผ่าพันธ์ุมนุษย์ให้สูญพันธุ์ พอสุดท้ายมาเฉลยว่า AI นาโนเทคโลโนยีนั้น คือเทคโนโลยีที่บรรพบุรุษของมนุษย์เมื่อหลายแสนล้านปีก่อน
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
ซึ่งเป็น AI ที่สร้างไว้ใช้อำนวยความสะดวก อารมณ์คล้ายๆสมาร์ทโฮม แต่ AI กลับมีความคิดและร่วมมือกันทำลายล้างมนุษย์ มนุษย์กลุ่มสุดท้ายจึงสร้างดวงจันทร์ที่ฝัง AI ที่ซื่อสัตย์ไว้ และรอให้มีมนุษย์เข้ามาเจอ AI ก็จะอธิบายทุกอย่างให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งกลุ่มตัวละครหลักเนี่ยแหละที่ไปเจอ จากนั้นดวงจันทร์ก็ลอยในอวกาศไปนาน จนเกิดโลกมาถึงทุกวันนี้ ซึ่ง AI จะตามล่าและหวังทำลายดวงจันทร์ และเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซาก โดย AI จะไล่ตามสัญญาณสิ่งมีชีวิตและคลื่นอิเล็คโทรนิค ก็คือถ้ามีแค่สิ่งมีชีวิต แต่ไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ มันก็จะหาไม่เจอ ซึ่งดวงจันทร์ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ จึงลอยหนีรอดพ้นการไบ่ล่าของ AI มาได้นานหลายแสนปี ซึ่งมันก็อธิบายเหตุการณ์ในหนังได้ทุกอย่าง ว่าทำไมถึงมาตอนนี้ ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับ
จากบททั้งหมดที่กล่าวมา มันทำให้ผมยิ่งว้าวไปใหญ่ ความคิดที่เข้ามาในหัวคือ คิดได้ไงวะเนี่ย มันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่แต่มันก็ไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้น มันหลุดโลกไปเลย ในหนังก็จะย้ำอยู่เสมอว่ามฤษฎีในหนังนั้นจะทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่มนุษย์เชื่อมาตลอดมันผิดทั้งหมด ซึ่งมันหลุดโลกแต่ก็โคตรสนุก โคตรบันเทิง ผมเลยเอ็นจอยและประทับใจในส่วนนี้มากๆ
งานภาพสุดอลังการงานสร้าง แม้จะมี CG ที่ยังไม่สมจริงอยู่บ้าง
ละเลงหนัง
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
สำหรับงานภาพคงไม่ต้องโฆษณาเยอะ ใครที่เป็นแฟนหนังหรือเคยดูผลงานเก่าๆของผู้กำกับคนนี้มาก่อน ก็น่าจะพอคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นแบบไหน ซึ่งรับประกันความยิ่งใหญ่ อลังการ และสวยงาม แม้ว่าการทำ CG ในบางฉากมันยังดูปลอมๆไม่สมจริง แต่ไม่ได้ลอยอะไรมากมาย ยังพอรับได้ แต่สิ่งที่ดีของงานภาพ คือการออกแบบภาพและจัดวางองค์ประกอบภาพแต่ละฉากเนี่ยแหละ ที่ทำออกมาได้ดีมาก สเกลภาพมันใหญ่และมีรายละเอียดเยอะมากๆ ซึ่งถาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีจริงๆ แนะนำว่าใครที่อยู่กรุงเทพ ถ้าจะไปดูเรื่องนี้ ดูทั้งทีก็ดูในระบบ IMAX ไปเลย จะได้ดูงานภาพสุดสวยงามในสเกลใหญ่ ก็จะยิ่งมีรายละเอียดให้เห็นมากขึ้นอีกด้วย
1
ข้อเสียที่เกิดจากความไม่สมเหตุสมผลในบางฉาก และการปูเนื้อเรื่องที่นานเกินไป
ละเลงหนัง
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
จุดนี้เป็นจุดบอดที่ใหญ่แบบเห็นได้ชัดของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะมันมีหลายซีนมากๆ ที่ตัวละครในเรื่องตัดสินใจแบบแปลกๆหรือทำตัวไม่สมกับสถานการณ์ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ชมมากๆเลยทีเดียว อย่างเช่น ฉากที่ซันนี่ลูกชายของพระเอกอยู่บนภูเขาและกำลังหนีไปหาที่หลบภัย ซึ่งในตอนนั้นมีอุกกาบาตทีาตกลงมาที่ภูเขาลูกข้างๆ แบบใกล้ๆอะ ห่างไป 1 กิโลเมตรเองมั้ง แต่ตัวละครกลับยืนมองและทำหน้าเรียบเฉย ไม่ตกใจหรือหวาดกลัวด้วยซ้ำ และมีแบบนี้หลายฉากมากๆ ซึ่งถ้าทำให้ตัวละครแสดงสีหน้า อารมณ์หวาดกลัว ร้อนรน มันจะส่งผลให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับหนังและลุ้นระทึกเอาใจช่วยมากกว่านี้เยอะ และก็อีกฉากที่ขับรถหนี และ ถนนถล่ม ตัวละครซันนี่กลับตัดสินใจขับเหินไปแบบง่ายดาย คือฉากนี้มันดูเกินจริงมาก อย่างกะ Fast 8 แต่อันนี้ก็ไม่ได้ส่งผลมากดท่ากับการสื่ออารมณ์อยู่ดี
ต่อมาเรื่องการปูเนื้อเรื่องที่นานไปหน่อย จนคนดูเบื่อก่อนจะสนุก กว่าจะเริ่มน่าติดตามสนุก และรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องก็ปาไปเกือบครึ่งเรื่องแล้ว ก็คือชั่วโมงแรกคือปูเรื่องอย่างเดียว และปูแบบจืดชืดมากๆ ถ้าเขาแบ่งต้นเรื่องไปให้กับฉากการหนีตาย วุ่นวายของประชาชน ให้เราได้เห็นถึงความหวาดกลัว และความร้ายแรงของภัยพิบัติที่เหล่ามนุษย์ในหนังได้เจอนั้นมันร้ายแรงขนาดไหน ถ้าทำได้หนังมันจะสุดและดีกว่านี้ แต่กลับไปโฟกัสแต่ตัวละครหลัก เลยทำให้ช่วงแรกๆของหนังนั้นจืดชืดไม่น่าติดตาม แถมยังชวนหลับ แต่พอเลยครึ่งเรื่องมา และเริ่มจุดเครื่องติด ทุกอย่างก็ดีและโคตรมันส์ ช่วงท้ายเป็นสิ่งที่ผมชอบมากจริงๆ
สรุปและให้คะแนน
ละเลงหนัง
รีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก
โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่ได้ห่วยขนาดนั้น แม้มันจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลบ้างในบางจุด แต่ก็ยังสามารถมอบความสนุกและความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ งานภาพการโปรดักชั่นต่างๆก็ออกมาดูดีเลย แม้จะมี CG บางฉากบางตอนที่ยังไม่เนียนตาเท่าไหร่ แต่องค์ประกอบ และรายละเอียดของานภาพในแต่ละฉากนั้นดีมากๆ สวยงาม อลังการงานสร้างที่ฉากเลยจริงๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ถ้าใครที่ชอบดูหนังวิทยาศาสตร์จริงจัง แบบ Interstella(2014) อาจจะไม่ถูกใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็อย่างว่าแหละ ภาพยนตร์ Moonfall เรื่องนี้มันหนัง Block Buster เลยไม่ต้องอิงความจริงหรือเหตุผลมากนัก เน้นไอเดียล้ำๆ และงานสร้างอลังการ มอบความสุข ความบันเทิงให้คนดูอย่างเดียว
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบชมภาพยนต์เพื่อความบันเทิง คลายเครียด ดูเวลาว่างๆ รับรองว่าไม่เสียดายเวลาแน่นอน สรุปแล้วผมขอให้คะแนนไว้ที่ 7/10 คะแนนแล้วกัน ขอบอกก่อนว่าที่รีวิวมาทั้งหมด มาจากความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ หากทำให้ใครไม่พอใจ หรือไปขัดใจใคร ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ สุดท้ายนี้ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วชอบ ฝากกดติดตามและกดแชร์บทความนี้ให้ด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้หากผิดพลาดประการใด ผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ผมรีวิวตามความรู้สึกส่วนตัว แต่ถ้าอ่านแล้วชอบฝากกดติดตาม และกดแชร์ด้วยนะครับ
ละเลงหนัง
★ Facebook Fanpage ละเลงหนัง : https://www.facebook.com/Lalengnung
★ True ID In Trend ละเลงหนัง (สำหรับเขียนบทความ) : https://creators.trueid.net/@155949

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา