ทำไม อีลอน มัสก์ ชอบตั้งเป้าหมายสูง ๆ และเป็นไปได้ยาก
“เราจะมีรถไฟฟ้าใช้เต็มท้องถนน ภายในปี 2020”
“มนุษย์จะเริ่มย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่ดาวอังคารภายในปี 2025”
“มนุษย์จะสามารถเชื่อมคอมพิวเตอร์กับสมองได้สำเร็จในปี 2025”
นี่คือเป้าหมายของชายที่ชื่อว่า อีลอน มัสก์
ที่มีให้กับบริษัทที่เขาเป็นคนบริหารทั้ง 3 บริษัท นั่นก็คือ Tesla, SpaceX และ Neuralink
ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ เมื่อใครได้ยินก็อาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
แต่รู้ไหมว่า สิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้เหล่านี้ บางสิ่งมันเกิดขึ้นแล้ว และบางสิ่งก็กำลังใกล้ความจริงเข้ามาเรื่อย ๆ
ซึ่งการที่อีลอน มัสก์ ทำเช่นนี้ก็ไม่ได้เป็นการผลักดันแค่ตัวเขา แต่เป็นการผลักดันไปถึงพนักงานในองค์กรของเขาด้วย
แล้วทำไมเขาถึงต้องตั้งเป้าหมายให้สูง
และการตั้งเป้าหมายให้สูงเข้าไว้ มันส่งผลดีต่อองค์กรของเขาอย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
รู้ไหมว่า อีลอน มัสก์ เคยเรียกประชุมครั้งใหญ่ในช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันพักผ่อนของพนักงาน
เพียงเพราะเขาสงสัยว่า ทำไมเวลานั้นโรงงาน SpaceX ถึงไม่เดินหน้าการผลิตแบบตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งวิศวกรของโรงงานก็ได้ออกมาให้คำตอบว่า สาเหตุที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ก็เป็นเพราะว่า
พวกเขาไม่มีพนักงานมาสับเปลี่ยนกะในการทำงาน
และหลังจากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง
พนักงานของ SpaceX ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดย อีลอน มัสก์ ได้จ้างพนักงานเพิ่มอีกกว่า 252 คน
เพื่อมาช่วยเสริมกำลัง และเร่งทำให้งานเสร็จตามที่กำหนด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างการทำงาน เพื่อไปยังเป้าหมายอย่างบ้าคลั่งของเขา จึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากวันหนึ่งเขาจะสามารถไปให้ถึงจุดหมายที่เขาตั้งเอาไว้ได้
คุณ Gwynne Shotwell หนึ่งในพนักงานที่ทำงานร่วมกับ SpaceX มาตั้งแต่ปี 2002
เธอบอกว่า เธอมีความเชื่อมั่นในตัว อีลอน มัสก์ และก็ยังรักองค์กรแห่งนี้ แม้เธอจะยอมรับว่าการทำงานร่วมกับเขานั้นมีความตึงเครียดอยู่บ้างก็ตาม
แต่สุดท้ายเธอก็ยืนยันว่า แม้ว่า อีลอน มัสก์ จะเป็นคนตึงเครียดกับไทม์ไลน์ กำหนดการทำงานต่าง ๆ อย่างมาก แต่มันก็ช่วยให้ทุกคนในบริษัทนั้น ทำงานได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น
และมันทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า การทำงานร่วมกับ อีลอน มัสก์ นั้น เธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเป้าหมายอันสุดโต่งของเขา เมื่อได้ฟังมันครั้งแรก
แต่ให้กลับมาคิดทบทวนว่า อีลอน มัสก์ คิดอะไรอยู่ ถึงมองว่ามันจะเป็นไปได้ และพยายามคิดว่าเธอจะช่วยให้เขาไปยังจุดจุดนั้นได้อย่างไร
อีกคนหนึ่งที่มีประสบการณ์คล้าย ๆ กันก็คือ คุณ Max Hodak
ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Neuralink กับ อีลอน มัสก์ บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์
เขาเคยออกมาบอกว่า อีลอน มัสก์ เป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาก
แล้วอีลอน มัสก์ จะก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดต่าง ๆ จนมันทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้มากกว่าที่คิด
ซึ่งตัวของ อีลอน มัสก์ เอง ก็มีความเชื่อแนวนี้
อย่างในช่วงที่เขาทวีตเปิดรับสมัครงานในแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ว่า
“มีอีกหลายที่ ที่มีงานง่าย งานสบายรอคุณอยู่ แต่ไม่มีใครหรอกที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ด้วยการทำงานเพียง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ซึ่งถ้าเรายิ่งรักในงานที่เราทำ มันจะยิ่งไม่รู้สึกเหมือนเราทำงานเลย..”
References
- ●
- ●
- ●
- ●
- 79
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
