24 ก.พ. 2022 เวลา 07:02 • ธุรกิจ
Digital Workplace ส่งผลต่อพนักงานอย่างไร ?
3
รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป เกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท   ก่อให้เกิดความสะดวกสบายและแก้ไขปัญหาที่เคยมีในการดำเนินงาน
หลายบริษัทได้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัล จึงต่างพากันปรับองค์กรของตนมาสู่แนวทางแบบ Digital Workplace เนื่องจากมีประสิทธิภาพกว่าแบบเก่า แถมยังสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งสำคัญที่สุดของบริษัทคือ บุคลากรหรือคน เพราะเป็นตัวแปรหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจหรือองค์กร หากคนเหล่านี้ทำงานได้ดีย่อมส่งผลให้องค์กรมีประสิทธิภาพและก้าวหน้า เนื่องจากคนเป็นตัวกำหนดทิศทาง รวมถึงการบริหารจัดการให้เป็นไปในทางที่ต้องการ อย่างไรก็ตามจากผลการวิจัยของDeloitte ระบุว่า นอกจากการปรับองค์กรสู่รูปแบบ Digital Workplace ส่งผลให้มีส่วนช่วยในด้านการแข่งขันกับธุรกิจอื่น ๆ แล้ว ยังส่งผลต่อบุคลากรดังนี้
1
4 ข้อดีของการเป็น Digital Workplace ที่ส่งผลต่อพนักงาน
  • 1.
    ดึงดูดใจพนักงานให้เข้ามาทำงานด้วย กว่า 64 % ของพนักงานพึงพอใจกับการทำงานที่บ้าน แม้ว่าจะได้เงินเดือนหรือค่าจ้างลดลง แลกกับการไม่ต้องเดินทางไปที่ออฟฟิศ ส่งผลให้คนเก่ง ๆ ที่มีศักยภาพจำนวนมาก ต้องการร่วมงานกับองค์กรที่เป็น Digital Workplace เพราะสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต
  • 2.
    พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น องค์กรที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการดำเนินงาน เช่น แอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ทำให้พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับองค์กรที่ไม่มีเครื่องมือเหล่านี้
  • 3.
    สร้างความพึงพอใจแก่พนักงาน การใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่างโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือแพลตฟอร์มกลางขององค์กร ช่วยสร้างความพึงพอใจแก่พนักงานเพิ่มขึ้น 20%
  • 4.
    ลดอัตราการเปลี่ยนงาน เมื่อพนักงานมีความพึงพอใจ มักจะตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้พนักงานมีความภักดีต่อองค์กรเพิ่มขึ้นถึง 87% นี้
2
กรอบแนวคิดของ Digital Workplace Framework
  • ใช้หลัก 3C Collaborate, Communicate, Connect หลักการทำงานของ Digital Workplace นอกจากมีทักษะในงานแล้วยังต้องร่วมมือทำงานกันเป็นทีมได้ สามารถสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร นอกจากช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานแล้วยังก่อให้เกิดการแบ่งปันความรู้ระหว่างกัน
  • สร้าง Digital Toolbox องค์กรที่เป็น Digital Workplace ต่างมี Digital Toolbox ที่ใช้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะอุตสาหกรรมและเป้าหมายของธุรกิจนั้นๆ สิ่งสำคัญคือการหาเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในการดำเนินงาน นอกจากจะบรรลุถึงเป้าหมายแล้วยังช่วยเสริมสร้างทักษะทางดิจิทัลให้แก่พนักงานด้วยเช่นกัน
  • ควบคุมความเสี่ยงและข้อจำกัดทางกฎหมาย ก่อนที่จะนำเทคโนโลยีและเครื่องมือใด ๆ มาใช้ในองค์กร ควรคำนึงถึงโครงสร้างหรือข้อจำกัดของรัฐด้วย ว่าเอื้ออำนวยหรือขัดต่อกฎหมายหรือไม่ หากไม่เหมาะสมก็ควรเปลี่ยน รวมถึงการกำหนดนโยบายในการใช้งานไม่ให้เกิดปัญหาต่อสังคม
  • สร้างให้ธุรกิจเติบโตและมีคุณค่า เป้าหมายหลักของธุรกิจคือการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่องค์กรต้องปรับไปสู่การเป็น Digital Workplace เพราะจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานจากประโยชน์ของการใช้เครื่องมือทางดิจิทัล รวมถึงพัฒนาธุรกิจให้อยู่เหนือกว่าคู่แข่ง
จะเห็นได้ว่า การรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรต่อไปได้ ย่อมทำให้การดำเนินงานราบรื่นไม่สะดุดหรือคั่งค้าง โดยเฉพาะพนักงานที่เก่งและมีประสิทธิภาพ เพราะพนักงานประเภทนี้จะหาวิธีการใหม่ ๆ พร้อมความคิดสร้างสรรค์ เข้ามาปรับปรุงแก้ไขการทำงานนั่นเอง ขณะเดียวกัน Ditto (Thailand) เองก็มีระบบจัดเก็บเอกสาร ที่เป็นเครื่องมือทางดิจิทัล ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการเป็น Digital Workplace ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องระบบจัดการเอกสารที่เคยมีอย่าง การชำรุด, สูญหาย, ค้นหายาก ทั้งยังส่งเอกสารทางออนไลน์ได้เลยแม้อยู่กันคนละสถานที่ นอกจากจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยประหยัดวัสดุสำนักงานอย่างกระดาษและหมึกพิมพ์ ตลอดจนแฟ้มและกล่องที่ใช้จัดเก็บกองเอกสารเหล่านี้ รวมถึงพื้นที่ที่ต้องเสียไปในการจัดเก็บด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
Deloitte
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำทางธุรกิจ
ติดต่อได้ที่
Call Center: 02 517 5555
Line Official: @dittothailand https://line.me/R/ti/p/%40dittothailand
1
LineOfficial:@dittothailand
โฆษณา