24 ก.พ. 2022 เวลา 11:00 • ดนตรี เพลง
เจมส์ บลันต์
You’re Beautiful เพลงฮิตที่แต่งโดย ‘ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป’
My life is brilliant
My life is brilliant
My love is pure
I saw an angel
Of that I’m sure
She smiled at me on the subway
She was with another man
But I won’t lose no sleep on that
’Cause I’ve got a plan
(ชีวิตของผมช่างดีเลิศ ชีวิตของผมช่างดีเลิศ ความรักของผมนั้นบริสุทธิ์ ผมได้เห็นนางฟ้า ใช่ละนางฟ้าแน่ ๆ ผมมั่นใจ เธอยิ้มให้ผมในรถไฟใต้ดิน เธอมากับชายอีกคน แต่ผมจะไม่นอนไม่หลับเพราะเรื่องแค่นี้หรอก เพราะผมมีแผนไว้แล้ว)
เดือนพฤษภาคม ปี 2005 เสียงกีตาร์เล่นโน้ต 4 ตัวขึ้นนำตามด้วยเสียงร้องอันนวลนุ่มของหนุ่มจากเกาะอังกฤษคนหนึ่งกำลังถูกเปิดเป็นครั้งแรกที่วิทยุ -เพลง You’re Beautiful
เพลงนี้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล คือหนึ่งในเพลงที่ทำให้ชายผู้นี้ได้โอกาสในการทำอัลบั้มกับโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในโลกดนตรีป็อปอย่าง ทอม ร็อดร็อก (Tom Rothrock) และเพลง You’re Beautiful นี่เองแหละที่ได้แนะนำให้ทั้งโลกรู้จักกับชายหนุ่มผู้เคยผ่านสงครามในโคโซโวก่อนผันตัวมาเป็นนักร้องในวัย 31
เขาคือ เจมส์ บลันต์ (James Blunt) นั่นเอง
You’re beautiful
You’re beautiful
You’re beautiful, it’s true
I saw your face in a crowded place
And I don’t know what to do
’Cause I’ll never be with you
(เธอสวย เธอช่างสวยงาม เธอสวยจริง ๆ ผมเห็นหน้าเธอในที่ที่มีผู้คนมากมาย และผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะผมรู้ว่าผมจะไม่มีวันได้อยู่กับคุณ)
เพลง You’re Beautiful ดังขนาดไหน เอาเป็นว่านิตยสาร Esquire เคยยกว่าเป็นเพลงป็อปที่ ear worm ที่สุดเพลงหนึ่งในรอบทศวรรษ แถมเพลงนี้เคยขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนหน้าบิลบอร์ดชาร์ตและอยู่บนชาร์ตยาวนานถึง 38 สัปดาห์ติดต่อกัน พูดง่าย ๆ คืออยู่บนชาร์ตวิทยุเกินครึ่งปีนั่นเอง ทางด้านยอดขาย สำนักข่าว BBC เคยรายงานไว้ในปี 2009 ว่า อัลบั้ม Back to Bedlam ที่มีเพลง You’re Beautiful อยู่ในนั้นได้กลายเป็นอัลบั้มของศิลปินอังกฤษที่ขายดีที่สุดในรอบ 10 ปี โดยขายได้ถึง 18 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก
Yes, she caught my eye
As we walked on by
She could see from my face that I was
Fucking high
And I don’t think that I’ll see her again
But we shared a moment that will last ’til the end
(ใช่, เธอต้องตาผม และในขณะที่เราเดินสวนกัน เธอคงเห็นว่าหน้าของผม โคตรจะฟุ้งเลย ผมไม่คิดว่าผมจะได้เจอเธออีก แต่เราทั้งคู่ก็ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่มันจะคงอยู่ตลอดไป)
#ที่มาของเพลงโรแมนติกเหมือนในเนื้อเพลงไหม
เนื้อหาของเพลง You’re Beautiful พูดถึงชายหนุ่มที่บังเอิญได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน แต่สาวเจ้าไม่ได้มาคนเดียว เธอมากับชายอีกคนที่เป็นคนรักของเธอ เขาทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรกัน ได้แต่เพียงประสานสายตาแล้วก็จากกันไป
เนื้อหาสุดชวนฝันที่เจมส์ บลันต์ถึงกับต้องเขียนขึ้นมาเป็นเพลงนี้คงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนเพลงทั่วโลกรู้สึกเคลิบเคลิ้มถึงชายหนุ่มที่สุดแสนจะโรแมนติก ที่เพียงแค่เดินผ่านหญิงสาวคนหนึ่งในสถานีรถไฟ ก็หยิบเอามาแต่งเป็นเพลงได้ ด้วยเหตุนี้เองคนจึงต่างพากันตั้งคำถามว่า เอ๊ะ! เจมส์ บลันต์เขียนเนื้อเพลงนี้ขึ้นมาจากชีวิตจริงหรือเปล่า? เขาเจอกับแฟนเก่าที่รถไฟใต้ดินใช่ไหม?
คำตอบต่อคำถามแรกก็คือ…ใช่, เขาเขียนขึ้นจากชีวิตจริง เจมส์ บลันต์ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “คนชอบมาตีตราเพลงนี้ว่า โอ้โห! เจมส์ บลันต์ เขาช่างโรแมนติกอะไรขนาดนี้ คือ (ผมอยากจะบอกว่า) จะบ้าหรอ ไม่เลย มันไม่ได้โรแมนติกเลย You’re Beautiful โคตรจะไม่ใช่เพลงโรแมนติก มันเป็นเพลงเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เดินตามแฟนสาวของชาวบ้านตอนที่ตัวเองกำลังเมาแบบโคตร ๆ จริง ๆ ผมว่าผู้ชายคนนี้น่าจะโดนจับไปขัง หรือโดนจับเข้าคุกหรืออะไรสักอย่างนะโทษฐานที่ไปเดินตามชาวบ้านเขาแบบนั้น” สรุปก็คือเจมส์เขาเขียนถึงชีวิตเขาที่เจอกับสาวแสนสวยบนรถไฟใต้ดินจริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่สาวคนนั้นเป็นแฟนเก่าเจมส์หรือเปล่าน่ะหรอ?
คำตอบก็คือ ใช่อีกนั่นแหละ เจมส์บอกกับทั้ง Huffington Post และ The Guardian ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน เขาเจอกับแฟนเก่า แต่แฟนเก่าของเขามากับแฟนใหม่ของเธอ ทั้งสองจึงไม่ได้พูดทักทายกัน เพียงแค่ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วก็เดินจากกันไป เจมส์กลับบ้านแล้วเขียนเพลงนี้เสร็จภายใน 2 นาที จากนั้นเขาก็ไปหาเพื่อนนักแต่งเพลงอีก 2 คน ซาชา สะการ์เบก (Sacha Skarbek) และ อแมนดา โกสต์ (Amanda Ghost) เพื่อทำเพลงนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ และเพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงฮิตระเบิด จุดประกายเส้นทางศิลปินดังให้เจมส์ตั้งแต่นั้นมา
#ชีวิตทหารที่โคโซโว
ย้อนกลับมาที่เรื่องราวของเขา ชีวิตของเจมส์ หรือชื่อเดิม เจมส์ เบลาซ์ (James Blount- ซึ่งต่อมาเปลี่ยนจากเบลาซ์ เป็นบลันต์เมื่อเป็นศิลปิน) เกิดปี 1974 ที่อังกฤษ ในครอบครัว เขามีคุณพ่อเป็นทหาร เส้นทางชีวิตของเจมส์จึงดูเหมือนถูกวางอยู่บนเส้นทางทหารตั้งแต่เด็ก ทั้งการถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ 7 ขวบ ได้รับทุนจากกองทัพให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย Bristol University จากนั้นก็ไปฝึกทหารและเข้ารับใช้ชาติในการไปร่วมรบที่บอลข่านและโคโซโว แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเจมส์ต้องการจะเป็น แต่อันที่จริงแล้ว ดนตรีต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเจมส์ หลังจากรับใช้ชาติอยู่ 4 ปี เจมส์ก็ลาออกจากการเป็นทหารมาเดินทางบนสายดนตรี
พอออกจากกองทัพ เจมส์ก็เริ่มทำเดโมส่งค่ายเพลงโดยใช้กีตาร์คู่ใจของเขา โดยเจ้ากีตาร์ตัวนี้เอง เจมส์พกพาไปที่โคโซโวด้วย แต่ช่วงที่เขาทำเดโมเพลงอยู่ มีอยู่วันหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์ของเจมส์เกิดเสียหลักล้มลง ทำให้กีตาร์ที่อุตส่าห์รอดจากสงครามมากลับต้องมาพังลงที่ข้างทางเพราะรถล้ม เรื่องนี้จึงเป็นโจ๊กที่เจมส์เล่าให้ใครฟังทีไรก็เป็นเรื่องตลกในหมู่เพื่อนทุกที
เจมส์มีโอกาสเล่นที่งาน The Texas South by Southwest Music Festival ในปี 2004 และที่นี่เองที่งานของเจมส์ไปเตะตาโปรดิวเซอร์แมวมองอย่าง ลินดา เพอร์รี (Linda Perry) จนเขาได้ทำอัลบั้มที่ทำให้พวกเราได้รู้จักเพลง You’re Beautiful อย่างทุกวันนี้
#ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป
การเป็นศิลปินที่มีเพลงฮิตระเบิดอย่าง You’re Beautiful ใครจะมาคิดว่า วันหนึ่งเขาจะได้รับฉายา “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป”
อันที่จริงฉายานี้ จะว่าไปก็เป็นฉายาที่ศิลปินหลายคนในวงการเพลง เช่น จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) นิกกี้ มินาจ (Nicky Minaj) คริส บราวน์ (Chris Brown) ต่างได้รับมาเช่นกัน แต่รอบนี้มันเวียนมาถึงคราวของเจมส์ บลันต์นี่สิ ทำไมน่ะหรอ?
น่าจะเป็นเพราะว่ามีนักดนตรีหรือแอนตี้แฟนหลาย ๆ คนต่างพากันยกฉายานี้ให้กับเจมส์กระมัง ตัวอย่างก็อย่างเช่น ชิเคน (Chicane) นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษเคยทวีตถึงเจมส์ว่า “อืมม์...ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ แต่ไม่รู้สึกบ้างหรอว่าเจมส์ บลันต์ดูเป็นคนงี่เง่านะ?” จามีลา จามิล (Jameela Jamil) ดารา นักแสดงและนักจัดรายการวิทยุชาวอังกฤษก็เคยพูดถึงเจมส์ ก่อนเข้าเพลงของเจมส์ว่า “เป็นชายที่ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” หรือจะจาก โนล กาลาเกอร์ (Noel Gallagher) มือกีตาร์และนักร้องนำร่วมของวงร็อกชื่อดังตลอดกาลของอังกฤษอย่าง Oasis ก็กึ่งแซวเล่นกึ่งแขวะว่า ภายหลังจากที่รู้ข่าวว่าเจมส์ซื้อบ้านในอิบิซาย่านเดียวกับตัวเองว่า “ผมนี่อดคิดไม่ได้เลยว่า (นี่ผม) ต้องมาอาศัยอยู่บนถนนละแวกเดียวกับที่เขา (เจมส์) กำลังเขียนเพลงห่วย ๆ อยู่” แล้วโนลก็ประกาศขายบ้านหลังนั้น
#ตอกกลับความเกลียดยังไงให้ยิ่งดังและเพิ่มฟอลโลเวอร์
ทั้ง ๆ ที่ได้รับฉายา “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” แต่เจมส์กลับตอบโต้กระแสนี้กลับไปอย่างเข้าใจโลกว่า “ผมว่ามันไม่เห็นจะซับซ้อนเลย ผมมีเพลง (You’re Beautiful) ที่ถูกเปิดบนวิทยุบ่อยซะจนถึงขั้นน่ารำคาญ พอคนเริ่มรำคาญเพลง เขาก็คงพาลมารำคาญ (และไม่ชอบ) ศิลปินเอาด้วยน่ะครับ” แต่การตอบกลับแบบนี้ไม่ได้ทำให้กระแสของ “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” นั้นลดลงเลย ในทวิตเตอร์ยังคงมีคนทวีตข้อความเชิงเกลียดชังหรือดูถูกมาหาเจมส์อยู่บ่อยๆ
ด้วยกระแสเกลียดชังและกดดันแบบนี้ ผู้คนก็คาดว่าเจมส์อาจจะระเบิดอารมณ์ออกมา หรืออกมาด่ากราดหรือโต้กลับชาวเน็ตอย่างเผ็ดร้อนเป็นแน่
แต่เจมส์เหนือชั้นกว่านั้น เขาตอบกลับข้อความทวีตที่มาแขวะเขาต่าง ๆ นานา ด้วยความเจ็บแสบแบบนิ่ม ๆ แถมยังบวกอารมณ์ขันเข้าไปอีก ซะจน Buzzfeed เคยเขียน 17 เหตุผลที่คุณควรฟอลโลว์เจมส์ บลันต์ในทวิตเตอร์ ข้อความที่เจมส์ตอบกลับแอนตี้แฟนก็อย่าง เช่น
แอนตี้แฟน: “ฟัคยู เจมส์ บลันต์” / เจมส์: “โทษทีนะ แต่ถ้าอยากจะด่าช่วยไปรับบัตรคิว แล้วต่อแถวด้วย”
แอนตี้แฟน: “พวกเธอว่าใครห่วยกว่ากัน เจมส์ บลันต์ หรือ โรบิน ทีค?” / เจมส์: “ผม ผม ผม เลือกผม เลือกให้ผมห่วยกว่านะ”
แอนตี้แฟน: “ผมต้องเลิกกับแฟน เพราะเธอชอบเพลงของคุณ เธอมันหูหนวก!” / เจมส์: “ถ้าเธอเป็นแฟนคนอย่างคุณ ผมสงสัยว่าเธอคงจะตาบอดด้วยนะ”
1
หรือบางทียังไม่ทันจะมีแอนตี้แฟนมาทวีตอะไรเลย เจมส์ บลันต์ก็ชิงแขวะตัวเองก่อนด้วยอารมณ์ขัน เช่น “คุณคิดว่าปี 2016 มันแย่แล้วหรอ ผมจะปล่อยอัลบั้มใหม่ปี 2017 นะ”
1
จะเห็นว่าทวีตต่าง ๆ ของเจมส์ เต็มไปด้วยความตลกร้าย คือ ทั้งจิกกัด และเชือดแอนตี้แฟนแบบนิ่ม ๆ จน The Sun เคยเขียนคอลัมน์รวบรวมทวีต 15 ทวีตของเจมส์ที่คมกริบแม่นยำชนิดที่ว่าถ้าเป็นกระสุนปืนก็คงจะเข้าเป้าคู่ต่อสู้แบบน็อกคาที่ไปเลย
กลับมาที่เพลงแจ้งเกิดให้กับเจมส์ บลันต์อย่าง You’re Beautiful ที่เจมส์เขียนจากชีวิตจริงที่ได้เพียงแต่มองหน้ากับแฟนเก่าที่บังเอิญเจอกันบนรถไฟโดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะทักทายหรือบอกลากันสักคำ ภาษาฝรั่งเศสมีประโยคหนึ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวตะวันตก คือ C’est la vie หรือ นี่แหละชีวิต บางครั้งโชคชะตาอาจจะพาให้เราได้รู้จักและรักใครสักคนในช่วงเวลาหนึ่ง พอหมดสิ้นวาสนากันก็ต่างแยกทางกันเดินไปคนละทาง เจอกันอีกทีในวันข้างหน้าก็อาจจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะเดินเข้าไปทักทายกัน แต่ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าวันนั้นแฟนเก่าของเจมส์ยังไม่มีใคร และเขาได้มีโอกาสเดินเข้าไปบอกเธอว่า “You’re Beautiful”
ที่มา
เรื่อง: มณีเนตร วรชนะนันท์
#ThePeople #Culture #เจมส์บลันต์ #You’reBeautiful
โฆษณา