25 ก.พ. 2022 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⭐ สรุป Oppday CBG Q4/2021 ⭐ : รายได้ Q4 4,382 ลบ. โต 3% จากฝั่ง Distribution โต 30% สินค้ากลุ่ม Alcohol ขายดี ส่วนสินค้าแบรนด์หดตัว 6% ทำให้มีกำไรสุทธิ Q4 613% ลบ. ลดลง 30%
Published: 22 Feb 2021
สวัสดีครับ บริษัท บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเริ่มต้นธุรกิจในปี 2545 จากการจำหน่ายเครื่องชูกำลัง “คาราบางแดง” จากนั้นก็เริ่มขยายผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น “Carabao Sport”, “Canrabao Can”, “กาแฟคาราบาว”, “น้ำดื่มคาราบาว”, “Woody C+ Lock” และนอกจากนี้ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำมากขึ้น โดยมีโรงการผลิตขวดแก้ว กระป๋องอลูมิเนียม จัดหาบรรจุภัณฑ์ ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเอง โดยในปีนี้ทั้งปีบริษัทยังสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยที่ 1% แต่โดนกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิในปีนี้ลดลง 18%
🚩1. ลักษณะธุรกิจ
CBG เป็น บริษัท Holding Company โดยถือหุ้นในธุรกิจที่ดำเนินการตั้งแต่ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังไปจนถึงจัดจำหน่าย โดยแบ่งออกเป็น
CBD ถือหุ้น 100% ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังพร้อมขาย
APG ถือหุ้น 100% ผลิตขวดแก้ว
DCM ถือหุ้น 100%
ผลิตกระป๋องอลูมิเนียม
APM ถือหุ้น 100% ผลิตและจัดหา กล่องลูกฟูก ฉลากพลาสติก แผ่นฟิล์มหด
AWD ถือหุ้น 85% ทำเครื่องดื่ม “Woody C+ Lock”
DCM ถือหุ้น 100%จัดจำหน่ายใน Traditional trade และ Monder trade
ICUK ถือหุ้น 84%ทำตลาดและจัดจำหน่ายในประเทศนอกเอเชีย
◼️วัสดุที่สำคัญในการผลิต◼️
▪️ น้ำตาล
▪️ ขวดแก้ว => ทรายแก้ว ก๊าซธรรมชาติ
▪️ กระป๋องอลูมิเนียม => อลูมิเนียมคอยด์ ก๊าซธรรมชาติ
🚩2. ภาพรวมและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
◼️ภาพรวมปี 2021◼️
✔ รายได้ทั้งปีเพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 17,364 ลบ. เนื่องจากสินค้าผลิตในแบรนด์ตัวเองหดตัวลง 10% มาจากการหดตัวทั้งในประเทศ 14% และต่างประเทศ 15% ซึ่งมากจากกลุุ่ม CLMV ที่มีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศถึง 80% ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น พม่าโดนรัฐประหาร กัมพูชาโดนน้ำท่วม ประกอบกับสถานการณ์ปิดเมืองจากโควิด แต่สัดส่วนรายได้จากฝั่ง disatribution โตถึง 48% โดยมาจากสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์เป็นหลัก เช่น “สุราข้าวหอม” ที่ทำการเติบโตถึง 60% และ “TAE YANG Soju” ่ที่ยอดขายเติบโตขึ้นเฉลี่ย 32% ในแต่ละเดือน
 
✔ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจาก น้ำตาล อลูมิเนียม ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก41% เหลือ 36% ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่ม 12๔ จากการจ้างพนักงานฝั่ง IT เพิ่มซึ่งส่ง ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2021 ลดลงเหลือ 2,881 ลบ. ซึ่งลดลง 18%
◼️ภาพรวมปี 4Q21◼️
✔ รายได้เพิ่มขึ้น 3%. เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านอยู่ที่ 4,382 ลบ โดยหลักๆมาจากฝั่ง Distribution เติบโต 30% ที่สินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์เติบโตสูง แต่อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 39% เหลือ 31% จากต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอลูมิเนียมคอยด์ แต่อย่างไรก็ตาม GPM ฝัง Distribution ปรับตัวสูงขึ้น จาก 6.3% เป็น 7.9% เนื่องจากสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์พรีเมียมที่เป็น high margin ขายดี ส่งผลให้กำไรสุทธิใน Q4 เหลือ 613 ลบ. -30% YoY, +2% QoQ
✔ ในส่วน D/E ยังน้อยมากอยู่ที่ 0.7 เท่า ยังเหลือ Loan ให้กู้อีกเยอะมาก
🚩3. แผนงานในอนาคตและการเติบโต
✔ ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นทางบริษัทได้มีเจรจาการปรับราคาขายส่ง โดยจะเป็นการลดการให้ Rebate, Discount กับคู่ค้าต่างประเทศ ส่วนในประเทศมองการขึ้นราคาบางส่วน แต่ก็ยังรอดูว่าเจ้าตลาดจะปรับราคาเครื่องดิ่มชูกำลังเพิ่มไหม? บวกกับการลดต้นทุนโดยเน้นเรื่องของ productivity, energy saving ซึ่งคาดว่าจะทำให้ GPM อยู่ในระดับ 40 - 42% บวกลบ
✔ บริษัทเชื่อว่า Q3 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้วและมองการเติบโตจากสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์เป็นหลักโดยคาดว่า “สุราข้าวหอม” น่าจะเติบโตอีก 50 - 60% ในปีนี้ และ “TAE YANG Soju” ออก 3 รสชาติใหม่ซึ่งที่ยอดขายเติบโตทุกเดือนเฉลี่ย 32% โดยคาดว่าขายได้ 48 ล้านขวด โดยเป็นสินค้าที่มีมี GPM สูงมากกว่า 10% ซึ่งคาดว่าจะได้ยอดขายประมาณ 3,000 ลบ. และกำลังปรึกษากับโรงเหล้าในการทำสินค้าแอลกอฮอล์ออกมาเพิ่ม
✔ นอกจากนี้บริษัทเล็งเห็นยอดขายของจีน เวียดนามที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวเรื่อยในต้นปี 2022 ส่วนกัมพูชาก็กำลังฟื้นตัวเช่นกัน ส่วนสินค้ากัญชงยังอยู่ในขั้นตอนทำการทดลองด้านวิทยาศาสตร์ โดยน่าจะออก 3 Product ใน 2Q/2022 ทั้ง soft Drink + Functional Drink
และบริษัทกำลังศึกษาเรื่องสินค้าใหม่ที่เป็น Food, Non-Food หรือ M&A และมองการเติบโตในปี 2022 ไว้ที่ double digit growth และมอง ICUK ว่าจะโตได้อีก 50% คาดว่าน่าจะ Break Even ใน 2-3 ปี
🚩4. ข้อมูลอื่นๆ จาก Section Q&A
◼️การเติบโตภาพรวม◼️
✔ คาดว่ายอดขายฝั่งสินค้า non-alcohol โต 20% ประกอบกับต้องประเมินสถานการณ์โควิดอีกครั้งนึง และสินค้า alcohol เติบโต 100% ในครึ่งปีแรก ส่วนทั้งปีคาดว่าน่าจะโตได้ 30 - 40%
✔ ในส่วนของต้นทุนสูงคาดว่าจะปรับราคาขายส่ง 1-2% ส่วนราคาขายปลีกรอดูเจ้าตลาดก่อน
✔ ตอนนี้บริษัทกำลังศึกษาเกี่ยวกับแผนจำกัดความเสี่ยงที่ราคาอลูมิเนียมปรับตัวสูงขึ้นตลอด
✔ ในส่วนของส่วนแบ่งการตลาด เครื่องดื้มชูกำลังราคา 10 บาทเริ่มอิ่มตัวแล้ว โดยคาราบาวจะ
ทำขวด 12 บาทออกมาขายโดยเพิ่มสารพวกวิตามินเสริมเข้าไป
✔ ส่วนของค่าจัดจำหน่ายในส่วน Distribution อยู่ที่ประมาณ 7% ถือว่าเราได้มากกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 4-6% โดยหลักๆมาจากการขายสินค้า high premium มากขึ้นทำให้ได้ rebate
มากขึ้น โดยคาดว่าจะได้ GPM 7.4 - 7.9% จาก “TAE YUNG” และฝั่ง Distribution น่าจะเติบโต 50%
◼️การเติบโตต่างประทศ◼️
✔ ยอดขายจากกัมพูชามีผลทั้งโควิดและการแข่งขัน แต่เห็นสัญญาณกลับมาเติบโตหลังจากโค
วิดมีสถานการณ์ดีขึ้นในเดือนมกราคม โดยตอนนี้กินส่วนแบ่งการตลาด 80% ในกัมพูชา
✔ บริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจีน โดยตอนนี้คาดว่ามีส่วนแบ่งอยู่ที่ 1.5% โดยเราเรียนรู้แล้วว่า สินค้า CBG ทำตลาดในเมืองไหนได้บ้าง โดยเราจะเน้นเมืองที่ผ่านมาขายดี เช่น มณฑลภาคตะวันตกของจีน ได้แก่ ยูนาน เสฉวน ไปจนถึงทิเบต ชิงไฮ เป็นพื้นที่ทีไ่ด้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยในปีที่ผ่านมาโต 89% ปีนี้คาดว่าจะโต 50 - 60% และใน ปี 66 อาจจะเป็นก้าวกระโดด เพราะเครื่องดื่มพวกนี้มีโมเมนตัมในการเติบโต โดยคาด โดยปกติจีนจะมียแกขายเป็น seasonal โดย Q1โต Q2 Peak และ Q3 ดรอปลง และ Q4 น้อยสุดเพราะเข้าหน้าหนาว
✔ ในส่วนอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ Partner แล้ว โดยปีนี้จะเริ่มเข้าไปทำตลาดโดยเฉพาะในฟิลิปปินส์
◼️อื่นๆ◼️
✔ อยู่ในขั้นตอนพิจารณาเรื่อง M&A โดยบริษัทมี supply chain ที่ค่องข้างแข็งแกร่งซึ่งตอนนี้เป็นพันธมิตรกับ “CJ” ที่มีแผนขยายสาขา 1,000 สาขา จากเดิม 800 สาขา และ “ถูกดี” แผนขยายสาขา 10,000 สาขา จากเดิม 3,000 สาขา
✔ ไม่มีแผนสนับสนุนกีฬาเพิ่มเติม
✔ บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 600 ลบ. สำหรับ modify เครื่องจักร + Maintainnace + ลดต้นทุนการผลิต
✔ บริษัทไม่ใช้ขวดแก้วแทนอลูมิเนียในการส่งออกเนื่องจากเทรนการบริโภคต่างประัเทศนิยม อลูมิเนียม โดยขวดแก้วมีขายแค่ใน ญป ไทย ลาว
💡 Key Takeaways
▪️ สถานการณ์โควิดคลี่คลายบริษัทยอดขายจะกลับมาดี โดยเฝ้าติดตามใน CLMV เพิ่มเติมเพราะกินส่วนแบ่งการขายถึง 80% ของต่างประเทศ ส่วนถ้าการเติบโตในจีนเป็นไปตามที่ผู้บริหารบอกไว้บริษัทจะเติบโตไปอีกขั้น แต่ขอให้สังเกตุว่าการทำตลาดในจีนไม่ง่าย และยังไม่เห็นแบรนด์ไหนประสบความสำเร็จในจีนจริงๆ
▪️ สินค้ากลุ่ม Alcohol ขายดีมาก และบริษัทยังมีแผนจับมือกับโรงเหล้าในออกสินค้ามาขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยถ้าสินค้าขายดีมากขนาดนี้น่าจะเกิดการใช้บวกกับซื้อซ้ำและบอกต่อ
▪️ สถานการณ์ความไม่สงบจากสงครามอาจจะกดดันราคาวัตุดิบอย่างอลูมิเนียมให้สูงขึ้นต่อได้ แต่ก็ไม่มีสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ตัวไหนที่ราคาขึ้นเรื่อยๆได้ ก็อาจจะมองว่าเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นหรือเปล่า?
------------------------------
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
สามารถฟัง Oppday ตัวเต็มได้ที่ ▶️ https://www.set.or.th/streaming/vdo/4907?title=Opp%20Day
#OppdayQ42021 #CBG
โฆษณา