ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกดราม่า TwentyFive TwentyOne เลือกหยิบยกชีวิตของหนุ่มสาวที่ถูกพรากความฝันไปด้วยอุปสรรคขนาดใหญ่ที่เรียกว่าวิกฤตการณ์ IMF มานำเสนอให้ชมในยุคสมัยที่ความฝันของเรากำลังถูกกักขังเอาไว้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
TwentyFive TwentyOne คือเรื่องราวเกี่ยวกับแพคอีจิน แสดงโดย นัมจูฮยอก อดีตนักศึกษาวิศวะปี 2 ที่บ้านล้มละลายจนต้องหยุดการเรียนเอาไว้ และสาวนักกีฬาฟันดาบ นาฮีโด แสดงโดย คิมแทรี ผู้มุ่งมั่นและพยายามทำทุกวิถีทางให้ความฝันของตนเองได้เดินต่อ โดยซีรีส์จะบอกเล่าเรื่องราวการเติบโต มิตรภาพและความรักตั้งแต่ปี 1998 ถึง 2021 ซึ่งเกิดขึ้นกับคนสองคนที่ได้พบกันครั้งแรกตอนที่แพคอีจินอายุ 22 ปี และนาฮีโดอายุ 18 ปี ท่ามกลางความอลม่านวุ่นวายทางเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ที่กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน IMF ในช่วงปี 1998 ความรักของพวกเขาทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลา 4 ปีถัดมา เป็นตอนที่พวกเขาอายุ 25 ปี และ 21 ปี
ในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญกับวิฤตการณ์ IMF ซีรีส์นำเสนอผลกระทบทางวิกฤตเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ต่อความฝันที่ล่มสลายของคนวัยทำงาน วัยนักศึกษา รวมถึงนักเรียนมัธยมให้เราเข้าใจได้เป็นอย่างดี ตัวละครในเรื่องอย่างครอบครัวของแพคอีจินเคยร่ำรวยมาก่อน พ่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
พอเกิดวิกฤต IMF ขึ้นมา ทำให้ตัวเขาต้องสละความฝันหลังจากเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยได้สองปี ครอบครัวต้องแยกทางกันไปคนละที่ พ่อกับแม่ต้องหย่ากันเพื่อไม่ให้หนี้สินจากบริษัทพ่อตกถึงแม่และลูกๆ
ด้านนาฮีโด เธอเองไม่ได้รับผลกระทบทางตรงเหมือนอย่างแพคอีจิน แต่วิกฤต IMF กับส่งผลกระทบต่อความฝันของเธอ เมื่อโรงเรียนต้องลดค่าใช้จ่ายลง จึงเลือกปิดชมรมฟันดาบที่เธอรักและใช้เวลาฝึกฝนอยู่กับมันตลอดมา ซึ่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประชากรชาวเกาหลีใต้ในยุคสมัยวิกฤตการณ์ IMF ก็สามารถเป็นเหตุเป็นผลให้กับความเป็นไปของตัวละครในซีรีส์ได้จนหลายๆ คนอินตามกันไป
หลายครั้งที่เรื่องราวและเหตุการณ์ในอดีตนั้นเป็นบทเรียนให้เราสามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้กับสถานการณ์ในยุคนั้นๆ ได้ ดังนั้นหากจะลองย้อนไปทำความเข้าใจกับวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในประเทศไทยว่านำไปสู่วิกฤตการณ์ IMF ในเกาหลีใต้ได้อย่างไร เราก็อาจจะเข้าใจกับสถานการณ์และเนื้อเรื่องใน TwentyFive TwentyOne มากขึ้น! กอดความฝันให้แน่นๆ แล้วตามมาอ่านสรุปสั้นๆ จาก happening กันเลย
ก่อนหน้าวิกฤตการณ์ IMF ของเกาหลีใต้นั้น เศรษฐกิจของประเทศไทยเรามีปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วแบบเปราะบางจนเกิดสภาวะฟองสบู่ในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ การเปิดเสรีทางการเงิน และยังถูกโจมตีค่าเงินเป็นระยะๆ จากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เข้ามาชอร์ตเงินบาท (ชอร์ตเงินบาท คือการกู้ยืมเงินบาทออกมาขายในตลาดเพื่อหวังว่าในอนาคตหากเงินบาทอ่อนค่าลง ผู้ขายชอร์ตเงินบาทจะใช้เงินดอลลาร์ที่น้อยลงในการซื้อเงินบาทกลับไปคืนผู้ให้กู้) เพื่อสร้างกำไรให้กับกองทุนของตนเอง
รวมทั้ง อำนวย วีรวรรณ รองนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีการคลังในขณะนั้นตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนดำดิ่งลงจนในที่สุดธนาคารแห่งประเทศไทยต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เนื่องจากขาดเงินตราสกุลอื่นๆ สำรอง ไทยเราจึงต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนระหว่างประเทศ (IMF) กว่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการพยุงค่าเงินบาท แน่นอนว่าการอ่อนค่าของเงินบาทแบบเท่าตัว ทำให้ผู้ที่กู้ยืมเงินจากต่างประเทศมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นแบบเท่าตัวตามไปด้วย
จุดนี้เองที่ทำให้หลายกิจการในเวลานั้นต้องล้มละลาย ปิดตัวลง ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่จากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ผลกระทบจากประเทศเราขยายไปสู่ประเทศในแทบเอเชีย ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือไทย เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงมีชื่อเรียกเป็นชื่ออาหารที่ต่างชาติรู้ทันทีว่าเป็นอาหารของประเทศไทย นั่นก็คือ ‘วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง’
ในช่วงปีเดียวกันนี้เองเกาหลีใต้อยู่ในการบริหารของ คิม ยัง ซัม ซึ่งในช่วงนั้นเป็นการบริหารประเทศปลายวาระการดำรงตำแหน่ง ด้วยเหตุภาวะทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงมาเรื่อยๆ จากลักษณะการดำเนินงานของสหภาพแรงงาน การล้มละลายของบริษัทฮันโบ และวิกฤตการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจของประเทศในแทบเอเชีย รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มแชโบล (กลุ่มแชโบล คือ กลุ่มธุรกิจครอบครัวที่ผูกขาดตลาดที่ได้รับการเอื้อสิทธิประโยชน์มากมายจากรัฐบาล โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกาหลีใต้เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด) ที่ผสมโรงให้เกิดความไม่แน่นอนและไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ส่งผลให้วันที่ 21 พฤศจิกายน 2540 คิมยังซัง ประกาศขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยขอกู้เงินจำนวน 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา เพื่อไปอัดฉีดทุนสำรองและสถาบันการเงินที่มีสภาพไม่คล่องตัว โดยเฉพาะกับกลุ่มแชโบล เนื่องจากรัฐบาลกังวลว่าหากกลุ่มแชโบลล้มจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
การเข้าไปอุ้มกลุ่มแชโบลของรัฐบาล แลกมาด้วยการเลิกจ้างแรงงานจำนวนมหาศาล อัตราการว่างงานของประชากรเขามีเกือบถึง 2 ล้านคน เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ บริษัทหลายแห่งจ้างพนักงานแบบชั่วคราว สร้างเสริมให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
👻 จากเหตุการณ์ดังกล่าวประเทศเรามีภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราววิกฤตทางเศรษฐกิจเหล่านี้ออกมาในแนวสยองขวัญ เป็นภาพยนตร์โดยค่าย GDH อย่าง เพื่อนที่ระลึก (2560) ที่มีฉากเบื้องหลังเป็นตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ ตึกที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สะท้อนวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง แม้เพื่อนที่ระลึกจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวสะท้อนออกมาผ่านโศกนาฏกรรม ความเชื่อทางศาสนา แต่ก็สะท้อนให้เราได้เห็นถึงความสิ้นหวังของเด็กวัยรุ่น วัยฝัน ช่วงอายุที่กำลังเปี่ยมไปด้วยพลังกายและใจที่กระหายการมีชีวิตที่สมบูรณ์
⭐️ ซึ่ง TwentyFive TwentyOne ที่กำลังออกอากาศจะมาบอกเล่าผลกระทบจากวิกฤตการณ์ IMF ในประเทศเขา ผ่านเรื่องราววัยรุ่นที่คุณเคยผ่านมาแล้วหรือกำลังเป็นอยู่ในวิกฤตใดวิกฤตหนึ่งของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมตอกย้ำความผิดหวังของคนหนุ่มสาวเพื่อจุดประกายไฟในตัวเราให้ติด ด้วยความหวังว่าความฝันที่มีจะเป็นจริงในสักวัน
😷 ทั้งเรื่องราวในความเป็นจริงและเรื่องราวในซีรีส์หรือภาพยนตร์ สะท้อนให้เราคิดว่าบางครั้งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรามากเหมือนกัน อย่างสถานการณ์ในปัจจุบันตอนนี้เอง คนทั่วโลกถูกแช่แข็งความหวัง ความฝัน อนาคตที่ตั้งใจหมายมั่นจะเป็น หรือแม้กระทั่งการดำรงชีวิตในแบบมีข้อจำกัดเอาไว้มา 2 ปีกว่าแล้ว ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เราพยายามควบคุมและอยู่กับมันให้ได้ แต่ก็ยังไม่มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นจริงๆ สักที เราเชื่อว่าหนึ่งในความฝันของทุกคนตอนนี้คงอยากให้โควิดหมดไป หรือไม่ก็มียาที่สามารถเอาชนะมันได้อยู่ในมือเสียที
✨ ไม่ว่าอีพีต่อไป ซีรีส์จะดำเนินเรื่องราวไปในทางไหน เราก็ยังเชื่อว่าตัวละครจะสามารถเตือนใจได้อยู่เสมอว่า ‘อย่าปล่อยให้ยุคสมัย พรากความฝัน’ จงเรียนรู้และพยายามให้ความฝันเดินต่อได้ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลง
ติดตามชม TwentyFive TwentyOne ได้ที่นี่>>
ออกอากาศตอนใหม่ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป
#happeningRecommand #TwentyFiveTwentyOne #NamJoohyuk #KimTaeri #KimJiyeon #NetflixTh #TVN #เพื่อนที่ระลึก
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
