เรื่องราวของ “โมเสส (Moses)”
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนซีรีส์ชุด “บัญญัติ 10 ประการ (Ten Commandments)” ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
แต่สำหรับบทความนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องราวของ “โมเสส (Moses)” ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของซีรีส์ชุดนี้ เผื่อสำหรับคนที่เพิ่งมาติดตามเพจของผม และขี้เกียจอ่านเรื่องหลายๆ ตอน จึงขอเล่าสั้นๆ ย่อๆ
เรื่องราวของ “โมเสส (Moses)” มีความเกี่ยวข้องกับศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ซึ่งแต่ละศาสนาก็จะบอกเล่าต่างกันออกไป หากแต่สาระสำคัญนั้นเหมือนกัน
โมเสส (Moses)
ตามตำนานคำบอกเล่าทางศาสนา โมเสส คือผู้ที่พระเจ้าส่งมายังโลกเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้าจากการกดขี่ข่มเหงของอียิปต์
เรื่องราวของตำนานโมเสส จะเริ่มตั้งแต่โมเสสในวัยเด็ก จนเติบโตเป็นหนุ่ม ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อปลดปล่อยผู้คนจากการกดขี่
เรื่องราวนั้น เริ่มจากบรรดาบุตรของ “อับราฮัม (Abraham)” บุคคลสำคัญในศาสนาอับราฮัม ได้ย้ายจากอิสราเอลมายังอียิปต์ และบุตรของอับราฮัม ก็ได้มีลูกหลาน ขยายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ และชาวอียิปต์ก็ให้การต้อนรับบรรดาบุตรหลานของอับราฮัมอย่างดี
อับราฮัม (Abraham)
จำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของบุตรหลานอับราฮัม ไม่ได้ก่อปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งฟาโรห์พระองค์ใหม่ขึ้นปกครองอียิปต์
ฟาโรห์ได้มีรับสั่งว่าชาวอิสราเอลคือผู้อพยพ เป็นผู้พักอาศัย เป็นเพียงทาส ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติดีด้วย
ฟาโรห์ทรงเกรงว่าจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของชาวอิสราเอล อาจจะไม่เป็นผลดี และวันหนึ่ง ชาวอิสราเอลก็อาจจะเข้ายึดครองอียิปต์
เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์จึงทรงกดขี่ข่มเหงชาวอิสราเอลอย่างหนัก
ชาวฮีบรูหรือชาวอิสราเอลถูกจับเป็นทาสและถูกกดขี่ข่มเหงต่างๆ นาๆ แต่ถึงอย่างนั้น จำนวนของชาวอิสราเอลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อไม่เป็นไปตามที่คิด ฟาโรห์จึงมีรับสั่งให้หมอตำแยที่เป็นผู้ช่วยทำคลอดหญิงชาวอิสราเอล สั่งให้ฆ่าเด็กแรกเกิดชาวอิสราเอลทั้งหมด
หมอตำแยนั้นกลัวและไม่กล้าขัดคำสั่งฟาโรห์ หากแต่ก็ไม่สามารถจะฆ่าเด็กผู้บริสุทธิ์ได้ลง
หมอตำแยจึงทูลฟาโรห์ว่าหญิงชาวอิสราเอลนั้นแข็งแรง และไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอตำแย สามารถคลอดได้ด้วยตนเอง
เมื่อเรื่องออกมาเป็นอย่างนี้ ฟาโรห์ก็ทรงกริ้ว และมีรับสั่งว่าเด็กทารกเพศชายที่เกิดจากหญิงอิสราเอล จะต้องถูกฆ่าทั้งหมด มีเพียงทารกเพศหญิงเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น
ที่ผ่านมา ได้มีนักบวชทำนายว่าความรุ่งเรืองของพระองค์จะจบลงด้วยฝีมือของเด็กชายที่เกิดจากทาสชาวอิสราเอล พระองค์จึงหวาดเกรง และสั่งให้ฆ่าเด็กชายแรกเกิดให้หมดโดยไร้ซึ่งความเมตตา
เหล่าเด็กทารกเพศชายชาวอิสราเอลถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก และในเวลานั้น หญิงที่ชื่อ “โยเคเบด (Jochabed)” ก็ได้คลอดบุตรชายอย่างลับๆ
เพื่อปกป้องไม่ให้ลูกชายถูกฆ่า โยเคเบดได้ห่อลูกน้อยด้วยผ้าและผ้าห่ม และนำไปลอยในแม่น้ำไนล์ หวังว่าพระเจ้าจะคุ้มครองลูก
ทารกน้อยผู้นี้คือ “โมเสส (Moses)”
โยเคเบด (Jochabed)
ขณะถูกนำมาลอยน้ำ พี่สาวของโมเสสก็ได้วิ่งเลียบไปกับแม่น้ำเพื่อดูว่าน้องชายจะลอยตามน้ำไปอย่างปลอดภัยหรือไม่ และราวกับปาฏิหาริย์ ทารกน้อยลอยไปหยุดบริเวณใกล้กับวังของเจ้าหญิงซึ่งเป็นพระราชธิดาในฟาโรห์ ซึ่งขณะนั้น เจ้าหญิงกำลังสรงน้ำอยู่
เจ้าหญิงได้ทอดพระเนตรเห็นทารกน้อย และก็พบว่าทารกผู้นี้งดงามยิ่งกว่าทารกใดที่เคยเห็น เจ้าหญิงจึงตัดสินพระทัยจะเลี้ยงดูทารกผู้นี้
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทารกน้อยหรือโมเสสก็เติบโตด้วยการเลี้ยงดูของเจ้าหญิง โดยเจ้าหญิงได้มีรับสั่งให้พี่เลี้ยงชาวอิสราเอลรายหนึ่งเป็นผู้ดูแลโมเสส ซึ่งก็บังเอิญว่าพี่เลี้ยงผู้นั้น ก็คือโยเคเบด แม่แท้ๆ ของโมเสสนี่เอง
โมเสสเติบโตขึ้นมาโดยมีจิตใจที่ตรงข้ามกับฟาโรห์ เขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากทั้งเจ้าหญิงและพี่เลี้ยง ผู้ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ
และเมื่อโมเสสเห็นถึงความโหดร้ายที่ชาวอิสราเอลต้องเผชิญมาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาก็คิดได้ว่าต้องทำอะไรซักอย่าง
ต่อมา โมเสสได้เข้าไปช่วยทาสนายหนึ่งจากการถูกทหารยามชาวอียิปต์ทำร้าย โดยได้สังหารทหารชาวอียิปต์
เมื่อข่าวว่าโมเสสเข้าไปขัดขวางทหารยาม อีกทั้งยังสังหารทหารอียิปต์ ล่วงรู้ไปถึงพระกรรณของฟาโรห์ ก็ทำให้ฟาโรห์ทรงกริ้วและขับไล่โมเสสออกไปจากเมือง
ระหว่างทาง โมเสสก็พบเห็นกลุ่มผู้หญิงกำลังถูกผู้ชายทำร้าย เขาจึงเข้าไปช่วย และผู้หญิงที่โมเสสช่วย ก็ได้พาโมเสสไปพบพ่อของตน ซึ่งคนเป็นพ่อก็ได้ยกลูกสาวที่ชื่อ “ซิปโปราห์ (Zipporah)” ให้เป็นภรรยาของโมเสส ซึ่งโมเสสกับซิปโปราห์ก็ได้มีบุตรชายด้วยกัน
ซิปโปราห์ (Zipporah)
ในขณะเดียวกัน กลับมาที่อียิปต์ ชาวอิสราเอลก็ต้องทุกข์หนักกว่าที่ผ่านมา
ได้มีฟาโรห์องค์ใหม่ขึ้นปกครองอียิปต์ และองค์ใหม่นี้ก็โหดกว่าองค์ก่อน โดยมีการเพิ่มงานให้ทาสเป็นสองเท่า และทรมานทาสหนักกว่าที่ผ่านมา
ผู้คนต่างทนไม่ไหวและเรียกร้องให้พระเจ้าประทานความช่วยเหลือ และในวันหนึ่ง ขณะที่โมเสสกำลังปีนภูเขาโฮเรบ เขาก็เห็นพุ่มไม้ที่กำลังลุกเป็นไฟ
แต่ที่แปลกก็คือ ถึงแม้ว่าพุ่มไม้จะติดไฟ แต่ทั้งกิ่งไม้ ใบไม้ ยังคงดูปกติ ไม่ได้ดูเหมือนกำลังไหม้
โมเสสได้เดินเข้าไปใกล้กับพุ่มไม้ และก็ได้มีเสียงหนึ่ง บอกแก่โมเสสว่านี่คือเสียงของพระเจ้า และโมเสสคือผู้ถูกเลือกให้เป็นผู้ดูแลประชาชน ช่วยประชาชนที่เดือดร้อน
พระเจ้าประทานพรให้โมเสส และมอบพลังแก่โมเสส
พระเจ้ารับสั่งให้โมเสสลองโยนไม้ที่อยู่ในมือของโมเสสลงบนพื้น และเมื่อโมเสสทำตาม ท่อนไม้ก็ได้กลายเป็นงู
จากนั้น พระเจ้าก็มีรับสั่งให้โมเสสจับที่หางของงู และงูนั้นก็กลับกลายเป็นไม้เช่นเดิม
เมื่อได้รับคำสั่งจากพระเจ้า โมเสสก็ตระหนักว่าตนต้องช่วยเหลือผู้คน
จากนั้น โมเสสจึงเดินทางไปเพื่อช่วยเหลือชาวอิสราเอล โดยเขาได้บอกกับผู้คนว่าพระเจ้าส่งเขามาช่วยเหลือผู้คน และได้แสดงปาฏิหาริย์ด้วยการโยนไม้ลงกับพื้น และไม้ก็กลายเป็นงู
ภายหลัง โมเสสก็ได้เข้าเฝ้าฟาโรห์ ทูลฟาโรห์ถึงรับสั่งของพระเจ้า
โมเสสได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ฟาโรห์ทอดพระเนตร และทูลว่าหากฟาโรห์ไม่หยุดกดขี่ และไม่ยอมปล่อยชาวอิสราเอล พระเจ้าก็จะลงโทษชาวอียิปต์
หากแต่ฟาโรห์ก็ไม่ใช่คนที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ พระองค์ทรงคิดว่าโมเสสก็คือนักมายากลคนหนึ่ง ฟาโรห์จึงยิ่งกดขี่ชาวอิสราเอลหนักกว่าเดิม
จากนั้น ความอดอยากและโรคระบาดก็ได้กระจายไปทั่ว
พระเจ้าได้ส่งเสียงถึงโมเสส รับสั่งให้โมเสสบอกแก่ชาวอิสราเอลว่าให้ทำการบูชายัญโดยใช้แพะ และให้ทำสัญลักษณ์กากบาทบนประตูบ้าน เพื่อที่เทวทูตแห่งความตายจะได้รับทราบว่าคนในบ้านนั้นเป็นบุตรแห่งอับราฮัม และคนในบ้านก็จะปลอดภัย
ในค่ำคืนนั้นเอง เด็กชาวอียิปต์ทุกคนล้วนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนเด็กชาวอิสราเอลยังคงรอดปลอดภัย
เมื่อเป็นอย่างนี้ ฟาโรห์จึงทรงยอมให้ชาวอิสราเอลไปได้ หากแต่ลึกๆ พระองค์ก็ยังไม่ได้เชื่อเต็มร้อย ยังทรงคิดว่าโมเสสคือนักมายากลคนหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่โมเสสพากลุ่มชาวอิสราเอลออกไปจากอียิปต์ กองทหารของฟาโรห์ก็ได้ไล่ติดตามมาเพื่อโจมตีชาวอิสราเอล
เมื่อโมเสสและกลุ่มชาวอิสราเอลมาถึงทะเลแดง และด้วยพรจากพระเจ้า โมเสสได้ชูมือขึ้น และทะเลก็ได้แยกออกเป็นสองฝั่ง ทำให้โมเสสและชาวอิสราเอลเดินลงไปได้
เมื่อชาวอิสราเอลเดินข้ามน้ำไปจนครบแล้ว กองทัพอียิปต์ก็ได้ใกล้มาถึงแล้ว และเมื่อกองทัพอียิปต์เดินข้ามน้ำ ทะเลที่แยกออกเป็นสองฝั่ง ก็ได้ปิดเข้าหากันดังเดิม ทำให้ทหารอียิปต์จมน้ำตายเป็นจำนวนมาก
นี่ก็คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของโมเสสและบุตรแห่งอับราฮัม ที่ซึ่งมีเพียงผู้ถูกเลือกเท่านั้นจึงจะรอดชีวิต
หากอยากอ่านเพิ่มเติม ก็ติดตามได้ในซีรีส์บัญญัติ 10 ประการที่ผมเคยเขียนไว้ได้เลยครับ
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
