♨️แหล่งน้ำพุร้อนและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย✨
สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้แอดอยากผ่อนคลายสบายอารมณ์อาบน้ำแร่แช่น้ำพุร้อนมากๆเลยค่ะ แต่จะบินไปถึงญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ไม่ได้ ไม่ใช่เพราะโควิดนะคะ เพราะไม่มีตังค์ค่ะ ผ่าม!!5555 ขอเล่นมุข3บาท5บาทหน่อยนะคะ แต่ๆๆๆไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ในประเทศไทยเองก็มีน้ำพุร้อน ว้าวและวันนี้ก็ได้กูรูด้านนี้มาถ่ายทอดเรื่องราวแหล่งน้ำพุร้อนและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย นั่นก็คือผศ.ดร. นิออน ศรีสมยง หรือ อาจารย์รี่ อาจารย์ประจำคณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะมาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์และมุมมองจากการที่อาจารย์ได้ร่วมทำวิจัยเพื่อศึกษาแหล่งน้ำพุร้อนต่างๆ ในประเทศไทยค่ะ🙏
🍀เป็นความโชคดีของประเทศไทยที่มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาเยือน น้ำพุร้อนเป็นอีกหนึ่งลักษณะภูมิประเทศที่พบได้ในประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นและภาคเอกชน แหล่งน้ำพุร้อนและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย♨️
😆จากข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี แหล่งน้ำพุร้อนในประเทศไทยที่สำรวจพบมีจำนวน 112 แหล่ง พบในภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ แหล่งน้ำพุร้อนหลายๆ แหล่งถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว ในขณะที่หลายแหล่งยังไม่ได้รับการพัฒนาหรือใช้ประโยชน์เฉพาะชุมชนในพื้นที่ แหล่งน้ำพุร้อนส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช✅
💵ดังนั้นงบประมาณสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนจึงมาจากรัฐบาล แหล่งน้ำพุร้อนส่วนใหญ่ที่ถูกพัฒนาจะมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ห้องแช่อาบแบบรวมและแบบห้องเดี่ยว ที่แช่เท้า ห้องอาบน้ำ สุขา บ่อต้มไข่ รวมถึงอาจมีบริการที่พักในบางแหล่ง อย่างไรก็ตาม การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพภูมิทัศน์โดยรอบแหล่งน้ำพุร้อนส่วนใหญ่แล้ว เป็นการพัฒนาแบบแยกส่วน ไม่ได้ถูกออกแบบโดยมองภาพองค์รวม เมื่อได้งบประมาณมาแต่ละปี แหล่งน้ำพุร้อนเหล่านี้ก็จะดำเนินการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเข้าไป ทำให้ภูมิทัศน์โดยรวมของแหล่งน้ำพุร้อนบางแห่งดูไม่สอดคล้องหรือกลมกลืนกัน☀️
🌎การเชื่อมโยงชุมชนกับการท่องเที่ยวในแหล่งน้ำพุร้อน ♨️
แหล่งน้ำพุร้อนที่ได้รับการพัฒนาส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้นงบประมาณเพื่อพัฒนาจึงขึ้นอยู่กับองค์กรท้องถิ่นเหล่านี้ ซึ่งวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งของภาครัฐต่อการพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนคือ ความต้องการเชื่อมโยงชุมชนกับแหล่งน้ำพุร้อน การเชื่อมโยงนี้เกิดขึ้นโดยการสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ตัวอย่างกิจกรรมที่เกิดขึ้น เช่น กิจกรรมการนวดผ่อนคลาย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน การจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น เมื่อชุมชนได้ประโยชน์จากการมาเยือนของนักท่องเที่ยว ชุมชนก็จะให้ความร่วมมือและช่วยกันดูแลบริเวณโดยรอบ และเป็นเจ้าบ้านที่ดีกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน😊
☺️การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในแหล่งน้ำพุร้อน✅
จากการที่รัฐบาลได้กำหนดให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็น 1 ใน 5 อุตสาหกรรม First S-Curve (อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ และควรต่อยอด) ของประเทศไทย ดังนั้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวที่จะพัฒนากิจกรรมทางด้านสุขภาพเพื่อตอบรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ แหล่งน้ำพุร้อนจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในแหล่ง ด้วยคุณสมบัติของน้ำร้อนที่มีสรรพคุณที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงบางแห่งที่มีสภาพแวดล้อมรายรอบร่มรื่นสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติที่สวยงาม ช่วยสร้างความรื่นรมย์ให้กับนักท่องเที่ยวนอกจากการแช่อาบน้ำร้อน♨️
❤️ความเพลิดเพลินแบบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศเปิดประสบการณืในบ้านเรากันค่ะ ยังมีอีกมากมายหลายที่ท่องเที่ยวประเทศไทย ที่รอให้คุณไปเยือน สถานการณ์ขึ้นเมื่อไหร่ออกเดินทางกันเลย ช่วงนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคร้า👍🏻
แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า See yahhhh!!
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
