27 ก.พ. 2022 เวลา 04:08 • ประวัติศาสตร์
เมื่อรัสเซีย ต้องทำให้ประชาชนนับร้อยล้านคน “อ่านออกเขียนได้”
การ “อ่านเขียน” เป็นทักษะจำเป็นพื้นฐานที่ผู้คนทั่วโลกต้องมี เพื่อดำรงชีวิตและก้าวหน้าในสังคม
เช่นเดียวกับรัสเซียในศตวรรษที่ 20 ในช่วงที่คอมมิวนิสต์เบ่งบาน รัสเซีย ก็ได้มีการให้ความสำคัญกับการอ่านเขียนอย่างมาก
ในช่วงที่พรรคบอลเชวิกเรืองอำนาจ ประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษานั้นมีเป็นจำนวนมาก ทำให้คณะรัฐบาลต้องหาทางจัดการแก้ปัญหานี้
1
ได้มีการจัดคอร์สเพื่อสอนความรู้พื้นฐานทางการคำนวนและการอ่านเขียน โดยในปีค.ศ.1919 (พ.ศ.2462) พรรคบอลเชวิกได้ออกแคมเปญ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะให้ชาวโซเวียตที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปทั้งหมด รู้หนังสือ
รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการที่ประชาชนจำเป็นต้องรู้ทักษะพื้นฐาน และพยายามทุกวิถีทางให้ประชาชนได้รับความรู้
4
นอกจากนั้น การที่ประชาชนมีความรู้พื้นฐาน อ่านออกเขียนได้ ยังช่วยให้การโพรพากันด้า หรือโฆษณาชวนเชื่อเป็นไปได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ประชาชนออกห่างจากความเชื่องมงายทางไสยศาสตร์ และไม่ยึดติดกับศาสนามากเกินไป
ได้มีการออกแคมเปญและรณรงค์เรื่องการศึกษาไปตามเมืองต่างๆ และชนบทของรัสเซีย มีการจัดคอร์สให้ประชาชนเข้ารับการศึกษาพื้นฐาน โดยในครึ่งแรกของยุค 20 (พ.ศ.2463-2472) ก็มีคนเข้ารับการศึกษาจากแคมเปญนี้ไปแล้วกว่าห้าล้านคน
โปรแกรม “Rabfakis” มีไว้สำหรับคนงานที่เรียนไม่จบ และเน้นสอนการคำนวนและอ่านเขียนพื้นฐาน
นอกจากนั้น กองทัพแดงก็ยังให้ความร่วมมือ มีการกำหนดว่าทหารที่เข้าร่วมกับกองทัพ ต้องเข้ารับการเรียนอ่านเขียนขั้นพื้นฐาน รวมทั้งสตรีเองก็ต้องเข้ารับการเรียน โดยมีการจัดคอร์สสำหรับสตรีโดยเฉพาะ
ภายในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) เปอร์เซ็นต์คนที่รู้หนังสือในเขตเมืองอยู่ที่ 94% และ 86% ในเขตชนบท และภายในปีค.ศ.1959 (พ.ศ.2502) ก็ได้เพิ่มเป็น 99% ในเขตเมือง และ 98% ในชนบท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการส่งเสริมการศึกษาของรัฐบาล
โปรแกรมการศึกษานี้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลานาน และประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าถึงการศึกษาและรู้หนังสือ
นี่ก็เป็นเรื่องราวหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย
โฆษณา