กุนซือผู้ซื่อสัตย์ต่อปรัชญาของตัวเอง
:
ก่อนการมาถึงของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
ภาพจำครั้งสุดท้ายของผมที่มีต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็คือ ภาพของ อลัน สมิธ ที่กอดคอร้องไห้กับ พอล โรบินสัน ในวันที่พ่ายโบลตัน ยับเยิน 1-4 หลังจากตกชั้นอย่างเป็นทางการแม้ว่าจะเหลือเกมอีก 2 นัดก็ตาม
จากทีมที่คว้าอันดับ 3 ในฤดูกาล 1999-2000, ได้ผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก แถมทะลุไปถึงรอบเซมิ ไฟนัล ใครจะไปคิดว่าทัพยูงทองตกต่ำดำดิ่งลงเหวภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ฤดูกาลถัดมา
ขุนพลชุดเกรียงไกรแต่ไร้ถ้วยในยุคนั้น ถ้าพูดชื่อมาเชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นหู ไม่ว่าจะเป็นริโอ เฟอร์ดินานด์, โจนาธาน วู้ดเกต, ไนเจล มาร์ติน, พอล โรบินสัน, ลี โบว์เยอร์, แฮร์รี่ คีเวลล์, เจสัน วิลค๊อกซ์, ไมเคิ่ล บริดเจส, อลัน สมิธ, มาร์ค วิดูก้า หรือกระทั่ง ร็อบบี้ คีน ก็เคยวาดลวดลายที่ เอลแลนด์ โร้ด มาแล้ว
ที่น่าตกใจกว่าการตกชั้นไปแชมเปี้ยนชิพ ก็คือพวกเขาเคยร่วงไปไกลถึง ลีก วัน ด้วยซ้ำ หลังจากอยู่ในลีกรองได้เพียง 3 ฤดูกาล
ลีดส์ พยายามไต่เต้าหนีจากลีก วัน อยู่อีก 3 ฤดูกาล ก่อนจะกลับมาในแชมเปี้ยนชิพได้ตอนปี 2010 ซึ่งพวกเขาก็ยังคงล้มลุกคลุกคลานอย่างทุลักทุเลมาโดยตลอด
7, 14, 13, 15, 15, 13, 7 และ 13
ตัวเลขเหล่านี้คืออันดับในตารางของ ลีดส์ ตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงฤดูกาล 2017-18
จนกระทั่ง พวกเขาเปิดประตูต้อนรับคนบ้าที่ชื่อว่า มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เข้ามาเป็นหัวหน้าแก๊งค์นั่นแหล่ะครับ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของพวกเขาจึงเห็นเป็นรำไรมากขึ้น
บิเอลซ่า สมัยเป็นนักเตะเล่นในตำแหน่งกองหลัง เขาเล่นให้นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ แค่ 2 ปี, ย้ายไปเล่นให้อินสติตูโต้ กับ อาร์เจนติโน่ อีกทีมละปี ก่อนจะค้นพบตัวเองว่า เขาเกิดมาเพื่องานโค้ช ไม่ใช่งานไล่หวดลูกหนัง เขาจึงแขวนสตั๊ดและหยิบจับงานโค้ชตั้งแต่อายุเพียง 25 ปี เท่านั้น
ฉายาของเขาคือ "El Loco" ซึ่งแปลว่า "คนบ้า" โดยวีรกรรมเด็ด ๆ ของเขามีมากมายก่ายกอง แต่ที่เป็นอันโจษจันก็คือตอนที่เขาคุมทีมในลีกอาร์เจนติน่า แล้วแพ้คู่แข่งไป 0-6 กลุ่มแฟนบอลหัวรุนแรงยกพลไปหาเขาถึงที่บ้าน แต่ บิเอลซ่า เดินอาด ๆ เปิดประตูออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มพร้อมระเบิดมือ ถ้าพันธมิตรให้เสียงภาษาไทยฉากนี้ ก็คงจะประมาณ "ก็มาดิคร้าบบ" อะไรทำนองนั้น
ทว่า ภายใต้ความบ้าข้างต้น บิเอลซ่า คือโค้ชที่โคตรจะเก่งและหมกมุ่นในเกมลูกหนังชนิดเข้าเส้นคนนึงของวงการ
เขามีความสุขกับการนั่งศึกษาวิดีโอการเล่นได้เป็นชั่วโมง เพลิดเพลินไปกับการขับรถตระเวนดูบอลเดินสายในวันหยุด เพื่อค้นหานักเตะโนเนมเอามาขัดเกลา หรือแม้กระทั่งการส่งสปายเพื่อไปสอดแนมทีมคู่แข่ง เขาก็พร้อมจะทำ หากมันช่วยให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด
ในวันที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับเขา ความจริงจังในเรื่องงานของ บิเอลซ่า สร้างความประทับใจให้กับสาวกยูงทองตั้งแต่วันแรก ๆ เพราะเขาจัดการขนเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นบางอย่างมาไว้ในออฟฟิศ เพียงเพื่อเขาต้องการนอนที่สโมสรเลยในบางวัน
บางคนบอกว่าเกินเบอร์ไปหน่อย แต่สิ่งที่เขาทำมันส่งผลอย่างชัดเจนถึงอันดับในตารางของ ลีดส์ อย่างเถียงไม่ออก
บิเอลซ่า พา ลีดส์ กลับมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี โดยผลงานในแชมเปี้ยนชิพ เขาบี้ทุกรายละเอียด ปั้นแต่งเกมรับของยูงทองจนกลายเป็นแชมป์ เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก และยังเป็นทีมที่ชนะในบ้านมากที่สุดอีกด้วย
ฤดูกาลแรกของ บิเอลซ่า ในพรีเมียร์ลีก เขาพาทีมจบอันดับ 9 มีคะแนนห่างจากพื้นที่ยุโรปอย่่าง ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก แค่ 3 แต้ม และยิงประตูได้มากกว่า อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 8 ถึง7 ลูก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเขาคือเกมรับที่เสียประตูมากเกินไป และด้วยสไตล์การเล่นแบบถอยหลังหกล้มแบบนี้นี่แหละ มันกลับส่งผลลากยาวมาจนถึงฤดูกาลนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ลีดส์ ในฤดูกาล 2021-22 ปัจจุบันร่วงมาอยู่อันดับ 16 หลังจาก 4 นัดหลังสุดแพ้รวด ยิงได้แค่ 2 แต่เสียประตูถึง 17 ประตูเลยทีเดียว
ด้วยผลงานที่กำลังดิ่งลงอย่างที่เห็น ลีดส์ จึงจำใจในการประกาศแยกทางกับกุนซือผู้เป็นตำนานคนนี้ของทีมอย่างเลี่ยงไม่ได้
ขอบคุณสำหรับความบ้าบิ่นที่สร้างสรรค์ให้แก่วงการลูกหนังอังกฤษ
ขอบคุณที่พา ลีดส์ กลับมาโลดแล่นบนลีดสูงสุดอีกครั้ง
มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
#บทความฟุตบอล #Bielsa #Leeds #PremierLeague #EPL #บิเอลซ่า #ลีดส์ #พรีเมียร์ลีก #ฟุตบอล #ฟุตบอลต่างประเทศ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
