27 ก.พ. 2022 เวลา 14:38 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ผมมองจากสายตาแบบชาวบ้านๆนะครับ
1) กฎหมายการใช้เรือ กำหนด “อัตราเร็ว” บนผิวน้ำ ไว้ “มากน้อย” แค่ไหน?
2) บนเรือมีอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง “GPS” หรืออะไรทำนองนั้น หรือไม่? ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาคำนวณ “อัตราเร็ว” ได้
V = S/T
V: อัตราเร็ว, S: ระยะทาง, T: เวลา
ถ้ามีอุปกรณ์ลักษณะนั้นจริงๆ เราน่าจะรู้อัตราเร็วของเรือได้ครับ
1
3) “ถ้า” รู้ “อัตราเร็ว” ต่อมาก็ พิจารณาว่า “หากผู้เสียชีวิต” ต้องการ “ทำธุระ” บนเรือ “จริงๆ” ผมมองว่า ถ้า “เรือแล่นเร็ว” คงจะมีการขอให้ลดความเร็วลง
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบข้อมูลจาก “กรมอุทกศาสตร์” กองทัพเรือ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด) และข้อมูลสถาพอากาศ ว่า คืนที่เกิดเหตุ “สภาพคลื่นลมและความแรงรวมถึงทิศทางของกระแสน้ำในบริเวณนั้น” เป็นอย่างไร, เรือตอนที่มีผู้ตกเรือ แล่นทวนกระแสคลื่น, หรือแล่นตามคลื่น, หรือ แล่นขวางคลื่นหรือไม่อย่างไร, และข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในแนวเส้นทางที่เรือแล่นจากกล้องทุกตัวในย่านนั้น
เพราะหากมีการตกเรือจริงๆ เรือสามารถวกกลับมารับผู้ตกเรือได้ ไม่ยากนัก หากเรือแล่นที่อัตราเร็ว “ต่ำ” และเรือควรจะแล่นด้วยอัตราเร็วต่ำ
เพราะ
1) เป็นเวลากลางคืน ทัศนวิสัยในแม่นำ้ช่วงนั้น เป็นอย่างไร? แสงสว่างบริเวณนั้น เป็นอย่างไร? ถ้าแล่นเรือเร็ว เป็นอัตราเร็วตามกฎหมายบังคับหรือไม่? การจราจรทางนำ้ในเวลาที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร?
2) หากผู้ตกเรือ ต้องทำธุระจริงๆ ทำไมถึงไม่ชะลอความเร็ว? หรือ เข้าเทียบฝั่งเพื่อให้มีการเข้าห้องน้ำ?
1
3) ณ เวลา ที่มีการตกเรือ มีผู้เห็นเหตุการณ์กี่คน แล้วพอเห็นแล้ว “ทำอะไรอยู่” และ “ใช้เวลาเท่าไหร่” กว่าที่ เรือจะทำการ “วกกลับ” เพื่อทำการ “ค้นหาและช่วยเหลือ” ผู้ตกเรือ?
“เวลา” ตั้งแต่ ผู้เห็นการตกเรือคนแรก จนถึง เรือเริ่มวกกลับ “สำคัญมากๆ” ครับ เพราะนั่นคือ “นาทีชีวิต” ที่สามารถ “หยุดการสูญเสียได้” !!!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ผมถามตรงนี้เลยว่า
“คุณต้องปวดปัสสาวะ รุนแรงแค่ไหน ถึงต้องปัสสาวะให้ได้! บนเรือที่แล่นด้วยอัตราเร็วสูงๆ โดยมีผู้ชายมากกว่าหนึ่งคนบนเรือ, ถ้าคุณเป็นผู้หญิง?”
โฆษณา