1 มี.ค. 2022 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
Tom Ford ชาวอเมริกัน ผู้ชุบชีวิตให้กับ Gucci แบรนด์หรูของอิตาลี
Gucci เป็นแบรนด์หรูอายุร้อยปี ที่ได้รับการประเมินว่า เป็นแบรนด์หรูที่มีมูลค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเป็นรองเพียง Louis Vuitton เท่านั้น
ซึ่งหากเรามองแต่ความสำเร็จในวันนี้ คงไม่อาจสามารถจินตนาการได้ว่า กว่าร้อยปีที่ผ่านมา แบรนด์หรูนี้ ได้ผ่านเหตุการณ์หรือวิกฤติอะไรมาบ้าง
ทั้งรอยร้าวในครอบครัว ที่ทำให้ตระกูล Gucci ต้องสูญเสียธุรกิจของครอบครัว
และในอีกมุมหนึ่ง ตัวธุรกิจ Gucci เอง ก็มีจุดตกต่ำ จนเกือบเรียกไม่ได้ว่าเป็นแบรนด์หรูอีกต่อไป
แล้วอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยน ทำให้แบรนด์ Gucci ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Gucci เกิดขึ้นในปี 1921 โดยคุณ Guccio Gucci ที่เปิดร้านเครื่องหนัง ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี และสามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดัง จนมีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย
Gucci กลายเป็นธุรกิจใหญ่โต และถูกส่งต่อสู่ทายาทของตระกูลในรุ่นถัด ๆ ไป รวมถึงขยายไปยังต่างประเทศด้วย
โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1960 ที่มีการใช้โลโก GG ซึ่งเป็นภาพจำของแบรนด์ ก็ยิ่งส่งผลให้ช่วงทศวรรษ 1970-1980 กลายเป็นยุครุ่งเรืองของ Gucci เลยก็ว่าได้
แต่เมื่อเดินทางมาสู่จุดสูงสุด รอยร้าวในครอบครัว Gucci ก็เริ่มปรากฏให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ และการแก่งแย่งอำนาจการควบคุม
ในขณะที่ทางด้านธุรกิจเอง ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง
โดยปลายทศวรรษ 1980 กำไรของ Gucci ถดถอยลงเรื่อย ๆ
ความนิยมในแบรนด์ Gucci ลดน้อยลง ประกอบกับกลยุทธ์ที่เน้นการขายสินค้าปริมาณมาก ๆ แทนที่จะเน้นคุณภาพและความหรูหราเหมือนอย่างแต่ก่อน มีการแปะตราสินค้าลงบนผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แก้วน้ำ ไปจนถึงที่เขี่ยบุหรี่
จนเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงวันที่ธุรกิจอันรุ่งเรืองของครอบครัว ต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นอย่างสิ้นท่า
โดยในปี 1993 คุณ Maurizio Gucci ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ที่กุมอำนาจการบริหารกิจการตอนนั้น ก็ถูกบังคับขายหุ้นที่เหลือ ให้กับ Investcorp
ตระกูล Gucci จึงไม่ได้มีส่วนใน ธุรกิจ Gucci อีกต่อไป..
ซึ่งผลของเรื่องนี้ ยังนำมาสู่คดีฆาตกรรมคุณ Maurizio Gucci อันโด่งดัง จนถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง House of Gucci นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชีวิตของคุณ Maurizio Gucci จะจบลง
แต่ในด้านธุรกิจ Gucci ในมือเจ้าของคนใหม่ ก็ต้องดำเนินต่อไป
และผู้ที่เข้ามารับช่วงต่อในการบริหารงาน ก็คือ คุณ Tom Ford
คุณ Tom Ford คือใคร ?
เห็นชื่อนี้เราคงนึกถึงแบรนด์หรู Tom Ford ที่มีสินค้าตั้งแต่ไลน์แฟชั่น เครื่องสำอาง ไปจนถึงน้ำหอม
ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะว่าผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ ก็คือ คุณ Tom Ford ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้ที่เข้ามาชุบชีวิตให้กับ Gucci นั่นเอง
1
แม้ว่าคุณ Tom Ford จะเรียนมาทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ และเปลี่ยนไปเรียนด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาหลงใหลกลับเป็น “แฟชั่น”
ดังนั้น เขาจึงดิ้นรนจนเข้าสู่วงการนี้ เริ่มจากการเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Chloé ก่อนจะได้รับการว่าจ้างจากคุณ Cathy Hardwick ดีไซเนอร์สายสปอร์ต และย้ายงานไปที่ Perry Ellis
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่า การอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป คงไม่อาจทำให้ฝีมือของเขาพัฒนาไปได้มากกว่านี้
คุณ Tom Ford จึงตัดสินใจเดินทางจากบ้านเกิดไปยังอิตาลี และก็ได้เข้าทำงานที่ Gucci ในปี 1990 และเมื่อ Gucci เดินทางมาถึงจุดต่ำสุด เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบ ในปี 1994
โดยผลประกอบการของ Gucci ณ ขณะนั้น
รายได้ 7,400 ล้านบาท ขาดทุน 700 ล้านบาท..
แล้วคุณ Tom Ford เข้ามาทำอะไร ถึงพาให้ Gucci กลับมาเป็นแบรนด์ที่ครองใจลูกค้าอีกครั้ง ?
อย่างแรกคือ การกลับมาโฟกัสที่การออกแบบสินค้าอีกครั้ง พยายามสร้างสินค้าที่เป็น “ไอคอนิก” หรือภาพจำของแบรนด์ ซึ่งในเรื่องนี้คุณ Tom Ford ก็มีการนำกลิ่นอายสไตล์ยุค 70 เข้ามาใส่ในชิ้นงานหลาย ๆ ชิ้น ทำให้ Gucci กลายเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์น่าดึงดูดอีกครั้ง
ต่อมาก็คือเรื่องการสื่อสาร โดยเขาได้จ้างคุณ Carine Roitfeld สไตลิสต์ชาวฝรั่งเศส และช่างภาพอย่างคุณ Mario Testino มาช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูเซ็กซี่ให้กับ Gucci รวมถึงใช้ภาพเหล่านี้ ในแคมเปญการตลาด
 
ซึ่งผลงานต่าง ๆ ของคุณ Tom Ford ได้ช่วยให้ผลประกอบการของ Gucci จากที่เคยเกือบล้มละลาย ก็ค่อย ๆ กลับมาเติบโตอีกครั้ง จนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 1995
และในปี 1999 มูลค่าบริษัท Gucci ก็สูงถึง 1.4 แสนล้านบาท
Gucci กลายเป็นที่หมายปองของเหล่าอาณาจักรแบรนด์หรู โดยสุดท้ายผู้ที่คว้าไปครองได้ก็คือ Pinault- Printemps-Redoute ที่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kering นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาความขัดแย้งภายใน สุดท้ายคุณ Tom Ford ก็ได้บอกลา Gucci ในปี 2004 และก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองในปีถัดมา
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
นอกจากความสามารถด้านแฟชั่นแล้ว คุณ Tom Ford ก็ยังแสดงความสนใจในวงการภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน
โดยในปี 2009 เขาได้เปิดตัวภาพยนตร์ ที่เขากำกับเองเรื่อง A Single Man ตามมาด้วยผลงานอีกหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Nocturnal Animals ที่ชนะรางวัล Grand Jury Prize รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและออสการ์
เรียกได้ว่า คุณ Tom Ford ก็เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านเลยทีเดียว
ซึ่งหากย้อนกลับไปดูพื้นหลังด้านการศึกษาของเขา คงแทบจะไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้..
โฆษณา