CPF หัวหอกธุรกิจไทยในรัสเซีย
มองมุมบวก "โอกาส" ใน "วิกฤติ"
CPF หรือ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) เริ่มเข้าไปทำธุรกิจรัสเซียเมื่อปี 2549 หลังจากตั้ง Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยขึ้นใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และการเลี้ยงสัตว์ในประเทศรัสเซีย ด้วยเงินทุนก้อนแรก 310 ล้านบาท หรือ 220 ล้านรัสเซียรูเบิล
ขณะนั้น CPF เข้าไปทำธุรกิจผลิตอาหารสัตว์และเลี้ยงสัตว์ในรัสเซีย เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากมีปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในอัตราที่สูงมาก โดยเฉพาะสุกร
Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. บริษัทย่อยของ CPF ที่ดูแลธุรกิจของ CP ในประเทศรัสเซีย
การดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามนโยบายของที่ "ธนินท์ เจียรวนนท์" ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2542 กับวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ที่มีภารกิจหลักในการดำรงสถานะการเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจอาหาร
ในปี 2549 CPF ลงทุนต่างประเทศเพียง 7 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ตุรกี อังกฤษ ลาว มาเลเซียและรัสเซีย ในขณะที่ปัจจุบันเข้าไปลงทุนถึง 17 ประเทศ
ในปี 2558 CPF มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจครั้งสำคัญในรัสเซีย เมื่อใช้เงิน 23,700 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการไก่ครบวงจรในรัสเซีย โดยส่งบริษัท CPF Netherlands B.V. (CPF Netherlands) เข้าซื้อกิจการ Agro-Invest Brinky B.V.
"เจ้าสัวธนินท์" มองการเข้าไปลงทุนในรัสเซียว่า รัสเซียมีพื้นที่กว้างขวางและการที่ CP ขยายฐานซื้อบริษัทไก่ครบวงจรในรัสเซียจะใช้เป็นฐานผลิตส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคใกล้เคียง และกิจการไก่ครบวงจรของบริษัท Agro-Invest Brinky B.V เป็นฐานที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในประเทศรัสเซียของ CP
ทั้งนี้ เพราะตลาดสัตว์ปีกในรัสเซียเป็นตลาดที่ไม่มีผู้ผลิตรายใหญ่ (Fragmented market) ในขณะที่อัตราการบริโภคเนื้อสัตว์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับรัสเซียมีประชากรสูงถึง 140 ล้านคน
นอกจากนั้น เมื่อรวมกับธุรกิจสุกรที่ซีพีได้ลงทุนอยู่แล้วในรัสเซีย ก็จะมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตจากการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่หลากหลายและมีโอกาสพัฒนาธุรกิจไปสู่การส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์จากรัสเซียไปยังประเทศอื่นด้วย
CPF ยังคงขยายธุรกิจในรัสเซียต่อเนื่อง โดยล่าสุดส่งบริษัทย่อยซื้อธุรกิจสุกรในรัสเซีย มูลค่าเงินลงทุน 9,900 ล้านบาท 22,000 ล้านรัสเซียรูเบิล และทำรายการเสร็จภายในเดือน ม.ค.2565
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนำมาสู่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) อังกฤษ ญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมามีบริษัทไทยหลายแห่งเข้าไปทำธุรกิจในรัสเซียและกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
หลังจากสถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดมาขึ้น "ศุภชัย เจียรวนนท์" ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่ขึ้นเวทีสัมมนา iBusiness Forum 2022 ของธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565
"ศุภชัย" แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เรื่องความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และนาโต้ ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก แต่คิดว่าในวิกฤติก็ยังเป็นโอกาสในกรณีที่เกิดสงคราม
“ผมคิดว่าถ้าเราเดาใจรัสเซียนี่จะเป็นจังหวะเวลา เป็นไทม์มิ่งที่เหมาะสมที่จะสร้างอำนาจต่อรองกับเหล่าประเทศยุโรปและพยายามไม่ให้ยูเครนเป็นปรปักษ์ต่อตนเอง และผมคิดว่าคงไม่มีใครตั้งใจให้ไปถึงการเกิดภาวะสงคราม ดังนั้นในตอนนี้ เราต้องมองในแง่บวกไว้ก่อน”
หากมองในแง่บวกตามที่ "ศุภชัย" ให้ความเห็นไว้อาจหมายถึงในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ ความต้องการสินค้าอาหารย่อมมีเพิ่มมากขึ้นตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ซึ่ง CPF ได้กลายมาเป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารสัตว์ สินค้าไก่และสุกร รายสำคัญในยุโรปที่มีฐานการผลิตใน 5 ประเทศ
และถ้าดูในรายละเอียดจะเห็นว่าในรัสเซีย เป็นฐานการผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงไก่และสุกร และธุรกิจอาหาร
โปแลนด์ เป็นฐานการเลี้ยงไก่ และธุรกิจอาหาร ส่วนตุรกี เป็นฐานการผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงไก่และธุรกิจอาหาร ในขณะที่เบลเยียมและอังกฤษมีธุรกิจอาหาร ซึ่งป้อนความต้องการของหลายชาติในยุโรปได้
และปัจจุบัน CPF ยังยึดแนวทางการเป็น "ครัวของโลก"
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
