1 มี.ค. 2022 เวลา 08:18 • ข่าวรอบโลก
ใครเกลียดการต้องใส่ยูนิฟอร์มที่ไม่ตรงกับเพศสภาพยกมือขึ้น 🙌
ตอนนี้ในประเทศแอฟริกาใต้ ได้มีการเรียกร้องให้ต้องมีการปรับชุดนักเรียนให้มีความ ‘เป็นกลางทางเพศ’ (Gender Neutral) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแก่นักเรียนข้ามเพศ
โดยจากข้อมูลของ Commission for Gender Equality (CGE) บอกว่าที่ผ่านมานั้นนโยบายเรื่องชุดนักเรียนของกระทรวงศึกษาในประเทศนี้นั้นตั้งอยู่ในฐานของความเข้าถึงได้ (Accessibility) และกำลังในการจ่าย (affordability) แต่ทว่า
“เนื่องจากไม่มีการใช้มุมมองในแง่สิทธิมนุษยชนมาประกอบการตัดสินใจ (เรื่องเครื่องแบบ) ด้วย ทำให้แทบจะไม่ได้ช่วยจัดการปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเพศหลากหลายในโรงเรียนที่ประเทศแอฟริกาใต้เลย ซึ่งเราไม่สามารถเพิกเฉยและทนต่อความเกลียดชังต่อคนรักเพศเดียวกันในโรงเรียนแอฟริกาใต้ได้อีกแล้ว” - ‘Javu Baloyi’ โฆษก CGE กล่าว
โดยในแอฟริกาช่วงที่ผ่านมานั้นมีนักเรียนหลายคนที่ออกมาคัมเอาท์หรือเปิดเผยตัวตนในฐานะคนข้ามเพศหรือเพศหลากหลาย แต่กลับได้พบเจอกับปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เนื่องจากการเลือกใส่เครื่องแบบนักเรียนตามเพศสภาพ อย่างหลาย ๆ โรงเรียนในจังหวัดเวสเทิร์นเคปประเทศแอฟริกา
ทาง CGM ได้พูดถึงเคสหนึ่งที่นักเรียนเลสเบี้ยนในจังหวัดนี้ ได้ถูกสั่งให้นั่งอยู่ในห้องโถงของอาคารบริหารเป็นเวลาหลายวันเนื่องจาก “ฝ่าฝืน” คำสั่งที่บอกให้ใส่ชุดกระโปรงแทนกางเกงนักเรียนอย่างที่สะดวกใจ อย่างไรก็ตามก็มีหลายโรงเรียนเช่นกันที่เริ่มให้การสนับสนุนนักเรียนที่แต่งกายตามเพศสภาพซึ่งไม่ตรงตามเพศกำเนิดมากขึ้น อย่างโรงเรียนหนึ่งในเคปทาวน์ก็มีการสนับสนุนนักเรียนข้ามเพศให้แต่งกายตามเพศสภาพได้อย่างเต็มกำลัง
โดยหลายคนก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นความย้อนแย้งของชุดนักเรียนแบบสองเพศ ต่อรัฐธรรมนูญของประเทศแอฟริกาใต้ที่กำหนดให้ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศผ่านสำนักข่าว NEWS24
อย่าง ‘Karen Jeynes’ ผู้ปกครองของนักเรียนข้ามเพศ ได้เล็งเห็นว่าในโรงเรียนนั้นยังมี “อุปสรรคและการเลือกปฏิบัติมากมาย”
โดยเธอบอกว่าเริ่มมีบางโรงเรียนที่มีการปรับใช้นโยบายที่เป็นกลางทางเพศแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม “อัตราการฆ่าตัวตาย และโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในหมู่เด็กข้ามเพศนั้นสูงขึ้นอย่างเป็นปรากฎการณ์ และเรารู้กันว่าการที่ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน ให้การยอมรับในตัวตนของพวกเขา และให้ความเข้าใจนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ลงอย่างมาก”
“รัฐธรรมนูญ ได้ระบุไว้ชัดว่าบุคคลจะต้องไม่ถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา และนโยบายเรื่องชุดนักเรียนคือสิ่งที่ตัดสินเรื่องนี้ในระดับโรงเรียน และการที่รัฐบาลยังชี้นำให้มีเครื่องแบบที่แบ่งชาย-หญิงนั้น มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าต้องปรับให้ทันสมัยขึ้นได้แล้ว”
คณบดีมหาวิทยาลัยควาซูลู-นาตาลและหัวหน้าโรงเรียนเพื่อการศึกษา ‘Ndumiso Ngidi’ ก็ได้ชี้ให้เห็นว่า ตัวนโยบายระดับชาติเรื่องชุดเครื่องแบบนักเรียนนั้นเลือกปฏิบัติ ด้วยตัวมันเอง –– “รัฐธรรมนูญบอกไว้ว่า ทุกคนมีสิทธิในการแสดงออกซึ่งความเป็นตัวเอง แต่นโยบายของกระทรวงกลับเลือกปฏิบัติ โดยกีดกันผู้ที่สังคมมีความเห็นว่าไม่เหมาะสม”
พร้อมกับเสริมว่ามันถึงเวลาแล้วที่โรงเรียนต่าง ๆ ต้องยกเลิกแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม รวมถึงล้มเลิกนโยบายที่ตั้งขึ้นมาตามกฎการแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว (Apartheid rules) ซึ่งทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และ “มันผิดทางรัฐธรรมนูญที่จะเอาเด็กนักเรียนออกจากโรงเรียน เพียงเพราะรสนิยมทางเพศของพวกเขา”
นักเรียนข้ามเพศเองก็ได้ออกมาแชร์เรื่องราวของพวกเขาเช่นกัน อย่าง ‘Shanice Benjamin’ ที่มองว่าเครื่องแบบนักเรียนนั้น “เป็นปัญหาใหญ่” สำหรับตน
“ฉันเป็นเลสเบี้ยน และการใส่กางเกงเป็นสิ่งที่เหมาะกับตัวฉันที่สุด แต่นโยบายของโรงเรียนกลับบอกว่าคุณคือผู้หญิง (Female) คุณต้องใส่ชุดกระโปรง ฉันเลยต้องใส่มัน ซึ่งฉันไม่ชอบมันสุดๆ … โรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ที่เปิดกว้างให้คุณได้แสดงออกซึ่งอัตลักษณ์ ถ้าคุณเป็นคนที่มีอัตลักษณ์นอกเหนือไปจากเพศที่คุณเกิดมา พวกเขา (โรงเรียน) ก็ไม่สนับสนุน เนื่องจากโรงเรียนรู้สึกว่าพวกเรานั้นกำลัง ‘สับสน’ ซึ่งนี่มันค่อนข้างจะทำให้หมดกำลังใจนะ”
‘Nicholas October’ อดีตนักเรียนชายข้ามเพศวัย 22 ได้บอกว่าการขัดเกลาทางสังคมให้โอนอ่อนต่อเรื่องเพศในกรอบเดิม ๆ นั้น เข้มงวดมากในสังคมโรงเรียน ซึ่งควรได้รับการแก้ไข
“ง่าย ๆ เลยก็คือ เราถูกจับใส่กล่อง และคุณจะไม่ได้ออกมาถ้าคุณไม่ต่อสู้ หรือรอจนคุณเรียนจบ และนี่คือปัญหาใหญ่ เพราะคุณจะไม่ได้เป็นตัวเองอย่างมีอิสระ จากการที่ถูกบังคับให้เป็นใครที่คุณไม่ได้เป็น … การที่ต้องใส่อะไรที่คุณไม่ได้สบายใจที่จะใส่เป็นเวลานาน มันมีผลเสียรุนแรงต่อสุขภาพจิตนะ คุณจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ยังไง ถ้าคุณต้องรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา”
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ชุดนักเรียนที่แบ่งเพศออกเป็นแค่สองเพศนั้นเป็นปัญหามากกว่าแค่เรื่องผิวเผิน จนนำไปสู่ข้อเสนอว่าควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เครื่องแบบนั้นโอบรับเด็กนักเรียนทุก ๆ เพศ เพื่อลดความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติที่ส่งผลทางทางจิตใจและร่างกายของนักเรียน ซึ่งอาจะส่งผลต่อคุณภาพในการเรียนรู้ของพวกเขา
เมื่อกลางเดือนนี้ก็เพิ่งมีข่าวที่เด็กผู้ชายในโรงเรียนที่แอฟริกาใต้ออกมาใส่กระโปรงไปโรงเรียน ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่จุดประกายประเด็นนี้ให้เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกร้องเรื่องนี้ว่าจะเป็นไปในทางไหน และทางรัฐบาลของแอฟริกาใต้นั้นจะมีการตอบรับต่อประเด็นนี้อย่างไรบ้าง ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
การผลักดันเครื่องแบบนักเรียนให้เป็นกลางทางเพศนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเพื่อโอบรับความหลากหลายที่ดี แต่อีกข้อเสนอที่ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ว่า ‘นักเรียนควรมีสิทธิเลือกได้ว่าอยากใส่เครื่องแบบหรือไม่’ ก็เป็นอีกข้อเสมอที่น่าสนใจเช่นกัน เพื่อต่อยอดแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำและการเลือกปฏิบัติ ที่มากกว่าแค่การปรับปรุงเครื่องแบบ
#GenderNeutralUniform
#GenderEquality
#AntiDiscriminationinSchool
อ้างอิง
ภาพ: newsnaira
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
โฆษณา