Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เมืองน่าคิด
•
ติดตาม
2 มี.ค. 2022 เวลา 05:42 • ความคิดเห็น
ไม่ใช่เพียงการตายของดาราคนหนึ่ง
การเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หากเรามองและสะท้อนกันจริง ๆ นี่ไม่ใช่เพียงการตายของใครคนหนึ่ง หรือไม่ใช่เพียงการตายของดาราคนหนึ่ง แต่นี่จะกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมของไทย สะท้อนการทำงานของสื่อ สะท้อนความก้าวหน้าของสังคมในโลกยุคทุนนิยม และยุคที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจประเด็นสิทธิมนุษยชน ฯลฯ
เฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์การจากไปของแตงโม นิดา ตั้งแต่วันที่ตกน้ำ การค้นหา การพบศพ
ถ้าจะว่ากันไปจริง ๆ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นและดูผิดปกติ ตั้งแต่วันแรกที่พลัดตกน้ำ เพื่อนหาย คนบนเรือพูดไม่ตรงกัน แจงสถานการณ์ไม่ตรงกัน ทำให้คนที่ตามกระแสเคลือบแคลงใจ และสังคมมุ่งสงสัยไปที่ประเด็นการรับงานเอนฯ
และถ้าเป็นการรับงานเอนฯ (จริง ๆ) แต่เป็นการรับงานที่คุณโมไม่ได้รู้หรือรับทราบมาก่อน ไม่มีความยินยอม นี่คือ การค้ามนุษย์รูปแบบหนึ่ง และถ้ามีการทำร้ายกันบนเรือจนพลัดตก เกิดเป็นอุบัติเหตุ จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นั่นคือการถูกคุกคามรุนแรง
เมื่อความจริงคลี่คลาย เราน่าจะได้เห็นการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ว่าจะนำคนผิดมาลงโทษอย่างไร เพราะคนเหล่านั้น ดูมีพรีวิวเลจ มีลูกตำรวจ มีนักธุรกิจ มีกำลังในการวิ่งเต้นคดี
ประเด็นต่อมาที่เห็นจากเหตุการณ์นี้ คือ การล่วงละเมิดศพ ละเมิดสิทธิของผู้ตาย ละเมิดสิทธิของญาติ รวมถึงการกล่าวหาและลงโทษทางสังคมทั้งด้วยการบลูลี่ hate speech ด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่ถึงที่สุด
ใช่ว่ากระติกเป็นมนุษย์ที่มีตรรกะแปลกประหลาด ดูไร้มนุษยธรรมด้วย ดูมีวิจารณญาณแปลก ๆ และบุคลิกแบบนี้คือผลผลิตจากสังคม วัฒนธรรมแบบนี้ อย่าคิดว่าคนที่ดูมีตรรกะแบบนี้จะมีอยู่ในสังคมไทยเพียงน้อยนิด ความไม่รับผิดชอบต่อสถานะความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อน คนรัก คนที่ไม่รู้เหี้ยอะไรเลย คิดว่ากู้ภัยเป็นชาวบ้าน คิดว่าพอเป็นชาวบ้านแล้วจะพูดจาแย่ ๆ แบบไหนก็ได้ มีเป็นปกติในสังคมไทย และมีจำนวนไม่น้อย ผลพวงจากระบบวัฒนธรรมชนชั้น ผลพวงจากระบบการศึกษา ผลพวงจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ผลิตคนแบบนี้ออกมาก ซึ่งไร้คุณธรรมและไร้มนุษยธรรม ทำให้เด็กรุ่นใหม่มากมายต้องออกมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและเพื่อคนที่เท่ากัน
แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่ากระติกพูดถูกคือประโยคที่ว่า
'กระติกไปในฐานะเพื่อน และบางทีเธอก็อยากเที่ยว'
ใช่.. ถ้าวันนั้นไม่ใช่การรับงาน ทำไมกระติกต้องดูแลโมตลอดเวลา เธออาจจะเป็นแรงงาน แต่มันไม่ใช่เวลางาน มันคือเวลาเที่ยว เรามองระบบแรงงานกันแบบไหน และเรามองว่าคนที่อยู่ใต้อันเดอร์คน ๆ หนึ่ง รับเงินจากคน ๆ หนึ่งเป็นค่าแรง สถานะจะต้องเป็นแรงงานตลอดเวลาหรือเปล่า
ความจริงแล้วคือไม่ และยิ่งถ้ากระติกกับโมเป็นเพื่อนกัน เธอสองคนควรได้ใช้นอกเวลางานอย่างคนที่เป็นเพื่อนกัน และอย่างคนที่เท่ากัน
เพราะฉะนั้น สังคมจะลดทอนสถานะของกระติก เพราะกระติกเป็นแรงงานของโมตลอดเวลาไม่ได้
อีกประการ ถ้าเราจะพูดถึงสิทธิมนุษยชนกันจริง ๆ แล้ว กระติก แซน ปอ และคนอื่น ๆ ควรได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้กระบวนการยุติธรรมทำงานและพิสูจน์ว่าพวกเขาผิดหรือไม่ผิด แต่พึงระลึกว่าคนเหล่านี้ สถานะขณะนี้เพียงผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่มีใครเป็นผู้กระทำความผิด ด่าได้ ตำหนิได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่าแรงจนถึงขั้นลดทอนความเป็นมนุษย์ ซึ่งการลดทอนความเป็นมนุษย์นี้ เอาจริง ๆ เมื่อถึงขั้นศาลตัดสินว่าผิด ตามหลักสิทธิมนุษยชนพวกเขายังมีโอกาสได้แก้ตัวด้วยบทลงโทษทางกฎหมาย และกลับออกมาเป็นทรัพยากรมนุษย์ของประเทศหรือโลกใบนี้ได้ดังเดิม หากกระบวนการนั้นได้ทำให้คนเกิดสำนึกใหม่หรือมีความสำนึกผิด
นอกจากประเด็นทั่ว ๆ ไป เหล่านี้แล้ว
จะเห็นได้ชัดอีกกรณีหนึ่งก็คือการสะท้อนวัฒนธรรมของคนที่เรียกตัวเองว่าฝั่งประชาธิปไตยกันเองนี่แหละ ว่าเรา educate และสมาทานความคิดความเชื่อในความเป็นประชาธิปไตยกันได้มากน้อยขนาดไหน เราคิดถึงเรื่องการ respect ความเป็นคนที่จะเคารพได้ถึงรากเหง้า ความคิด ความเชื่อของเขาได้จริงหรือเปล่า
เริ่มจากเหตุการณ์ที่คุณโมตกน้ำ มีหลายคนแช่งชักหักกระดูก บางคนบอกว่าเป็นกรรมของสลิ่มบ้าง บางคนบอกว่าสมควร
ไม่ได้แตกต่างจาก Hate Speech ของคนกลุ่มหนึ่งที่คิดต่างจากคนเสื้อแดง และอยากให้คนเสื้อแดงตายในวันที่คนเสื้อแดงถูกยิง
ในขณะที่แตงโม นิดา เคยออกมาคอลเอาท์กับสามนิ้ว เคยออกมาขอโทษครอบครัวคุณทักษิณ เป็นสลิ่มที่กลับใจและการกลับใจมันสร้างอิมแพคได้มาก เพราะมันช่วยยืนยันว่าการที่เธอเคยตบเท้าเข้าไปเห็นด้วยกับการรัฐประหารในวันนั้น มันเป็นสิ่งที่ผิด
เราได้เขียนความเห็นไว้ในสเตตัสหนึ่งเมื่อวันก่อนว่า
'ชอบที่ อ.ปวิน เล่นเรื่องแตงโมในตลาดหลวง เพราะมันทลาย Hate Speech ที่มีต่อคุณแตงโม หรือ การแช่งให้ตาย การลดทอนคุณค่าความสูญเสียของครอบครัวคุณแตงโมที่ตัวคุณแตงโมเคยเป็น กปปส. โดยที่ อ.ปวิน ไม่ต้องไปนั่งด่าคนในตลาดหลวงที่เป็นแบบนั้น หรือไม่ต้องไป educate ด้วยสำบัดสำนวนวิชาการอะไรแล้ว ใช้ความเป็นเซเลบริตี้ของตัวเองทำให้เห็นเลยว่าวัฒนธรรมแบบปัญญาชนเป็นอย่างไร เราต้องพูดความเป็นธรรมหรือเท่าเทียมกับเฉพาะคนที่เราถูกอกถูกใจหรือเปล่า แล้วคนที่เคยไม่เป็นฝั่งเดียวกัน แล้ววันหนึ่งกลับมากล่าวขอโทษครอบครัวอดีตนายกฯ ทักษิณ อย่างคุณแตงโม นิดา สามารถที่จะได้รับการให้อภัยได้ไหม หรือความเป็นธรรมมันพูดให้ได้เฉพาะกับคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นพวกเท่านั้น
ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะเป็นทริคแบบตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ
ต่าง ๆ ก็คือต้องชื่นชม อ.ปวิน ในความไม่ทิ้งหลักการตรงนี้ไป'
นี่ก็อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราเก็บตกได้จากเหตุการณ์การจากไปของคุณแตงโม นิดา และหากจะช่วยกันช้อน ตกผลึก มองสะท้อน คิดว่าอีกหลายคนเห็นหลายมุม หลายเรื่อง หลายอย่าง ที่เป็นบทเรียน บทสะท้อนที่ทำให้เราวิเคราะห์ความรุนแรงเชิงโครงสร้างสังคม โครงสร้างการศึกษา และโครงสร้างวัฒนธรรม ที่มันกดขี่ กดทับ ผู้คนในสังคมนี้ได้ และเรายังไม่สามารถปลดปล่อยหรือปลดแอกกันได้อย่างแท้จริง
มันอาจจะต้องใช้เวลา.. ที่จะได้ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน
...
ในโอกาสที่เขียนถึงเรื่องนี้ ขอใช้พื้นที่นี้ร่วมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยการจากไปของคุณแตงโม
ขอคืนสู่อ้อมกอดของพระเจ้า และเป็นที่รักนิรันดร์
Rest in Place
ปล.ภาพจากอินเตอร์เน็ต
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย