## กฎ 10 ข้อ สร้างความสำเร็จของ แซม วอลตัน ##
.
สมัยเด็กๆ แซมอยากเป็นเซลล์แมน เขาเป็นเด็กขยัน ทำงานหารายได้ทุกช่องทาง
ตั้งแต่ส่งหนังสือพิมพ์ ช่วยพ่อรีดนมวัวขาย และรับจ้างต่อคิดร้านอาหาร
เขาดิ้นรนกัดฟันจนส่งตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยมิสซูรี
และเริ่มต้นเข้าทำงานอาชีพแรกด้วยการเป็นพนักงานห้าง เจ ซี เพนนี
.
จุดพลิกผันของเขาก็คือ แซมได้ไปแต่งงานกับลูกสาวนักกฎหมายมีฐานะ
พ่อตาจึงให้ยืมเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อเฟรนไชส์เปิดห้างเล็ก ๆ
ด้วยความขยันและความสามารถในการพลิกแพลงสิ่งต่าง ๆ ได้ดี
เขาสามารถหาเงินมาคืนพ่อตาทั้งก้อน ภายในเวลา 2 ปีครึ่ง
.
แซมเป็นแบบอย่างที่ดีของแนวคิดที่ว่า
“ธุรกิจไม่ใช่ศาสตร์การสร้างจรวด” เขามีกฎที่ฟังดูง่าย ๆ 10 ข้อ ที่แซมยึดถือไว้เหมือนเป็นกุญแจไขความสำเร็จของเขา ซึ่งถ้าอ่านดูแล้วไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่ว่าเขามีความมุ่งมั่นและยึดถือเป็นแบบแผน
ซึ่งกฎ 10 ข้อเพื่อสร้างความสำเร็จของแซม วอลตัน มีดังนี้
.
1. จริงจังกับธุรกิจของคุณ
คุณจะต้องจริงจังและศึกษาอย่างละเอียด ลึกซึ้ง ต้องพยายามมองให้รอบด้าน
และพยายามนึกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วมันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณอย่างมาก
รวมถึงการคิดหาวิธีการเพื่อรับมือในสิ่งนั้น ๆ ด้วย
.
2. แบ่งปันกำไรให้แก่พนักงานของคุณ
ถ้าคุณมีพนักงาน คุณจะต้องสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน
คุณควรจะดูแลเขาและครอบครัวของเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะดูแลได้
ในด้านของตัวเงิน อาจจะมีโบนัสที่มาจากผลประกอบการของคุณ เพื่อให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าของในธุรกิจของคุณ
และพยายามสร้างรายได้ให้กับคุณเพิ่ม ซึ่งมันอาจจะเป็นแรงขับหนึ่งในการทำงานของพนักงานก็ได้
.
3. กระตุ้นให้พนักงานทำให้ดีที่สุด
สิ่งที่มีค่าที่สุดของบริษัทก็คือ พนักงาน
หากเราสามารถจ้างพนักงานที่เก่ง มีความสามารถ และจงรักภักดีต่อบริษัทของคุณแล้ว สิ่งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ดังนั้น ในการบริหารจัดการพนักงาน โจทย์ก็คือ คุณจะต้องดึงศักยภาพของพนักงานออกมาให้มากที่สุด
ซึ่งก็คือวิธีกระตุ้นให้พนักงานทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยพยายามให้เขาเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำนั่นเอง
.
4. สื่อสารสิ่งที่กำลังจะเกิดกับพนักงาน
การสื่อสารกับพนักงานเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดจากการทำงานมาจากการสื่อสารที่ไม่ดี การเข้าใจกันผิด
ซึ่งวิธีแก้ง่าย ๆ แต่โดยมากคนไม่ชอบทำก็คือ การพยายามสื่อสารเพื่อให้ฝั่งตรงข้ามรับทราบ และสามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างราบรื่นขึ้น
การสื่อสารที่ดี ช่วยให้พนักงานเกิดความเข้าใจรู้สึกดีต่อบริษัท และทำให้ช่วยลดความผิดพลาดในการปฏิบัติงานอีกด้วย
.
5. สำนึกบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือคุณ
การที่เรารู้จักตอบแทนคนที่คอยช่วยเหลือเราเป็นเรื่องที่ดีมาก
เพราะในอนาคตเราไม่รู้ว่า วันหนึ่งเราอาจจะต้องเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือเขาไหม หรือในทางกลับกันวันหนึ่งเขาอาจจะมาเป็นหัวหน้าเราก็ได้
เพราะฉะนั้น ในการทำธุรกิจไม่ใช่ว่าคิดแต่เรื่องผลประโยชน์
แต่สิ่งที่ต้องนำมาคิดด้วยก็คือ การมีจิตสำนึกและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และคนที่เคยช่วยเหลือคุณนั่นเอง
.
6. ฉลองให้แก่ความสำเร็จ
เวลาเราประสบความสำเร็จเราก็ควรที่จะให้รางวัลตัวเองบ้าง เพื่อสร้างกำลังใจและขอบคุณตัวเองและเพื่อนร่วมงานที่เป็นแรงผลักดันให้ประสบความสำเร็จ
.
7. ฟังสิ่งที่คนอื่นพูด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังเสียงลูกค้า การฟังเป็นกระบวนการที่สำคัญมาก ทำให้เราเกิดความเข้าใจฝั่งที่เขากำลังพูด เราควรฟังแบบ Active Listening คือ
การฟังที่มากกว่าคำที่เขาพูดออกมา การฟังให้รู้ไปถึงความรู้สึก ความต้องการที่เขาอยากจะบอกกับเรา
ยิ่งถ้าเราทำธุรกิจสิ่งที่เราจะต้องฟังที่สุดก็คือ เสียงของลูกค้า
แซมจะสอนพนักงานว่า เจ้านายของพวกเขามีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ลูกค้า
พวกเขาจะอยู่หรือไป ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้านี่แหละ
.
8. ทำทุกอย่างให้เกินความคาดหมาย
เวลาทำงานเราควรทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างและสะสมความน่าเชื่อถือในการทำงาน
ยิ่งถ้าเราทำงานแบบเชิงรุก (Pro-active) เราจะเป็นคนที่ทำงานเกิดความคาดหวังของคนอื่นอยู่เสมอ
ในด้านของลูกค้า แซมมองว่า ลูกค้าคือพระเจ้าอย่างแท้จริง แซมพยายามมองหาสิ่งของแปลกใหม่ที่ไม่มีขายในห้างทั่ว ๆ ไปมาวางขาย
ซึ่งทำให้เป็นห้างที่ตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างมากเพราะมีขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ
นอกจากนี้ เขายังบอกพนักงานของเขาทุกคนว่า จงทำให้เกินความคาดหวังของลูกค้า แล้วลูกค้าจะกลับมาหาเราอีกแน่นอน
.
9. ควบคุมรายได้ให้ดีกว่าคู่แข่งของคุณ
คุณจะต้องมีการบริหารจัดการภายในที่ดี การวิเคราะห์ต้นทุน และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อาจรวมถึงการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย ในกรณีของห้างวอลมาร์ท
เขายอมลงทุนกับเรื่องการจัดส่งสินค้าและการกระจายสินค้า โดยไม่ผ่านคนกลาง
ทำให้ประหยัดต้นทุนไปหลายเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้วอลมาร์ทชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก
.
10. รู้จักสวนกระแส
บางครั้งการตามกระแสอาจเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้องเสมอไป
เราจะต้องมีจุดยืนและยืนหยัดในความโดดเด่นของตัวเอง
การสร้างความแตกต่างหรือการคิดนอกกรอบ จะนำพาเราไปสู่ประตูแห่งความสำเร็จก็ย่อมได้
เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดอยู่กับวิธีคิดแบบเดิมๆ และกล้าที่จะเป็นปลาทวนน้ำ
ยกตัวอย่างของแซม ตอนเปิดห้างยุคแรก ๆ วอลมาร์ทมีสโลแกนว่า
Always Low Prices, Always
และต่อมาเปลี่นเป็น Save Money, Live Better
เขาสร้างความแตกต่างและสวนกระแสโดยการขายของที่ราคาถูกกว่าห้างไหน ๆ
รวมถึงทำการตลาดในยุคแรก ๆ ที่ยินดีให้เปลี่ยนสินค้าได้
ซึ่งในขณะนั้นก็ยังไม่มีห้างไหนกล้าทำ
.
นี่คือ 10 ข้อคิดดี ๆ ที่ครูได้จากหนังสือที่ชื่อว่า
28 อัจฉริยะผู้พลิกโลก (28 Bussiness Thinker)
ครูก็แนะนำให้หาหนังสือฉบับเต็มมาอ่านเพื่อสาระที่ครบถ้วนนะคะ
.
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่อยากรู้วิธีเขียนเป้าหมายให้เป็นจริง
และสร้างนิสัยเพื่อเข้าใกล้ความสำเร็จ
ครูเนยก็มีคลิปวิดีโอสอนฟรีมากกว่า 500 คลิป
.
.
ใครสนใจสามารถเรียนรู้ฟรีได้ที่
.
#ครูเนย
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
