3 มี.ค. 2022 เวลา 02:32 • การเมือง
ลูกดำของสหรัฐคือจีน
โดย
1
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
https://www.timesofisrael.com/nato-chief-warns-real-risk-of-war-amid-russian-troop-buildup-around-ukraine/
ประเด็นที่เปิดฟ้าส่องโลกคุยไว้เมื่อวานก็คือ ใครเป็นคนแรกที่นำอูเครนไปอิงแอบแนบซบกับสหรัฐ นาโต และตะวันตก
1
ผมเรียนไปแล้วว่าประธานาธิบดีคนแรก (วิคเตอร์ ยูเชนโค) ที่นำอูเครนไปอิงสหรัฐเคยต้อนรับผมไปคุยที่สำนักงานของท่านใครกรุงคีฟ เมื่อต้นเดือนกันยายน ค.ศ. 2017
เมื่อวานผมเขียนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อ 31 ตุลาคม 2004 ปรากฏว่ายูเชนโคฝ่ายสหรัฐได้เสียงสนับสนุนร้อยละ 39.87 และยานูโควิช ฝ่ายรัสเซีย ได้ร้อยละ 39.32
เมื่อไม่มีใครได้คะแนนเสียงถึงร้อยละ 50 จึงต้องมีการแข่งขันรอบที่ 2 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2004 คราวนี้ผู้สมัครที่โปรรัสเซียได้ร้อยละ 49.5 ผู้สมัครที่โปรตะวันตกได้ร้อยละ 46.5
1
ทันทีที่ผู้สมัครโปรรัสเซียชนะ สื่อสหรัฐและตะวันตกก็รายงานกันถี่ยิบว่ามีการโกงเลือกตั้ง สื่อตะวันตกตีข่าวย้ำๆ ซ้ำๆ ทุกชั่วโมง ทำให้ยูเชนโคและคนอูเครนที่โปรตะวันตกประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
1
จากนั้นก็มีมือที่มองไม่เห็นเข้าไปจัดการให้มีการประท้วงทั่วประเทศ ศาลสูงก็ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้มีเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 26 ธันวาคม 2004
1
การเลือกตั้งในครั้งนี้ ยูเชนโคฝ่ายโปรตะวันตกได้คะแนนร้อยละ 52 ส่วนยานูโควิชฝ่ายโปรรัสเซียได้คะแนนร้อยละ 44.2
1
ยูเชนโคปฏิญาณสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 23 มกราคม 2005 หลังจากนั้นก็บินไปเยือนตะวันตก และประกาศว่าจะผลักดันอูเครนให้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
1
ท่านผู้แถลงแสดงความเห็นในโซเชียลมีเดียว่าเซเลนสกี เป็นประธานาธิบดีอูเครนคนแรกที่ประกาศนำอูเครนเข้าไปเป็นสมาชิกของนาโต จึงไม่เป็นความจริง
คนที่ประกาศครั้งแรกคือวิคเตอร์ ยูเชนโค
การประกาศครั้งนั้นทำรัสเซียก็โกรธมาก จึงมีความพยายามเข้าไปเริ่มตั้งขบวนการเคลื่อนไหวในไครเมีย จนไครเมียกลับมาเป็นดินแดนของรัสเซียใน ค.ศ.2014
1
หลังจากไครเมียเป็นของรัสเซียได้ 3 ปี ผมก็ได้รับชวนไปพูดคุยกับอดีตประธานาธิบดียูเชนโค และอีก 4 ปีต่อมา ประธานาธิบดีคนใหม่คือเซเลนสกี พยายามทำแบบเดียวกับยูเชนโค
1
แต่คราวนี้ดันมีประเด็นเรื่องท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ซึ่งสหรัฐยอมให้เกิดไม่ได้ ก็จึงทุ่มเททรัพยากรลงไปให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างอูเครนและรัสเซีย
มกราคม 2022 สหรัฐก็พยายามสร้างความขัดแย้งในสาธารณรัฐคาซัคสถาน ถ้าผู้อ่านท่านยังจำได้ว่า นายบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดหน้าเล่นเองด้วยการตะโกนก้องร้องว่า...
“ชาวคาซัคออกมาประท้วงเผาบ้านเผาเมืองเพราะคนเหล่านั้นเดือดร้อนเรื่องราคาค่าเชื้อเพลิง...นี่มันเป็นเรื่องภายในของคาซัคสถานแท้ๆ ตำรวจทหารและรัฐบาลคาซัคมีศักยภาพในการจัดการวิกฤติของตนเองอยู่แล้ว...
ไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลของประธานาธิบดีฆาเซิม-โฌมาร์ต โตกาเยฟจึงต้องไปร้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก”
คำว่าภายนอกของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็คือรัสเซีย คราวนั้น กองทหารรัสเซียเข้าไปช่วยประธานาธิบดีคาซัคสถานภายใต้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (ซีเอสทีโอ) แล้วก็จัดการปัญหาได้ในเวลาไม่กี่วัน จากนั้นรัสเซียก็ถอนทหารกลับ
ความพยายามของสหรัฐมีมาก่อนหน้านี้ครับ เดือนพฤศจิกายน 2021 เกิดปัญหาวิกฤติผู้อพยพที่ชายแดนเบลารุส (โปรรัสเซีย) กับโปแลนด์ (โปรสหรัฐ) นายกรัฐมนตรีโปแลนด์พูดเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2021 ว่า...
2
“วิกฤติด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดนคราวนี้ เกิดจากรัสเซียเป็นผู้วางแผนให้ลูคาเชนโกใช้ผู้อพยพเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเล่นงานโปแลนด์กับลิทัวเนีย”
2
เมื่อวิกฤติที่เบลารุสสงบจบลง ก็เกิดวิกฤติใหม่ที่คาซัคสถาน แล้วตามด้วยอูเครน
2
ทุกเหตุการณ์เกิดหน้าบ้านรัสเซีย สหรัฐคิดว่าต้องจัดการรัสเซียให้ได้ รัสเซียอ่อนแอเมื่อใด ก็ไม่มีปัญญาไปช่วยจีน จีนคือลูกดำของสหรัฐ.
1
โฆษณา