Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Culture Butterfly by Nina
•
ติดตาม
4 มี.ค. 2022 เวลา 09:17 • ไลฟ์สไตล์
ฉีดยา มือเบ๊าเบาสไตล์พี่ไทย vs. American style
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิดกัน ทำให้นีน่านึกถึงช่วงที่เคยโดนฉีดยาที่อเมริกา และเห็นถึงความแตกต่างในการฉีดยาระหว่างประเทศไทยและประเทศอเมริกา ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆมีใครสังเกตุเห็นลักษณะการฉีดยา ของทั้งสองประเทศไหมว่าความแตกต่างกันอย่างไร
ฉีดยา (to give an injection, to give a shot)
ก่อนจะพูดถึงจุดนี้ นีน่าขอเล่าเกริ่นไปก่อนนิดนึงถึงสาเหตุที่นีน่าต้องโดนฉีดยา ช่วงนั้นนีน่าเรียนจบและกำลังทำงานอยู่ ถ้าเรียนจบปริญญาที่อเมริกา ทุกคนคงทราบกันดีว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาได้อีก 1 ปี (เป็นกฏในสมัยนั้น ซึ่งนีน่าไม่แน่ใจว่าสมัยนี้กฏกติกาสำหรับนักเรียนต่างชาติเปลี่ยนไปหรือยัง) เพราะฉะนั้นช่วงเวลา 1 ปีนั้น นักเรียนต่างชาติจะพยายามหางานทำกับบริษัทที่สามารถ sponsor ในการสมัคร “Working Permit หรือใบอนุญาติในการทำงานที่อเมริกา” ให้ ซึ่งก็จะเป็นปี ๆ ไป นักเรียนบางคนก็ประสบความสำร็จแต่บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะใช้เวลา 1 ปีนั้นเที่ยวและทำงาน part-time หาเงินก่อนกลับเมืองไทย
ในเคสของนีน่า นีน่าได้สมัครทำงานกับ FedEx คือเป็น Sales กับ FedEx Services ซึ่งจริง ๆ ทางบริษัทไม่มีนโยบายที่จะ sponsor นักเรียนต่างชาติในการสมัคร Working Permit ให้ แต่นีน่าสามารถสมัครได้เพราะสามีเป็นคนไทยที่เกิดในอเมริกา เลยมีสัญชาติเป็นทั้งไทยและอเมริกัน คือ มี dual citizenship เลยเป็น sponsor ให้นีน่าได้ จำได้ว่าตอนสมัครนั้น นีน่าเลือกที่จะสมัครเองโดยไม่ได้ใช้ทนายเลย เคยปรึกษานักเรียนต่างชาติคนอื่น ๆ ซึ่งค่าบริการแพงมาก ต้องจ้างทนายดำเนินเรื่องให้เป็นเงินหลายพันเหรียญ ซึ่งก็ไม่การันตีนะว่าจะได้ citizenship หรือไม่ได้
จำได้ว่าเอกสารที่นีน่าต้องสมัครหนามาก เป็นปึก ๆ เขาขอรายละเอียดตั้งแต่เกิดเลยว่าเกิดที่ไหน ที่โรงพยาบาลอะไรในประเทศไทย และเคยฉีดวัคซีนอะไรมาแล้วบ้างตั้งแต่เกิด (--!) ซึ่งนีน่าต้องทำเรื่องมาเมืองไทยขอประวัติการฉีดวัคซีนตอนเด็กเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีการขอข้อมูลอีกหลายอย่าง เช่น จบที่ไหน ทำอะไรมาบ้าง โชคดีที่นีน่ามีเอกสารติดตัวมาด้วยตั้งแต่ตอนที่สมัครเรียนต่อที่อเมริกา และเราก็จบที่อเมริกาด้วย เรื่องเอกสารการเรียนเลยไม่ค่อยเป็นปัญหา แต่เรื่องวัคซีนตั้งแต่เกิดนี่สิที่ตอนแรกก็เครียดเหมือนกันว่าโรงพยาบาลที่เกิดจะมี records เก็บไว้ไหม แต่โชคดีที่โรงพยาบาลมี records หมด แต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะได้เอกสารทั้งหมด เหตุผลที่เขาให้ก็คือว่าคนที่จะเป็นประชาชนอเมริกันจะต้องโดนฉีดวัคซีนที่ถูกกำหนดโดยประเทศเขา ถ้านีน่าไม่สามารถหาเอกสารมายืนยันได้ นีน่าก็จะต้องถูกฉีดใหม่หมด … (--!)
โชคดีนะที่เมืองไทยก็มี standard ที่ดี พอเห็น records การฉีดยาตอนเด็กของตัวเองก็ประทับใจเหมือนกันว่าโดนฉีดไปเยอะเลย แอบคิดดีใจว่าคงไม่โดนฉีดเพิ่มแล้ว แต่ที่ไหนได้ โดนฉีดเพิ่มอีก 5 เข็ม บางอันฉีดไปแล้วแต่เขาบอกต้องกระตุ้นอีกที แล้วเขาก็นัดให้มาฉีด …
จำได้ว่าเขานัดฉีดทั้งหมด 2 ครั้งสำหรับ 5 เข็ม แปลว่าต้องโดนฉีด 3 เข็ม 1 ครั้ง และ 2 เข็ม 1 ครั้ง … ☹
ต้องบอกก่อนว่านีน่าเป็นคนกลัวเข็ม และที่ผ่านมาเวลาเอาเลือดไปตรวจที่ต้องแทงเข็มเข้าตรงข้อพับด้านใน จะมีรอยช้ำทุกครั้ง เลยหวั่น ๆ วันที่จะต้องโดนฉีด 3 เข็ม จำได้ว่าพอเดินเข้าไปเพื่อรับการฉีด เห็นนางพยาบาลก็ต้องอุทานคำว่า “OMG!” เพราะนางเป็นนางพยาบาลคนดำที่ตัวใหญ่มาก พอนางไถ่ถามชื่อเสร็จก็บอกให้ถลกแขนเสื้อขึ้น นีน่าก็แค่ถลกแขนขึ้น แต่ยังไม่ได้ทำใจเตรียมตัวเลย กะจะคุยก่อนว่าที่จะฉีดเข็มแรกเป็นวัคซีนอะไร เบา ๆ นะเค้ากลัว ตามประสาเหมือนตอนที่ฉีดที่เมืองไทยบ้านเรา แต่ที่ไหนได้ นางไม่พูดพล่ามทำเพลงพูดแค่คำว่า “stick” แล้วนางก็ฉีดเลยแบบแรงมาก ฉีดเหมือนคนปาลูกดอกลงมาที่ต้นแขนแบบแรงมาก นีน่าตกใจมาก ๆ เกือบกระโดดแล้ว ดีนะที่ยังกระโดดไม่ทัน ไม่งั้นเข็มอาจจะหักคาต้นแขนก็ได้ … ☹
นีน่าตกใจและเจ็บมาก ตกใจว่าทำไมถึงได้ทำรุนแรงแบบนี้ … (T T!) พอเข็มต่อไปก็เลยบอกนางให้รอก่อน ขอทำใจก่อนได้ไหม แล้วช่วยฉีดแบบถนุถนอมหน่อยได้ไหม เขาก็หัวเราะแล้วก็ค่อย ๆ ฉีดให้ แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี วันนั้นโดนไป 3 เข็ม แล้วอีกไม่กี่วันก็ไปโดนฉีดอีก 2 เข็ม บอกไว้เลยถ้าใครยังไม่มีประสบการณ์โดนฉีดยาแล้วต้องโดนฉีดยาที่อมริกา บอกนางพยาบาลไปก่อนเลยว่าเบา ๆ นะ เพราะเขาจะมาแบบแรงทุกราย
ช่วงที่มีโควิด นีน่าก็ดูทีวีแล้วเห็นเขาฉีดกันที่อเมริกา ก็ทำให้นึกถึงเวลาที่เคยโดนฉีดยาที่โน่น ในขณะที่นางพยาบาลเมืองไทยจะน่ารักมาก มือเบา และรู้สึกว่าคนไทยส่วนใหญ่จะกลัวเข็มกัน เพราะฉะนั้นนางพยาบาลเมืองไทยจะระวังเวลาจะฉีดยาให้ เมื่อปีที่แล้วนีน่าไปฉีดวัคซีนโควิด ก็บอกเลยว่านางพยาบาลมือเบามาก ๆ แทบไม่รู้สึกเลย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ appreciate เมืองไทยมาก ๆ
เพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์คล้าย ๆ นีน่าหรือมีประสบการณ์การโดนฉีดยาที่ประเทศอื่นก็สามารถมาแชร์หรือเล่าประสบการณ์แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ … 😉
Until next time …
สนใจอ่านบทความก่อนหน้านี้ กดที่ links ข้างล่างนี้เลยคะ
1. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5d7ca38eb352790fa6a95472
2. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5d7f3aa9494e230e3f4a669c
3. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 3
https://www.blockdit.com/articles/5d89cd8ada9589133f549e00
4. Culture Shocks เมื่อนีน่าอยู่อเมริกา Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5d8c419a4b1ade063b4555ed
5. Culture Shocks เมื่อนีน่าอยู่อเมริกา Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5da5a63df5f84f5ec19f625a
6. คนไทยกับภาษาอังกฤษ ... ปัญหาแห่งชาติที่แก้ไม่ตก Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5e1591302f13090e8322147c
7. คนไทยกับภาษาอังกฤษ ... ปัญหาแห่งชาติที่แก้ไม่ตก Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5e60d4f37de6fb04c8e1a505
8. CoVID 19 กับความคิดของคนอเมริกัน
https://www.blockdit.com/articles/5ed783544c570927cacc874e
9. การเหยียดสีผิวในอเมริกา (Racism in America)
https://www.blockdit.com/articles/5ed7ab868ce5140caa16c7cb
10. เมื่อบ้านไม่ใช่บ้านอีกต่อไป (Reverse Culture Shock) Episode 1
https://www.blockdit.com/posts/605b282b1af0b412203d2201
11. เมื่อบ้านไม่ใช่บ้านอีกต่อไป (Reverse Culture Shock) Episode 2
https://www.blockdit.com/posts/60697cdfdd82cf0c503f4a1a
12. เมื่อบ้านไม่ใช่บ้านอีกต่อไป (Reverse Culture Shock) Episode 3
https://www.blockdit.com/posts/607c4d38ca6b970c2be6c946
1 บันทึก
2
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Nina's Life @ America
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย