3 มี.ค. 2022 เวลา 18:46 • การศึกษา
"Speech ที่ทรงพลังของศิลปินฮิปฮอปนามว่า Autta"
เราทำกันเองแม่งยังได้ขนาดนี้ ถ้ารัฐสนับสนุน เราจะไปได้ขนาดไหนวะ
Autta
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานมอบรางวัลให้กับศิลปินในวงการเพลงขึ้นมาทั้งเบื่องหน้าและเบื้องหลัง ชื่องานว่า TOTY Music Awards 2021 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมีศิลปินมากหน้าหลายตาทั้งเก่าและใหม่เข้าร่วม
โดยหนึ่งในนั้นคือศิลปินฮิปฮอปชื่อว่า "Autta" ซึ่งเป็นศิลปินจะว่าใหม่ก็ใหม่ จะว่าเก่าก็เก่า เพราะตัวของ Autta เองไม่ได้เป็นศิลปินฮิปฮอปที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าางมากนักแต่ว่าหากพูดถึงวงการใต้ดินที่เขาเริ่มสร้างชื่อมาถือว่าเป็นที่ยอมรับของใครหลายคนด้วยฝีมือและเทคนิคการแร็พขั้นเทพ
โดยตัวงานได้ทำการมอบรางวัลและมีโชว์ของศิลปินผ่านไปมากมายจนกระทั้งถึงคิวของ Autta หลังจากการทำโชว์ของตัวเองเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาประกาศรางวัลที่มีชื่อของตนเข้าชิงและเขาก็ได้รับรางวัลในที่สุดซึ่งถือว่าเป็นรางวัลใหญ่รางวัลแรกของเจ้าตัวในฐานะศิลปินอีกด้วย
หลังจากได้รับรางวัลแล้วตัวของ Autta เองกำลังจะเดินลงจากเวที แต่ก็ชะงักและเดินกลับไปที่ไมค์ เหมือนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยากจะพูดอะไร ซึ่งเจ้าตัวก็ได้พ่น Speech ดังกล่าวออกไป ซึ่งทำให้คนในงานนั้นตะโกนเฮดังลั่นพร้อมกับตบมือให้กับประโยคที่พึ่งได้ยิน มันเหมือนกับว่าเป็นความในใจของใครหลายคนในงานวันนั้น
Speech ที่กล่าวมานี้ทรงพลังอย่างไร?
การจัดงานขึ้นในครั้งนี้คือการร่วมมือกันของภาคธุรกิจเอกชนจึงเกิดขึ้นมาได้ และได้จัดเวทีนี้ขึ้นมาในก่อนหน้านี้ตลอดทั้งปีว่า T-POP Stage ซึ่งเป็นเวทีให้ศิลปินที่มีผลงานมาแสดงสดโชว์ความสามารถให้ผู้คนในวงกว้างได้เห็นผ่านหน้าจอทีวี ส่งเสริมและผลักดันให้วงการเพลงไทยขยับขยายมากขึ้น ให้เป็นที่รู้จักที่มากขึ้น ทั้งตัวของเพลงและตัวของศิลปินเอง
ทั้งนี้หากภาครัฐเห็นความสำคัญและใส่ใจกับความสามารถของศิลปินไทยมากกว่านี้ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็น วงการเพลงไทยเติบโตในระดับไล่เลี่ยกับ วงการ K-POP ของเกาหลีใต้ก็เป็นได้
พูดไปอาจจะเหมือนดูจะเพ้อเจ้อไปสักนิด แต่ถ้าหากมองดู และ พิจารณาจะเห็นได้ว่าศิลปินรุ่นใหม่ที่ขยับขึ้นมาแทนที่ศิลปินรุ่นเก่านั้นมีความสามารถที่หลากหลาย มีพัฒนาการในทักษะของสายอาชีพของตนอย่างก้าวกระโดด และเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ทั้งเสียงร้อง การแต่งตัว หน้าตา บุคลิก
และไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นมหาอำนาจด้านสื่อบรรเทิงในเอเชียได้ ส่วนหลักๆเลยคือรัฐบาลของประเทศเขา ที่ผลักดัน และส่งเสริม ทั้งเม็ดเงิน และ การนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศในช่วงของการตั้งไข่
แต่ในปัจจุบันอาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้นเพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน โลกได้แคบลง ผู้คนติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น
เราต้องการเพียงแค่การผลักดันส่งเสริมอย่างจริงจัง หาเวที เปิดโอกาส และ ปลดล็อคหลายๆอย่างที่ปิดกันความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินในประเทศ
และหากเข้ามาซัพพอร์ตดูแลอย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จทัดเทียมกับเกาหลีใต้ขึ้นมา ผลดีนั้นจะไม่หยุดอยู่แค่ศิลปิน หรือ ค่ายเพลงที่ศิลปินสังกัด แต่มันหมายถึงชื่อเสียงของประเทศไทย วัฒนธรรมของไทยที่ได้เข้าไปฝังอยู่ในหัวใจของคนต่างชาติ เหมือนกับที่เด็กในบ้านเรากลายเป็นติ่งเกาหลี หรือ ผู้ที่หลงไหลในวัฒนธรรมเกาหลีอย่างทุกวันนี้
”เด็กมีความสามารถขอเพียงแค่ผู้ใหญ่ให้โอกาสและเชื่อมันในตัวเขาพร้อมสนับสนุนส่งเสริมอย่างเต็มที่ก็เพียงพอ“
Autta
โฆษณา