4 มี.ค. 2022 เวลา 01:18 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สุนัขเลี้ยงแกะหลบไป
เมื่อเกษตรกรหันมาใช้ลามะผู้พิทักษ์
(เรียบเรียงโดย ยิ่งยศ ลาภวงศ์)
ลามะ เป็นสัตว์ในตระกูลอูฐที่มีหน้าตาน่ารัก ขนปุกปุย ดูไม่มีพิษมีภัย ในอดีตพวกมันถูกใช้เป็นพาหนะขนส่งข้าวของเครื่องใช้โดยชาวอินคาและยังถูกใช้เป็นอาหารด้วย ขนของลามะนั้นยาวและนุ่ม สามารถนำมาใช้ทอเป็นเครื่องนุ่งห่มได้ ประโยชน์เหล่านี้เป็นที่รู้จักมานับพันปีแล้ว
1
จากการศึกษาพันธุกรรมพบว่า แท้จริงแล้วลามะนั้นสืบเชื้อสายมาจากกัวนาโค ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลอูฐที่ยังพบได้ในธรรมชาติ ต่อมาลามะถูกนำมาเลี้ยงอย่างแพร่หลายในทวีปอเมริกาเหนือ จนในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 80 เกษตรกรผู้เลี้ยงแกะในสหรัฐอเมริกาได้ค้นพบประโยชน์ใหม่ของลามะ ในฐานะผู้พิทักษ์ฝูงสัตว์จากเหล่านักล่า
1
กัวนาโค ที่มา : Wikipedia
ในธรรมชาติ กัวนาโค ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของลามะนั้นอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีสด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ ดินแดนแถบนั้นเต็มไปด้วยสัตว์นักล่า อย่างเสือพูม่า และสุนัขจิ้งจอกแอนเดียน พวกมันจึงมีวิวัฒนาการสัญชาตญาณก้าวร้าวเมื่อต้องเผชิญกับนักล่า เพื่อที่จะปกป้องสมาชิกในฝูงและสัญชาตญาณนั้นก็ถูกส่งต่อมาถึงลามะ เกษตรกรที่เลี้ยงลามะร่วมกับฝูงแกะพบว่า ลามะพวกนี้สามารถสร้างความสัมพันธ์กับพวกแกะ จนคิดว่าแกะคือสมาชิกในฝูงที่ปกป้อง และลามะสามารถขับไล่นักล่าในตระกูลสุนัข อย่าง สุนัขจรจัด สุนัขป่าโคโยตี้ และสุนัขจิ้งจอกซึ่งเป็นนักล่ากลุ่มหลักที่ชอบมาขโมยลูกแกะ ได้อย่างไม่เกรงกลัว
2
แม้ว่าในอดีต เกษตรกรจะชอบใช้สุนัขเลี้ยงแกะที่ฝึกฝนมาอย่างดีในการดูแลฝูงแกะ แต่สุนัขนั้นต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่าลามะ พวกมันต้องผ่านการฝึกฝนเพื่อให้รู้หน้าที่ และต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง แถมบางกรณีสุนัขเลี้ยงแกะเองนี่แหละกลับมาทำร้ายแกะ ทำร้ายผู้คน หรือทำลายข้าวของ ขณะที่ลามะนั้นมีนิสัยที่สงบเสงี่ยมมากกว่า มีสัญชาตญานในการปกป้องฝูงตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านการฝึกฝนใด ๆ มีเพียงแค่การแนะนำฝูงแกะให้พวกมันรู้จักในช่วงแรกเพื่อกระชับความสัมพันธ์ แค่นั้นลามะก็พร้อมใช้งานแล้ว
2
ลามะ (Llama) ที่มา : Wikipedoa
อีกทั้งเมื่อเทียบกับสุนัข ลามะนั้นมีอายุยืนกว่ามาก พวกมันสามารถทำหน้าที่ได้นานกว่า 15 ปีเลยทีเดียว ที่สำคัญ ลามะกินอาหารแบบเดียวกับแกะ นั่นก็คือหญ้า ทำให้เกษตรกรไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ ปัจจุบันจึงมีเกษตรกรหันมาเลี้ยงลามะร่วมกับฝูงแกะกันมากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
อันที่จริงแล้ว ประสิทธิภาพในการปกป้องฝูงแกะของลามะไม่ได้มาจากความก้าวร้าวของมันอย่างเดียว ลามะอาจใช้การร้องเตือน การนำฝูงแกะหนีนักล่า หรือแม้แต่การถุยน้ำลายใส่นักล่า เมื่อเผชิญหน้ากัน แต่เมื่อเข้าตาจนมันก็สามารถเตะ หรือกระทืบศัตรูได้ เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่านักล่ามาก
นอกจากลามะแล้ว ญาติที่เล็กกว่าของมันจากทวีปอเมริกาใต้ อย่าง อัลปาก้า ก็สามารถทำหน้าที่ปกป้องฝูงแกะได้เหมือนกันแม้ว่าประสิทธิภาพอาจจะด้อยกว่า
จากการสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรผู้เลี้ยงแกะโดย Iowa State University พบว่า 80% ของเกษตรกรเชื่อมั่นว่าลามะนั้นมีประสิทธิภาพในการปกป้องฝูงแกะ และยังรายงานว่าจำนวนแกะที่ถูกนักล่าตามธรรมชาติล่าลดลงจาก 21% เหลือเพียง 7%เท่านั้น ส่วนการศึกษาเบื้องต้นในออสเตรเลียก็ชี้ว่า อัลปาก้า สามารถลดอัตราการสูญเสียลูกแกะได้ถึง 13%
ภาพวาด ลามะ และ อัลปากา ที่มา : https://bellepaga.com/en/page/18/alpaca-llama
อย่างไรก็ตาม ลามะและอัลปาก้าแต่ละตัวนั้นอาจมีนิสัยที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นเกษตรกรจำเป็นจะต้องศึกษานิสัยของลามะแต่ละตัวก่อนนำมาใช้งาน และการพัฒนาสายพันธุ์ลามะเพื่อทำหน้าที่ดูแลฝูงแกะโดยเฉพาะก็อาจจะเป็นวิธีการที่จะทำให้ได้ลามะผู้พิทักษ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในอนาคต
อ้างอิง
Cavalcanti, S. M.C, and F. F. Knowlton. “Evaluation of physical and behavioral traits of llamas associated with
aggressiveness toward sheep-threatening canids.” 1998. Applied Animal Behaviour Science, vol 61, no. 2, pp. 143-158,
Mahoney, S., and A. A. Charry. “The Use of Alpacas as New-Born Lamb Protectors to Minimise Fox
Predation.” 2005. Extension Farming Systems Journal, vol. 1, no. 1, pp. 65–70.
Markham, D., et al. "Guard llamas-an alternative for effective predator management." International Llama
Association Educational Brochure 2 (1993).
โฆษณา