4 มี.ค. 2022 เวลา 03:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
มาทำความรู้จักกับ ยู ยองชอล ฆาตกรต่อเนื่องจากเกาหลีใต้ ที่ถูก Netflix นำไปทำสารคดี สารคดีชุดนี้มีชื่อว่า “THE RAINCOAT KILLER : CHASING A PREDATOR IN KOREA” ซึ่งคดีนี้นับได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้
ยองชอลเกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 1970 ที่เมืองโกชาง จังหวัดช็อลลาเหนือ ครอบครัวของเขามีฐานะยากจน ซึ่งเป็นเหตุให้เขาโดนกลั่นแกล้งที่โรงเรียนบ่อยครั้ง จนทำให้เขาเริ่มเกลียดคนรวย
ก่อนยองชอลจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เขาเคยมีข้อหาติดตัวอยู่หลายคดี อย่างในปี 1988 เขาถูกจับในข้อหาลักขโมย ถูกจับในข้อหาลักขโมยอีกครั้งในปี 1991 และ ปี 1993 ต่อมาในปี 1995 เขาถูกจับในข้อหาขายภาพเปลือยของเด็ก และอีกครั้งที่เขาถูกจับในข้อหาลักขโมยและครอบครองแบงก์ปลอม โดยถูกจำคุกไป 2 ปี ในปี 1998
เมื่อปี 1991 ยองชอลได้แต่งงานกับแฟนสาวและมีลูกด้วยกัน 1 คน ในปี 2000 เขาถูกจับในข้อหาข่มขืนเด็กอายุ 15 โดนโทษจำคุกไป 3 ปี 6 เดือน หลังจากนั้นภรรยาก็ขอหย่ากับยองชอล และเขาถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2003
ในวันที่ 24 กันยายน ปี 2003 ยองชอลได้ก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรก โดยการบุกเข้าไปในบ้านของคนมีฐานะครอบครัวหนึ่ง เจ้าของบ้านชื่อ อี ด็อกซู เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ด็อกซูถูกแทงที่คอด้วยมีด รวมถึงภรรยาของด็อกซูก็ถูกทุบด้วยค้อนหลายครั้ง ทั้งคู่เสียชีวิตทันที ณ ที่เกิดเหตุ ก่อนยองชอลจะหนี เขาได้จัดฉากการฆาตกรรมนี้ให้เหมือนการปล้น แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้ขโมยอะไรไปเลย
ยองชอลก่อเหตุอีกครั้งในวันที่ 9 ตุลาคม โดยการบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งและใช้ค้อนทุบคุณยายซึ่งเป็นแม่ของเจ้าของบ้าน ทันใดนั้นภรรยาเจ้าของบ้านก็เดินลงบันไดมา เห็นแม่สามีนอนจมกองเลือดอยู่ และได้เจอกับยองชอล เธอถูกถีบเข้าที่ท้องทันทีและโดนถามว่ามีใครอยู่ในบ้านอีกไหม เธอตอบว่าชั้นบนมีสามีและลูกของเธออยู่ ยองชอลได้เอาค้อนทุบเธอที่ศีรษะทันทีจนเสียชีวิต หลังจากนั้นยองชอลได้ขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านและใช้ค้อนทุบลูกชายพิการของเจ้าของบ้านจนเสียชีวิต และความจริงแล้วตัวสามีที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ที่บ้านในวันเกิดเหตุ
เหตุต่อมาเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 16 ตุลาคม ภรรยาของเศรษฐีรายหนึ่งชื่อ ยู จอนฮี ถูกข่มขู่ด้วยมีดหลังจากยองชอลได้บุกเข้าไปในบ้าน ยองชอลถามเธอว่ามีใครอยู่ในบ้านอีกไหม เธอตอบว่าไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเธอ ยองชอลลากเธอเข้าไปในห้องน้ำและทุบด้วยค้อน หลังจากนั้นลูกชายของเธอก็เข้ามาพบ แต่เธอได้เสียชีวิตลงไปแล้ว
ยองชอลได้ตัดสินใจหาบ้านเพื่อบุกเข้าไปอีกครั้งในวันที่ 18 พฤศจิกายน แม่บ้านชื่อ แบ จีฮเย ได้ถามยองชอลว่าเขาเป็นใคร เข้ามาในบ้านได้อย่างไร ยองชอลตอบโดยการโชว์มีดที่อยู่ในมือและถามแม่บ้านว่าห้องนอนหลักของเจ้าของบ้านอยู่ไหน ยองชอลได้ขึ้นไปห้องนอนและพบเจ้าของบ้านที่ชื่อ คิม จงซ็อก กำลังนอนอยู่บนเตียง ยองชอลได้ใช้ค้อนทุบเขาทันทีจนเสียชีวิต จีฮเยที่กำลังอุ้มเด็กและพยายามปกป้องเด็กจากยงชอล แต่ยงชอลได้ดึงเด็กมาแล้วนำไปวางบนโซฟาและใช้ผ้าห่มคลุมไว้ หลังจากนั้นยองชอลก็ได้ใช้ค้อนทุบจีฮเยจนเสียชีวิต ยองชอลได้พยายามเปิดตู้เซฟภายในบ้านแต่ทำพลาดทำให้เขาได้แผลที่นิ้ว ยองชอลจึงตัดสินใจจุดไฟเผาบ้านเพื่อปกปิดหลักฐานทาง DNA และโชคดีที่เด็กคนนั้นถูกช่วยเหลือเอาไว้ได้
ในวันที่ 11 ธันวาคม ปี 2003 ยองชอลได้เริ่มมีการคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ต่อมาผู้หญิงคนนี้รู้ความจริงที่เขาเคยฆ่าคนมา เลยบอกเลิกยองชอลไป ทำให้ยองชอลโกรธมากและเป็นเหตุให้ยองชอลอยากก่อเหตุอีกครั้ง
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2004 ยองชอลได้ฆ่า ชอง ยองแด พ่อค้าขายอาหารริมถนน และจุดไฟเผาไปพร้อมกับรถตู้ของยองแด
ในวันที่ 16 มีนาคม ปี 2004 ยองชอลก่อเหตุโดยการบีบคอ ควอน จีฮเย จนเสียชีวิตและแยกชิ้นส่วนศพ แล้วนำไปทิ้งแถวมหาวิทยาลัยโซกัง
ยองชอลได้ฆ่า อัน แจซอน พ่อค้าขายอาหารริมถนนในวันที่ 14 เมษายน ปี 2004 เหตุเพราะเขาขายยาไวอากร้าปลอมให้ยองชอล
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ยองชอลได้ล่อผู้หญิงรายหนึ่งที่เขาคุยด้วยผ่านแอพพลิเคชันมาที่ห้องพักของเขา เมื่อยองชอลสบโอกาส ก็ได้ใช้ค้อนทุบเข้าไปที่ศีรษะของเธอจนเสียชีวิต ยองชอลได้ตัดแยกชิ้นส่วนของเธอภายในห้องน้ำ และนำไปฝังในเวลาต่อมา ยองชอลได้ทำแบบนี้กับผู้หญิงขายบริการอีก 8 คน
2 วันหลังจากที่ยองชอลได้ก่อเหตุฆาตกรรมเป็นครั้งสุดท้าย เขาถูกล่อจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านการซื้อขายจากสถานบริการ ยองชอลรับสารภาพกับตำรวจว่าก่อเหตุฆาตกรรมจริง และด้วยความหละหลวมของตำรวจ ยองชอลได้หลบหนีออกมาได้แต่เขาก็ถูกจับได้อีกครั้งหลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง
ยองชอลปรากฎตัวครั้งแรกในศาล เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี 2004 เขาได้ขอโทษครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิต และสองสัปดาห์ต่อมายองชอลได้ขึ้นศาลอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้พุ่งเข้าไปหาผู้พิพากษา 3 คนระหว่างฟังคำพิพากษา
ยองชอลควรจะได้ขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม เขาพยายามฆ่าตัวตายในคืนก่อนวันขึ้นศาล แต่ไม่สำเร็จ
ในอีก 3 สัปดาห์ถัดมา ยองชอลได้พุ่งเข้าทำร้ายผู้ชมในศาลที่ได้ด่าเขา ต่อมายองชอลได้ตกลงว่าจะไม่ทำการกระทำแบบนี้ในศาลอีก
ในวันที่ 13 ธันวาคม ยองชอลได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดและโดนโทษประหารชีวิต ในคดีฆาตกรรม 20 ศพ และถูกนำไปคุมขังในเรือนจำกรุงโซลในเวลาต่อมา
ยองชอลเคยเล่าไว้ว่า บางทีเขาก็นำตับของเหยื่อที่เขาได้ทำการชำแหละและแยกชิ้นส่วนมากิน แต่เรื่องนี้ไม่สามารถพิสูจน์ออกมาได้ อีกทั้งเขายังเคยปลอมตัวเป็นตำรวจเพื่อหลอกล่อเหยื่อที่เขาจะฆ่าอีกด้วย เขามักจะสวมใส่เสื้อกันฝนและหมวกเบสบอลขณะก่อเหตุ
ปัจจุบันยองชอลยังคงรอโทษประหารอยู่ในคุก ซึ่งยองชอลเป็นหนึ่งใน 60 คนที่กำลังรอโทษประหาร
Reference :
โฆษณา