ใครรู้สึกผิดหวังกับข่าวใหญ่ในวันนี้ ขอเชิญมานั่งพักใจที่คาเฟ่ญี่ปุ่นด้วยกันค่ะ 🥺
เชื่อว่าหลังจากชมรายการดังจบไป คงจะมีหลายคนที่รู้สึกเหมือนกัน แต่เมื่อคุณแม่เขาต้องการแบบนี้ พวกเราก็คงทำได้เพียงอธิษฐานให้คุณแตงโมมีความสุขที่ได้เจอกับคุณพ่อ และได้กลับสู่อ้อมกอดของพระเจ้านะคะ 😔🙏
เอาล่ะ มานั่งพักใจดื่มอะไรอุ่น ๆ ในร้านสำหรับดื่มเครื่องดื่ม ชา กาแฟ กันดีกว่านะคะ
ในภาษาญี่ปุ่น ร้านแบบนี้จะเรียกกัน 2 แบบคือ ...
1) คิสซะเต็น (喫茶店 / きっさてん) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “คิสสะ” ก็ได้ค่ะ
2) คาเฟ่ (カフェ ออกเสียงว่า คะเฝะ)
ถ้าไปถามคนญี่ปุ่นว่าร้านทั้ง 2 แบบต่างกันยังไง คนญี่ปุ่นหลายคนอาจจะตอบตามความรู้สึกว่า ...
คิสซะเต็น อาจจะเป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค มีพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
ส่วนคาเฟ่ อาจจะเป็นร้านที่ตกแต่งสวยงามตามสมัย บางร้านอาจจะให้ลูกค้าบริการตัวเอง
ก็ไม่ผิดนะคะ จริง ๆ จะเรียกแบบไหนก็ได้ เหมือนร้านกาแฟกับคาเฟ่ในบ้านเรานั่นแหละค่ะ 😅
แต่จริง ๆ แล้ว เขามีกฎการเรียกตามใบอนุญาตประกอบกิจการด้วยค่ะ ☺️
นั่นก็คือ คิสซะเต็นจะใช้ใบประกอบกิจการในชื่อคิสซะเต็นเลย ซึ่งจะขออนุญาตได้ง่ายกว่า
แต่ไม่สามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือทำอาหารที่ต้องใช้ความร้อนในการปรุงขายให้ลูกค้าได้ (ขายได้เฉพาะเครื่องดื่ม ขนม ผลไม้ หรืออาหารว่างแบบเบา ๆ)
ส่วนคาเฟ่นั้น จะใช้ใบประกอบกิจการแบบเดียวกับร้านอาหารเลย จึงสามารถขายหรือเสิร์ฟอาหารได้ทุกอย่างเหมือนร้านอาหารค่ะ
* ก็เป็นเพียงแนวทางในแง่ของใบอนุญาตเฉย ๆ นะคะ ในร้านจริง ๆ บางร้านที่เขียนป้ายว่าเป็นคาเฟ่ ก็อาจจะไม่ขายแอลกอฮอล์ก็ได้ 😉
ที่มา
วันนี้พาไปชมบรรยากาศในร้านคาเฟ่แบบที่มีหลาย ๆ สาขาในญี่ปุ่นด้วยกันนะคะ ☺️
แล้วพบกันใหม่ค่ะ 🥰🙏