4 มี.ค. 2022 เวลา 13:58 • ความคิดเห็น
ผมจะตอบตามความเป็นจริง
ในสิ่งที่เป็นจริง แล้วไม่มีใครโต้แย้งได้
เงินคือสัญลักษณ์และตัวแทน
เปรียบเป็นสมมุติ = คุณค่าสิ่งนั้นๆ
ซึ่งจะใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน
ตามเงื่อนไขที่คนทั้งโลกเข้าใจตรงกันว่า
สิ่งนี้มีค่าเท่ากับเงินเท่าไหร่
และสิ่งนั้นก็เป็นสมมติที่มนุษย์ตั้งค่าขึ้นมา
และเงินยังเป็นสิ่งที่สามารถซื้อโอกาส
และเข้าถึงทรัพยากร
หากใครมีเงินมาก ก็เปรียบเสมือนมีจุดสตาร์ท
ที่เร็วและไปได้ไกลกว่าคนอื่น
หากใครเข้าถึงทรัพยากรได้มาก
ก็แสดงว่ามีโอกาสมาก
เด็กหัวดีอาจได้ร่ำเรียนโรงเรียนนานาชาติ
ได้ไปเรียนต่อเมืองนอก เก่งในเรื่องภาษา
รู้หลักการการเทรดหุ้น forex
หรือมีหุ้นในบริษัทต่างๆที่จะทำให้ก้าวกระโดดและมีรายได้อย่างมหาศาล
และคนที่ประสบความสําเร็จในชีวิตส่วนใหญ่
ยังไม่เข้าใจในสิ่งนี้
และมักจะพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าฉันเก่ง
ฉันมีความสามารถ ฉันพูดได้หลายภาษา
ฉันเป็นเจ้าของกิจการ ฉันถือหุ้นหลายบริษัท
ฉันเหนือกว่าทุกคน
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เลย
คนจนหรือคนที่ด้อยโอกาส อาจจะเก่ง
เเละหัวดีก็ได้ เพียงแต่เขาเป็นผู้ด้อยโอกาสขาดแคลนทรัพยากรและเงิน
เปรียบเสมือนจุดสตาร์ทที่ต่ำกว่าคนรวย
1
คนไฮโซและคนมีอำนาจร่ำรวย มีconnectionดี
มักจะชอบเบะปาก ดูถูกเหยียดหยาม
ทั้งที่ไม่เข้าใจความเป็นจริงว่าเราต่างกัน
เหมือนจุดสตาร์ทใกล้ และบางคนจุดสตาร์ทไกล
1
หากเราจะวัดคนว่าใครเก่งหรือไม่เก่ง
เราก็ควรยกระดับให้มันเท่าเทียม
ยกระดับให้คนจนได้เรียนโรงเรียนนานาชาติ
พูดได้หลายภาษาและเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
หุ้นธุรกิจหรือแม้แต่การเทรด forex
เราจะได้รู้ว่าใครเก่งจริงหรือไม่จริง
1
และคนเรา ก็ไม่ควรดูถูกคนเหมือนกัน
เพราะเรามีทรัพยากร ต่างกัน
ต่างอำนาจ ต่างเส้นสาย เข้าถึงได้ไม่เหมือนกัน
บางคนหนักแน่นในความดีมีคุณธรรม
แต่ชีวิตล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะไม่มี connection เพราะไม่ขี้โกง ไม่โกหก
พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ ขาดแคลนความรู้
ขาดโอกาส ไม่ว่าจะทางภาษา และทั้งทักษะ
1
รัฐบาลควรจะลบเงื่อนไข ลบเส้นสายอำนาจมืด
ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อให้คนเท่าเทียมกัน
รวยจนเราต่างกัน อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
แต่เราควรมีจุดเท่าเทียมในความเป็นคน
ถ้าเร่งกระบวนการศึกษาและความเข้าใจตรงนี้
ประเทศเรามาแน่ ประเทศเราเจริญแน่
โฆษณา