การที่คนเราเลือกเดินออกจากประเทศของตัวเอง คงต้องมีเหตุผลยิ่งใหญ่ในการตัดสินใจเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงครามระหว่างประเทศ ความไม่สงบในประเทศ หรือแม้แต่การลี้ภัยทางการเมือง...
หนังสือ "REVOLT โลกาปฏิวัติ" ได้เล่าถึง "โจเอล แชสเตล" ชายที่เคยมีชีวิตอยู่ในความกลัว แต่ในวันนี้เขาได้กำจัดมันพ้นไปจากใจแล้ว เหลือไว้เพียงถ้อยคำปริศนาสามคำ "ฮา-นาซิม ยิมาห์ เชมัม" แปลว่า #พวกนาซี พวกมันพรากทุกสิ่ง ภรรยาที่รักและลูกชายซึ่งถูกนาซีสังหาร สมาชิกครอบครัวคนแล้วคนเล่าหายตัวไป เพราะถูกส่งไปยังค่ายกักกัน วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตถูกทำลายจนสิ้นซาก
นอกจากนี้มันยังเป็นการสาปแช่งโชคชะตาที่ทำให้เขาต้องมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากที่ไกล ๆ โดยไม่มีอำนาจเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือได้เลย เขาจะพึมพำว่า "ฮา-นาซิม ยิมาห์ เชมัม" แล้วก็เงียบไป จากนั้นบทสนทนาก็จะสิ้นสุดลงก่อนที่มันจะเริ่มขึ้น
ยากจะจินตนาการได้ว่า "โจเอล แชสเตล" ต้องผ่านอะไรบ้าง ทั้งวิตกจนแทบบ้า กลัวอันตรายจะเกิดกับชีวิตภรรยาและลูกชาย รวมถึงพ่อแม่และครอบครัวของตัวเอง เอกสารของเขาบอกให้เรารู้ว่า ขณะที่ติดอยู่ในปาเลสไตน์ ได้เที่ยวเคาะประตูสถานกงสุล และใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่เพียงน้อยนิดจ้างนักร่างจดหมายมืออาชีพสำหรับเขียนคำร้องทุกข์และคำอ้างสิทธิ์
เขายอมจ่ายเจ้าพนักงานให้ช่วยแปล และรับรองความถูกต้องของสูติบัตรและใบสมรส เข้าร่วมพรรคการเมืองด้วยหวังว่าเจ้าหน้าที่ในพรรคจะช่วยได้ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้จริง ๆ...
จากเอกสารฉบับอื่น ๆ สันนิษฐานว่า "โจเอล แชสเตล" อาจพยายามกลับเข้าไปในยุโรป ซึ่งกำลังพินาศยับเยินอย่างหนักจากสงคราม แต่ดูเหมือนเขาก็ยังอยากกลับไปเพื่ออยู่กับครอบครัว ทว่าไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี...
"โจเอล แชสเตล" คือตัวอย่างชายผู้สูญเสียครอบครัวไปในกับดักแห่งพรมแดนและความชั่วช้าแห่งใจคน โดนพรากจากความเป็นพลเมืองไม่มีประเทศจะอยู่ ได้แต่เคาะประตูประเทศอื่น ร้องขอความเมตตาอย่างคนไร้พลังอำนาจ ไม่เพียงช่วยภรรยาและลูกชายไม่ได้ ยังไม่สามารถตายไปกับพวกเขาได้ด้วยซ้ำ !
พบกับเรื่องราวจากอดีตสู่โลกาภิวัตน์อีกมากมายได้ที่
"REVOLT โลกาปฏิวัตน์"
นาดาฟ เอยัล เขียน
เขมลักขณ์ ดีประวัติ แปล
สำนักพิมพ์ Sophia
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
