・ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน ความจริงจะคงอยู่ๆ ตรงนั้น เหมือนกับความลับไม่มีในโลก ถึงวันนี้มันอาจยังเป็นความลับ แต่ก็ไม่แน่พรุ่งนี้มันก็อาจจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปก็ได้
เมื่อเวลาเปลี่ยนไปคุณก็จะเห็นอะไรๆ ในชีวิตชัดเจนขึ้นไปตามลำดับ เมื่อคุณพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ มากขึ้น ความคิด มุมมอง หรือทัศนคติของคุณก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่รอบคอบ คิดรอบด้านมากขึ้น
ยิ่งคุณเจอปัญหา ยิ่งเจออุปสรรค ทุกสิ่งก็จะหล่อหลอมความเป็นตัวคุณให้ดีขึ้น คุณจะเก่งขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นเดียวกับปัญหาที่จะเจอมากขึ้นไปเรื่อยๆ
เก่งในตำราก็ยังไม่เก่งเท่าสู้ลงมือทำจริงๆ ประสบการณ์จะสอนให้คุณสู้คน ยอมรับความเป็นจริง ขอโทษเป็น ร้องไห้เสร็จก็ปาดน้ำตามายืนสู้ต่อไปไหวได้
ต่อให้คนร้อยคนมาเชียร์คุณข้างขอบเวทีชีวิต ถ้าคุณยืนเปิดตำรา ยืนคอยฟังคนอื่นชี้ทาง คุณก็จะไม่มีวันคิดเอง มันไม่สามารถแก้ปัญหาไม่ทันเวลาได้หรอกนะ
คุณต้องศึกษาและแก้ไขทุกสิ่งในชีวิตเอง ต้องปรับตัวอะไรใดๆ ได้เอง นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะทุกสิ่งคือ การเรียนรู้ ทุกอย่างต้องนำมาปรับใช้ให้ได้เป็นรายบุคคลไป เก่งคุณกับเก่งเขา มันถึงต่างกันเสมอไงเล่า
เมื่อนำทุกอย่างมามัดรวมกันและตกผลึกความคิดออกมา นี่ละ 5 ข้อที่คุณรู้ว่ามันคือ ความจริงที่สุดแล้ว มาคะ จะเล่าให้ฟัง
1. คนที่ “ จริงใจ ”ที่สุด จะคบเพื่อนน้อยที่สุด
ความที่เมื่อสมัยยังอายุน้อย ความสุขของคนวัยนั้นคือ ความสนุกสนานสรวลเสเฮฮากับเพื่อนฝูง มีกลุ่มเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนทำกิจกรรม เพื่อนค่ายอาสา เพื่อนติวสอบ ดูจะมีเพื่อนเยอะแยะไปหมด เวลาว่างที่จะได้อยู่คนเดียวนี่คงไม่มีแน่นอน ถ้ามีคนคงมองว่าคุณแปลกแยกกว่าคนอื่นในวัยแน่นอน
แต่เมื่ออายุขยับไปอีกสิบ ยี่สิบปี ความคิดของคุณจะเปลี่ยนไป เหมือนมันเกิดการเรียนรู้มามาก เจ็บใจเพราะคน เพราะเพื่อนมาก็ไม่น้อย คำว่า "คน" นี่ บางทีก็นึกอยากขอเว้นระยะห่างบ้างบางเวลา มากคนก็มากความอะไรแบบนั้นน่าจะพูดได้
ยิ่งนับวันคุณจะเหลือเพื่อนน้อยลง นับเป็นหลักหน่วยน่าจะเหมาะ หลักสิบนี่คงไม่น่าใช่อีกต่อไป คนจริงใจมันมีน้อย สมองของคุณเริ่มกลั่นกรองคนได้ดีขึ้น
เพื่อนบางคนนิสัยดีก็จริงแต่ชอบพากันเที่ยวเล่นสนุกสนาน ไม่ทำงานทำการ คุณก็คงเริ่มห่างๆจากคนแบบนี้
คนบางคนคุยไม่เก่งแต่พูดตรง จริงใจ หลังๆ คุณจะปลื้มเพื่อนแบบนี้มากขึ้น งดดราม่าในชีวิตให้ได้มากที่สุด นี่ถือว่าวิเศษสุดเมื่อคุณอายุมากขึ้นถูกต้องไหมละ
2. คนที่ “ ฉลาด ”ที่สุด จะอวดฉลาดน้อยที่สุด
หลายครั้งที่คุณคงอดอมยิ้มไม่ได้ อมยิ้มให้กับคนที่ไม่รู้ว่า ตัวเองไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ถ้าภาษาไทยบ้านๆ เรานี่ก็คือ พวกอวดฉลาด
สมัยนี้คนรู้น้อยแต่พูดเยอะมีมาก ไม่มีใครบังคับให้คุณต้องพูดนะ ถ้าคุณไม่มั่นใจในสิ่งที่รู้มา ก็อย่าเพิ่งพูดมันออกไป มันจะส่งผลเสียตามมาภายหลังได้
สิ่งที่เราเอ่ยออกไป เราคือ คนที่ได้รับผลลัพธ์จากมันคนเดียว เพราะมันออกมาจากปากของเรา อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องได้อาย ต้องได้ปล่อยไก่ต่อหน้าคนอื่นโดยไม่ควร
ภาพลักษณ์มันเป็นสิ่งที่เราควรดูแลให้มาก รู้น้อยก็สงบปากสงบใจเอาไว้ก่อน พูดไปลอยๆ ไม่มีข้อมูลอ้างอิง แบบรู้ไม่จริง จะเสียมากกว่าได้อย่างแน่นอน ระวังไว้หน่อยก็น่าจะดี
3. คนที่ “ เก่ง ”ที่สุด จะหวงวิชาน้อยที่สุด
คนเก่งหลายๆ คนคือ คนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง เขาชอบฝึกฝนวิชาหาความรู้ แบ่งปันความรู้ที่มีให้ผู้อื่นเหมือนสอนตัวเองไปในตัว ทวนความรู้ความเก่งของตัวเองไปด้วย
เขามักไม่หวงความรู้ความสามารถ เป็นคนที่มีน้ำใจต่อผู้อื่น เป็นคนที่เป็นน่าคบหา เป็นคนที่น่านับถือในน้ำใจ เขามักคิดว่า ความรู้ที่ดีคือ ความรู้ที่ได้ทำให้ผู้อื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
ยิ่งเขาสอนใคร แล้วคนๆ นั้นเก่งกว่าเขา เขาจะยิ่งภูมิใจ ที่ได้ช่วยคนแถมตัวเองยังเก่งสอนให้เขาเก่งได้ และยังพัฒนาได้ดีกว่าตนเอง เป็นความภูมิอยู่ลึกๆ ในใจ
อย่าลืมว่า ทางใครทางมัน ทางมาแห่งทรัพย์ของแต่ละคนมันมีมาต่างกัน คนดี ยังไงคุณก็จะได้ผลดี
ก็ในเมื่อคุณสร้างเหตุดีมา คุณก็ย่อมได้รับผลดีตามมาเช่นกัน คิดด้านดีเอาไว้ ใจจะได้สบายไม่ทุกข์ร้อน รุ่มร้อนในใจ
4. คนที่ “ ใจกว้าง ”ที่สุด จะทำดีเอาหน้าน้อยที่สุด
สังคมทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า คนมีแต่ความเร่งร้อน เร่งรีบ รีบมันไปเสียทุกอย่างเวลาที่จะคิด วิเคราะห์ให้รอบคอยมันมีน้อย คอยแต่จะคิดว่า ถ้าช้าจะไม่ทันกิน เอาซะแบบนั้น
ผู้คนจึงเร่งเอาหน้า เอาดีเข้าตัว เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ทั้งที่จริงแล้วยิ่งคุณนำเสนอตัวเองมากเท่าไหร่ มันก็เท่านั้น
เพราะถ้าผลงานคุณไม่ดีจริง ไม่เข้าตากรรมการด้วยคุณภาพของงาน ต่อให้เอาหน้ามากขนาดไหน ความจริงมันก็จะเปิดเผยเอง ความลับมันไม่มีในโลก เก่งจริงกับเก่งกระโหลกกะลามันดูกันไม่ยาก
หัวหน้างาน ผู้ใหญ่ เจ้าของบริษัท หัวหน้าภาคส่วน ถ้าเขาฉลาดน้อยกว่าลูกน้องอย่างคุณ อีกไม่นานงานเขาก็คงปลิวเหมือนกัน
คนที่เป็นระดับหัวหน้าแล้วนั้น เขาต้องเก่งกว่าลูกน้องแน่นอน งานไม่ดี งานสุกเอาเผากิน ทีสองที ก็คงพอถูไถ บ่อยไป ก็ระวังจะไม่ได้ทำงานต่อเอาได้นะ ระวังไว้หน่อยละกัน
5. คนที่ “ มีความสุข ”ที่สุด จะใช้ชีวิตยุ่งยากน้อยที่สุด
คนที่มีความทุกข์ สังเกตุดูดีๆ พวกเขาคือ คนที่ไม่เคยพอ เขาจะอยากมีอยากได้นั่นนี่โน่นตลอดเวลา เหมือนคนกระหายน้ำที่ไม่มีวันหายกระหาย ทั้งที่ดื่มกินอยู่ตลอดเวลา
รู้ไหม เพราะอะไร ก็เพราะใจของเขาที่ไม่เคยหยุด และไม่เคยทำความเข้าใจว่า สุขที่แท้จริงคืออะไร
และจริงๆ อะไรที่จะทำให้เขาเป็นสุข ลาภยศ สรรเสริญเยินยอ คือ สิ่งไม่จีรัง มันมีวันดับ แตกสลายลงได้
สิ่งที่ทำให้คุณสุขได้ มีแค่สิ่งง่ายๆ คือ อยู่กับปัจจุบัน ใช้ชีวิตให้วุ่นวายยุ่งยากน้อยที่สุด อยู่กับวันนี้ ตอนนี้
รู้แค่ว่าหายใจเข้า หายใจออกเป็นสิ่งที่บอกว่าเรายังมีชีวิต อยู่ตรงที่ๆ เป็นสุข ไม่ยึดติด มีแต่สิ่งนี้ที่จะทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง
และนี้ละ ความจริงที่จะทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุข ทำอะไรก็สบายใจ ไม่รุ่มร้อน ไม้ต้องกังวลกับชีวิตอะไรให้มากมาย ความสุขกับความจริงมันมาคู่กัน และก็ง่ายกว่าที่คุณคิดค่ะ
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
🔴 ฟังแบบเสียงอ่านบทความนี้
ติดตามเราตามช่องทางอื่นๆ
• Tiktok
• Youtube (เสียงอ่านบทความ) https://youtube.com/channel/UCBddu-n2Z6GQg3N66F2FnSg
• Youtube (เสียงธรรมชาติฟังผ่อนคลาย)
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นุสนธิ์บุคส์ -
- 40
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
