8 มี.ค. 2022 เวลา 02:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⭐ สรุป Oppday BBIK Q4/2021 ⭐ : รายได้ Q4 106 ลบ. เติบโต 49% QoQ, 37% YoY โดยหลักๆ ก็เกิดจากในส่วนงาน Digital Excellence and Delivery และทำกำไรได้ 26 ลบ. เติบโต 87%
Published: 01 MAR 2022
สวัสดีครับวันนี้พบกับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือใช้ตัวย่อในตลาดว่า BBIK ซึ่งประกอบธุรกิจหลักเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยผลการดำเนินงานในปี 2021 สามารถสร้างรายได้ 304 ลบ. เติบโต 51% และทำกำไรได้ 67 ลบ. เพิ่มขึ่น 50%
🚩1. ลักษณะธุรกิจ
เป็นบริษัทไทยบริษัทเดียว (ณ ตอนนี้) ที่เป็นที่ปรึกษาเรื่อง Digital Transformation แบบครบวงจร โดยมีบริษัทลูก Ingenio และ addend ที่ BBIK ถือหุ้น 99% และ ตั้งบริษัทร่วมทุน Orbit digital กับทาง OR โดย BBIK ถือหุ้น 60% โดยมีคู่แข่งหลักเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก และธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
1. ส่วนงานให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการหรือ Management Consulting โดยให้บริการในเรื่องของการวิเคราะห์ตัวธุรกิจทั้งทั้งตัวเอง คู่แข่ง และตลาดเพื่อหาช่องว่างในการวางกลยุทธ์
2. ส่วนงาน Digital Excellent and Delivery โดยเน้นการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี การสร้าง Product ตลอดไปจนถึงเรื่องของการนำ best-practice ต่างๆ ในโลกของเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้กับระบบเดิมขององค์กรขนาดใหญ่
3. ส่วนงาน Bigdata and Advanced Analytics โดยเน้นเรื่องของ AI ซึ่งในทีมจะประกอบด้วย data scientist และ data engineer เข้าไปช่วยตั้้งแต่เรื่องของการวางระบบ big data ไปจนถึงการ build ตัว AI machine learning model เพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
4. ส่วนงาน Strategic PMO ซึ่งเป็นการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง
◼️อุตสาหกรรม Digital Transformation◼️
▪️ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงมาก โดยคาดว่าเติบโตเฉลี่ย 16.5% ไปจนถึงปี 2025 ค่าโดยมีมูลค่าตลาดทั้งโลก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
▪️ BBIK อยู่ในกลุ่มที่เน้นเรื่องของ digital ที่ทำทั้งในด้าน strategy และ implementation และคู่แข่งจะเป็น international firms เช่น กลุ่ม BIG 4 แต่ทาง BBIK มีราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง 20 - 30%
◼️จำนวนพนักงาน◼️
▪️ BBIK 160 คน + Orbit digital 50 คน
🚩2. ภาพรวมและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
◼️ภาพรวมปี 2021◼️
✔ รายได้ 304 ลบ. เติบโต 51% โดยสัดส่วนรายได้กว่ 69% มาจากส่วนงาน Digital Excellence and Delivery ซึ่งเติบโตมากกว่า 2 เท่าเทียบปี 2020 จากการพัฒนาระบบแอปพลิเคชันต่างๆ ให้กับลูกค้า และในส่วนงาน Bigdata and Advanced Analytics ก็เติบโตมากกว่า 2 เท่าเช่นเดียวกันโดยมีส่วนแบ่งรายได้ที่ 9% ซึ่งมาจากเรื่อง data และ AI โดยทั้ง 2 ส่วนงานมาจากความต้องการ Digital Transformation ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ในส่วนงาน Management Consulting ยังสามารถรักษารายได้ในระดับเดิมที่ 61 ลบ. คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 20%
✔ รายได้หลักมาจากไทย 86% ที่เหลือมาจากในส่วนของต่างประเทศเป็นครั้งแรก 14% โดยบริษัทสามารถทำ GPM ได้ที่ 61% (-3 ppt YoY) จากการส่งบุคลากรไปทำงานใน Orbit Digital ซึ่งต้องใช้อัตรค่าบริการที่อยู่ในสัญญาร่วมทุนโดยถ้าตัดออก GPM จะกลับมาอยู่ที่ 64% และบริษัททำกำไรได้ 67 ลบ. เติบโต 50% คิดเป็น NPM 22%
✔ สิ้นปีมี Backlog 385 ลบ. และในส่วน 245 ล้านจะรับรู้ได้ภายในปี 2022 ซึ่งยังไม่รวม Orbit digital ที่มีราวๆอีก 150 ลบ.
◼️ภาพรวมปี Q4/2021◼️
✔ รายได้ไตรมาส4 106 ลบ. เติบโต 49% QoQ, 37% YoY โดยหลักๆ ก็เกิดจากในส่วนของงาน Digital Excellence and Delivery ที่มีปัจจัยกระตุ้นความต้องการทำ Digital Transformation ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจสถาบันการเงิน ประกันภัย เทคโนโลยี และในส่วนของกำไรอยู่ที่ 26 ลบ. เติบโต 87%
🚩3. แผนงานในอนาคตและการเติบโต
✔ ขยายไปตลาดต่างประเทศได้ โดยมี การจัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Bluebik Global ซึ่งมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นชาวอังกฤษและชาวอินเดียเข้ามาช่วย set up บริษัท โดยมีเป้าหมายที่ตลาด Southeast Asia เป็นหลัก และจะมีเข้าไปทำตลาดในยุโรปและอเมริกาเหนือควบคู่ไปด้วย
✔ ตั้งบริษัท Bluebik Technology Center (India) ที่อินเดีย ซึ่งจะช่วยในการหา experts ในด้านของเทคโนโลยี
✔ สร้างตัว BBIK Academy เพื่อเทรนบุคลากรให้มีศักยภาพในการทำงาน
✔ M&A บริษัท GMVPI ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ให้บริการเรื่องของระบบ SAP ซึ่งเป็นระบบ ERP อันดับ 1 ของโลก ซึ่งบริษัทนี้เชี่ยวชาญในเรื่องของการพัฒนาปรับรุงระบบ ERP และการสร้าง innovation ที่ไปเชื่อมต่อกับระบบ ERP ต่างๆ ทำให้ทาง BBIK สามารถขยายบริการใหม่ขึ้นมาได้ และเชื่อว่าบริการของเรื่อง SAP มี stickiness ค่อนข้างสูง ทำให้ลูกค้าไม่เปลี่ยนระบบไปใช้ตัวอื่น
✔ มีการทำในเรื่องของ BOI คาดว่า 2023 ค่าใช้จ่ายด้านภาษีจะเหลือ 5%
🚩 4. ข้อมูลอื่นๆ จาก Section Q&A
◼️การเติบโต◼️
✔ รักษาการเติบโตให้ได้ 50% ในปี 2022 โดยเห็นความต้องการยังสูงต่อเนื่องมีทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ
◼️งบลงทุนและ M&A◼️
✔ วางงบลงทุนไว้อีกประมาณ 50 – 100 ล้าน และเน้นที่การ M&A บริษัทขนาดเล็ก และมีกำลังเจรจาอยู่ 1 บริษัทคาดว่าจะสำเร็จภายใน Q2 โดยตั้งเป้าหมายไว้ปีละ 1 ดีล ไม่ M&A ก็ JV
◼️อื่นๆ◼️
✔ Tunover Rate ในบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่าอุตสาหกรรม
✔ กำไรจาก Orbit digital จะรับรู้โดยเป็นส่วนแบ่งกำไร
✔ การทำตลาดต่างประเทศมี challenge ในเรื่องของ nature และ culture ที่ต่างจากคนไทย ทำให้ทางบริษัทต้องปรับตัวมากขึ้น
💡 Key Takeaways
▪️ ถือว่าเป็นบริษัทที่เติบโตสูงและตั้งเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ค่อนข้าง Aggressive เลยทีเดี่ยวครับ แต่แอดก็เชื่อว่าฐานรานรายได้ขนาดนี้และความสามารถยังที่จะ Scale การเติบโตระดับนี้ต่อไปได้ ซึ่งก้ต้องบอกว่ายิ่งฐานรายได้โตอัตราการเติบโตอาจจะลดลงตามนะครับ
▪️ ส่วนที่สองแอดอยากให้เน้นเรื่องของจำนวนพนักงาน เพราะบริษัทใช้มันสมองของพนักงานในการหารายได้เข้าบริษัท ถ้าบริษัทมีการรับคนอย่างต่อเนื่องแสดงว่ากำลังขยายงานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และจำนวนคนที่รับเข้ามาเพิ่มคุ้มกับรายได้ที่เข้ามาหรือไม่ แอดก็ลองแนะนำให้ใช้รายได้ต่อหัวเป็นตัว guide ความสามารถในการสร้างรายได้คร่าวๆของบริษัทนะครับ
▪️ บริษัทมีพัฒนาการที่ไวมากๆ โดยเริ่มทำตลาดต่างประเทศคู่กับตลาดไทยโดยที่ไม่ต้องรอให้ตลาดไทยอิ่มตัว ถือว่าเน้นการเติบโตแบบเชิงรุกมากๆครับ นอกจากนี้ บริษัทสามารถ add value ได้ในส่วนของ data และ AI ได้ดี และก็ต้องติดตามดูกันครับว่าบริษัทคนไทยบริษัทนี้จะเติบโตไปถึงระดับไหน
▪️ สุดท้ายก็ต้องติดตามเรื่อง Backlog ครับว่าจะมีงานเข้ามาเพิ่มมูลค่าเท่าไหร่และคาดว่าจะรับรู้รายได้เมื่อไหร่
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบการสรุปของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
สามารถฟัง Oppday ตัวเต็มได้ที่ ▶️ https://www.set.or.th/streaming/vdo/4961?title=Opp%20Day
#OpportunityDay #OppdayQ42021 #BBIK
โฆษณา