8 มี.ค. 2022 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เงินสดสภาพคล่อง ควรเก็บไว้ที่ไหน?
เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเข้าใจกันแล้วว่า ทำไมเราถึงควรมีเงินสดเผื่อสภาพคล่องไว้เสมอ ไม่ว่าจะเตรียมสภาพคล่องไว้เพื่อจับจ่ายใช้สอยในยามฉุกเฉิน หรือในกรณีอื่น ๆ ก็ตาม
คำถามที่หลายคนสงสัยต่อมา คือ แล้วเราควรเก็บเงินสดสภาพคล่องไว้ที่ไหนดี ที่จะช่วยทำให้เงินเรามีโอกาสเติบโตได้มากที่สุด โดยไม่เสียสภาพคล่อง แถมก็ยังรักษาเงินต้นได้อย่างครบถ้วน โดยในบทความนี้จะไม่แนะนำการเก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟที่บ้าน เพราะการเก็บด้วยวิธีดังกล่าวนี้ นอกจากเงินจะไม่เติบโตโดยไม่ได้รับดอกเบี้ยแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะสูญหายได้อีกด้วย
แหล่งเก็บเงินสดสภาพคล่อง ต้องเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายและเงินต้นต้องปลอดภัย
เนื่องจากเป้าหมายของการเก็บเงินสดสภาพคล่อง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราจะต้องสามารถเปลี่ยนเป็น “เงินสด” ได้ทันที ถอนวันนี้ อย่างช้าที่สุด จะต้องได้รับเงินภายในวันพรุ่งนี้เพื่อให้เราสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยได้ทันที เพราะเวลาที่เราต้องการใช้เงินด่วน นั่นหมายถึงด่วนจริง ๆ หากต้องใช้ระยะเวลานานเพื่อรอการเบิกถอนในเวลา 1 สัปดาห์หรือแม้กระทั่ง 1 เดือน อาจจะนานเกินไป และไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้เงินได้อย่างทันท่วงที
สิ่งที่สำคัญอย่างที่สอง คือ เมื่อขายสินทรัพย์เหล่านั้นไปแล้ว การแปลงสภาพกลับมาเป็นเงินสดจะต้องไม่ควรเสียมูลค่า เพราะคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ หากการแปลงสภาพครั้งหนึ่ง จะต้องสูญเสียมูลค่าของสินทรัพย์ไป 10-30% หากเป็นเช่นนั้น จะหมายถึงการขาดทุน และอาจทำให้เงินที่ต้องการใช้ไม่เพียงพอตามแผนที่วางไว้ด้วยเช่นกัน
2
โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่แนะนำสำหรับการเก็บเงินสดสภาพคล่อง มีดังนี้
1. เงินฝากออมทรัพย์
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทนี้ ถือเป็นสิ่งที่ง่ายและใกล้ตัวทุกคน เพราะมีบริการถอนเงินที่สะดวกและคล่องตัวที่สุด รวมถึงมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก แต่ก็แลกมากับผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ
2. เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ
เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ เป็นอีกหนึ่งประเภทของบัญชีออมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นเรื่องสภาพคล่องที่สามารถเบิกถอนได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษนี้ให้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมากกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป เพียงเราแค่ปฏิบัติตามเงื่อนไขบางอย่างในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นการฝากมากกว่าถอน หรือทำธุรกรรมผ่านบัญชีตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด
3. กองทุนตลาดเงิน
กองทุนตลาดเงินเป็นการลงทุนที่ใกล้เคียงเงินฝากมากที่สุด เพราะเน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า 1 ปี ทำให้มีความเสี่ยงที่ต่ำมาก แต่ให้ผลตอบแทนคาดหวังที่มากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ใช้เวลาแปลงกลับเป็นเงินสดประมาณ 1 วันทำการ
4. กองทุนตราสารหนี้
การลงทุนที่มีการกระจายไปในตราสารหนี้ต่าง ๆ ทำให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยใช้เวลาในการขายคืนกลับมาเป็นเงินสดประมาณ 1-3 วันทำการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละกองทุน
เงินแต่ละก้อนมีจุดประสงค์หรือตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินได้แตกต่างกัน การเก็บเงินสดเพื่อสภาพคล่องนั้นมีโจทย์หลัก คือ ต้องรักษาเงินต้นและแปลงกลับเป็นเงินสดได้เร็ว ซึ่งแน่นอนว่าเราจำเป็นต้องแลกมากับการสูญเสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามีสภาพคล่องในระดับที่เหมาะสมแล้ว จึงค่อยนำเงินส่วนที่เหลือไปวางแผนการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนคาดหวังที่เพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
หมายเหตุ – สำหรับผลิตภัณฑ์ทางด้านเงินฝากที่แนะนำให้ใช้สำหรับการเก็บเงินสดสภาพคล่อง ซึ่งอยู่ในประเภทเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ คือ
1. เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล โปร-ฟิต เป็นบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ แบบไม่มีสมุดคู่ฝาก (No-Passbook) ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรก ถึง 5 ล้านบาท ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี สามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
เปิดบัญชีที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ผ่านช่องทาง LH Bank M Choice Mobile Banking Application
2. เงินฝากไม่ประจำ เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงเทียบเท่าเงินฝากประจำ และรองรับเงินออมก้อนโตสูงถึง 50 ล้านบาท สามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และสามารถใช้บริการร่วมกับบัตร Debit และบริการ แอปพลิเคชัน LH Bank M Choice
ด้วยจุดเด่นของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ ที่สามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยังให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ปกติทั่วไป จึงเหมาะสำหรับการเลือกให้เป็นบัญชีเงินฝากที่ใช้เก็บเงินสดสภาพคล่องของเรา
โฆษณา