15 มี.ค. 2022 เวลา 03:29 • สัตว์เลี้ยง
โรคพิษสุนัขบ้า โรคอันตรายที่แมวก็เป็นได้?
เมื่อเข้าสู่หน้าร้อน หลายๆ คนคงนึกถึงโรคอันตรายที่ระบาดหนักอยู่แทบจะทุกปีอย่างโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ แม้จะได้ชื่อว่าเกี่ยวกับสุนัข แต่เจ้าของน้องแมวก็อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะโรคพิษสุนัขบ้านี้สามารถติดต่อมาสู่น้องแมวได้
และที่สำคัญคือสามารถติดต่อมาสู่คน รวมทั้งยังติดต่อไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้องแมว หรือคนที่ติดโรคนี้ เชื้อไวรัสจะก่อให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ มารู้จักโรคพิษสุนัขบ้าในแมวและป้องกันอย่างถูกวิธีไปพร้อมๆ กัน ให้ครอบครัวอุ่นใจ ห่างไกลจากภัยโรคพิษสุนัขบ้ากันดีกว่า
โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อได้อย่างไร?
เชื้อไวรัส “โรคพิษสุนัขบ้า” สามารถติดต่อผ่านทางน้ำลายสัตว์ป่วย เช่น การกัด ข่วน หรือเลียบริเวณบาดแผล ทำให้เชื้อไวรัสในน้ำลายจะเข้าสู่บาดแผล โรคนี้สามารถติดต่อได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคน สุนัข หรือแมว ก็สามารถเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการติดเชื้อในสัตว์ป่า เช่น ค้างคาว ลิง สุนัขจิ้งจอก ได้ด้วยเช่นกัน
1
สัญญาณอันตรายต้องสังเกต
หากติดเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าในแมว เชื้อไวรัสจะเข้าทำลายระบบประสาท โดยเมื่อแมวที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้าแสดงอาการออกมาแล้วก็มักจะทำให้สัตว์ที่ป่วยเสียชีวิตภายใน 10 วัน อาการของโรคแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ในระยะเริ่มต้นจะดูคล้ายอาการป่วยทั่วๆ ไป เช่น ซึม มีไข้ ระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจะเข้าสู่ระยะตื่นเต้น โดยจะมีอาการกระวนกระวาย หงุดหงิด พฤติกรรมเปลี่ยนไป และสุดท้ายจะเข้าสู่ระยะอัมพาต โดยจะพบว่าโรคพิษสุนัขบ้าในแมวจะทำให้มีการทรงตัวผิดปกติ กลืนลำบาก ร่างกายบางส่วนหรือทั่วทั้งตัวเป็นอัมพาต น้ำลายไหลมาก จะเห็นว่ามีอาการคล้ายกลัวน้ำในระยะนี้
ป้องกันก่อนสาย
โรคร้ายป้องกันได้ด้วยการทำวัคซีน โดยเริ่มทำวัคซีนเข็มแรกที่อายุประมาณ 3 เดือน เข็มที่ 2 เมื่ออายุ 6 เดือน และทำการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุกปี หากสงสัยว่าน้องแมวป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที และแจ้งข้อมูลต่างๆ ด้านสุขภาพ เช่น ประวัติการทำวัคซีน ประวัติการดูแลสุขภาพ ลักษณะการเลี้ยงให้ครบถ้วนเพื่อให้คุณหมอทำการตรวจวินิจฉัยต่อไปได้
Thank you : www.purina one.com
YouTube Cat sitter : https://youtu.be/CRRlrXQx_ZM
ขอบคุณผู้ติดตาม และทุกๆท่านที่อ่านบทความนี้ค่ะ🙏😊
โฆษณา