8 มี.ค. 2022 เวลา 11:10 • ข่าว
ครม. เห็นชอบ มาตรการยกเว้นภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในสตาร์ตอัปไทย
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัปไทย ที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ทั้งการลงทุนโดยตรง และการลงทุนโดยอ้อมผ่านการร่วมทุน (Venture Capital หรือ VC)
ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้สตาร์ตอัปไทย สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้เพิ่มขึ้น เสริมสร้างการลงทุนภายในประเทศ และจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว และเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
โดยทาง ​​ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงรายละเอียดในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
1. บุคคลธรรมดาหรือบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทยและต่างประเทศ
จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรายได้จากการโอนหุ้นของสตาร์ตอัป
ทั้งนี้ เฉพาะหุ้นที่ถือครองมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 24 เดือนก่อนการโอนหุ้น
และเป็นสตาร์ตอัปในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามที่รัฐสนับสนุน ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม และก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมด ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ของ 2 รอบระยะเวลาบัญชี
2. การลงทุนผ่านการร่วมทุน (VC) ได้แก่ บริษัทที่ประกอบกิจการเงินร่วมลงทุน (CVC) และผู้ถือหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมทุน (PE Trust)
-CVC ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรายได้จากการโอนหุ้นของสตาร์ตอัป ที่ถือครองมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนก่อนการโอนหุ้น
โดยสตาร์ตอัป ต้องประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่รัฐสนับสนุน
ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม และก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมด ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ของ 2 รอบระยะเวลาบัญชี
และผู้ลงทุนใน CVC จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรายได้จากการโอนหุ้นของ CVC
-PE Trust ไม่อยู่ในบังคับจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
ส่วนผู้ลงทุนใน PE Trust จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรายได้จากการโอนหน่วยทรัสต์ของ PE Trust
สำหรับระยะเวลาการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ ตั้งแต่วันถัดไปจากวันที่พระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2575
ซึ่งทาง สภาดิจิทัลฯ ได้คาดการณ์ว่า จากมาตรการภาษีนี้ จะทำให้ภายในปี 2569
-จะมีเงินลงทุนในสตาร์ตอัปไทย เพิ่มขึ้นประมาณ 3.2 แสนล้านบาท
-GDP ของไทย เพิ่มขึ้น 7.9 แสนล้านบาท
-สตาร์ตอัป เพิ่มขึ้น 5,000 - 10,000 แห่ง
-มีการจ้างงาน เพิ่มขึ้น 200,000 - 400,000 ตำแหน่ง
โฆษณา