8 มี.ค. 2022 เวลา 15:17 • ท่องเที่ยว
เล่าเรื่องเวียดนาม "🌸Tết Tết đến rồi🇻🇳"
.
วนเวียนกลับมาอีกครั้งกับช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือ "🇻🇳ตรุษญวน🇻🇳" ของคนเวียดนามตอนที่ไปอยู่เวียดนามผ่านเทศกาลนี้ 3ครั้ง ในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ความรู้สึกต่างกันในทุกๆครั้ง
.
วัน"ตรุษญวน"ที่เวียดนามเคยเขียนลงเพจไปแล้วเป็นโพสแรกของเพจ"เล่าเรื่องเวียดนาม" เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วสามารถกลับไปอ่านกันได้นะครับ
.
แต่มาในปีนี้จะเล่าให้อีกความรู้สึกหนึ่งที่เราได้สัมผัสในแบบของคนที่อยู่มาแล้วและได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมช่วง "ตรุษญวน" เป็นช่วงเข้าปีที่2ของการไปอยู่ที่นั้น
.
ช่วงปีแรกเป็นปีแห่งความแปลกใหม่ทุกอย่างดูแปลกหูแปลกตาไปหมด เรายังไม่เห็นความแตกต่างหรือยังจับทางไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของที่นั่น ในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับวิถีผู้คน แม้แต่ธรรมเนียมปฎิบัติเราก็ยังไม่เข้าใจและไม่ได้คล้อยตามไปกับมัน ยังมีการตั้งคำถามในหลายๆเรื่องมากมาย
.
ในช่วงก่อน "ตรุษญวน" ไม่กี่อาทิตย์วิถีชีวิตผู้คนชาวเวียดนามจะเปลี่ยนไป ชีวิตคนเมืองที่จะดูคึกคักอยู่แล้วจะคึกคักเป็นพิเศษใส่ไข่ดาวสองฟอง🤣ร้านค้าต่างๆจะขายของที่จะนำไปประดับติดบ้าน ตามข้างทางจะมีต้นส้มจี๊ด(Cây quất) และต้นท้อ (Cây đào) ตั้งขายเรียงรายเต็มข้างทาง เอาไว้ประดับตกแต่งบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลตอนรับปีใหม่ตามปฏิทินจีน ส่วนเรื่องราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันแตกต่างกันไปตามความสวยงามและขนาดของต้น บอกเลยว่าหลักแสนบาทก็มี😃
.
"ตรุษณวน"กับ "ตรุษจีน" จริงๆก็คือวัฒนธรรมเดียวกันเทศกาลเดียวกันสืบทอดจากฝั่งจีนที่ฝังรากลึกและกลมกลืนกันอย่างแยกไม่ออกผมก็ไม่ใช่ลูกหลานคนจีนก็จะไม่ค่อยอินกับเทศกาลนี้เท่าไรแค่ดีพอเห็นขนมเทียนมาขายเยอะๆก็รู้ว่า อ๋อ ถึงตรุษจีนแล้วนะ เพื่อนในห้องเรียนตอนประถมหายหน้าไปเกินครึ่งห้องทั้งที่บางคนเราก็สงสัยว่ามึงมีเชื้อจีนกับเขาด้วยหรือวะ 🤣🤣
.
ส่วนเรื่อง วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ผมก็ไม่ค่อยรู้แต่คงจะไม่แตกต่างกับที่ไทยมาก รวมไปถึงเรื่องความเชื่อต่างๆ ส่วนเรื่องความคึกคักผมว่าที่เวียดนามกินขาดแบบไม่เห็นฝุ่นเพราะเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวโยงกับทางฝั่งจีนยาวนานหลายพันปีจนผสมปนเปออกมาเป็นเวียดนามในปัจจุบัน ทำให้เราที่อยู่เวียดนามในตอนนั้นรู้สึกได้ถึงบรรยากาศความสุขของคนเวียดนามในช่วงเทศกาล
.
ในช่วง"ตรุษญวน" คนเวียดนามทุกพื้นที่ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ไหนหรือส่วนไหนของประเทศจะต้องเดินทางกลับบ้านเกิดใครที่ทำงานในเมืองก็ต้องกลับไปฉลองวันปีใหม่ กลับไปไหว้บรรพบุรษที่บ้านเกิดทุกคนถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฎิบัติใครไม่กลับบ้านจะถือว่าเป็นคน "อกตัญญู" เขาว่างั้นนะ ในช่วงนั้นเมืองจะเงียบสงัดเหมือนเมืองร้าง😱 ร้านค้าต่างๆรวมไปถึงห้างสรรพสินค้ายังต้องปิด มีแค่ขนส่งมวลชนบางประเภทที่ยังพอเปิดทำการบ้างแต่ก็น้อยมากๆ คนไทยที่ไปอยู่ที่นั่นได้รับการเตือนมาจากคนเวียดนามเองว่าร้านค้าจะปิดหมด ต้องกักตุนเสบียงอาหารเอาไว้ทำกินช่วงนี้โดยเฉพาะ
.
อีกอย่างหนึ่งที่ผมสังเกตุได้และเป็นเอกลักษณ์เลย คือเรื่องวงการบันเทิงโดยเฉพาะวงการเพลง ศิลปิน นักร้องจะมีการออกเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองเทศกาลวันปีใหม่ และเพลงที่มีเนื้อหาการกลับบ้านของบรรดาลูกหลานที่ไปงานในต่างเมือง รวมไปถึงเนื้อหาเกี่ยวกับฤดูกาลที่กำลังจะเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
.
ผมมีเพื่อนที่เป็นเวียดนามหลายคนทั้งหญิงและชายอายุน้อยกว่าก็มี เยอะกว่าก็มาก ได้เล่าให้ฟังว่าช่วงที่กลับบ้านตามเทศกาลปีใหม่คนที่บ้าน ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ จะถามว่าเป็นเสียงเดียวกันว่า "เมื่อไรจะแต่งงาน เมื่อไรจะมีลูก" คำถามยอดฮิตทุกปี😅
.
1
แต่พอมาในยุคปัจจุบันบริบทของสังคมเปลี่ยนไปเด็กรุ่นใหม่มีความคิดเปลี่ยนไปจากเดิม ต้องเข้าใจก่อนว่าคนเวียดนามจะแต่งงานเร็วอายุ20กลางๆก็แต่งงาน มีลูก สเต็ปง่ายๆที่ผมเห็นจากเพื่อนคือ
1. คบกัน1-2ปี
2.แต่งงาน
3.มีลูก
กระบวนการนี้จบภายในไม่เกิน3-4ปี อาจจะไม่ใช่ทุกคนนะครับแต่ส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักจะประมาณนี้ซึ่งตอนที่ผมไปอยู่ผมเองก็ตกใจว่า แต่งงานมีลูกแล้วหรอวะ อายุเท่าไรเอง😃
.
สุดท้าย ท้ายสุดความสุขของแต่ละคนคือตัวเราเองที่กำหนดว่าจะให้มันเป็นแบบไหนเราไม่สามารถเอาตัวเองไปตัดสินหรือคิดแทนคนอื่นได้ สุขเขา สุขเรา ไม่เหมือนกัน พออยู่ไปนานๆเราก็เข้าใจเขามากขึ้นและเลิกตั้งทำถามว่าทำไม บลาๆ...กลายเป็นเราที่หลงเสน่ห์เวียดนามแบบโงหัวไม่ขึ้น ❤️🇻🇳
 
🇻🇳🎊Chúc mừng năm mới🎊 🇻🇳
สวัสดีปีใหม่
#เล่าเรื่องเวียดนาม #ปีใหม่ #Tết #เวียดนาม
บรรยากาศคนเวียดนามออกมาซื้อต้นท้อ
โฆษณา