10 มี.ค. 2022 เวลา 01:00 • หนังสือ
รอแบบไม่ต้องรอ ไม่มีวันเจ็บ
-
ถ้าหากคุณยืนตากฝน คุณต้องรู้ว่าใครคือคนที่จะเดินลุยฝนเพื่อมากางร่มให้กับคุณ ฉันใดก็ฉันนั้นหากคุณกำลังรอใครสักคน คุณต้องรู้ว่าคนที่คุณรอเขาจะกลับมาหาคุณอย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากตรงกันข้าม คุณยืนตากฝนโดยที่เชื่อว่าจะมีใครสักคนเดินลุยฝนมากางร่มให้กับคุณ คุณไม่ควรออกมายืนตากฝนตั้งแต่แรก เช่นเดียวกันกับการรอ หากคุณกำลังรอใครสักคน โดยที่คุณไม่รู้ว่า เขาจะกลับมาหาคุณไหม แต่คุณก็เชื่อว่าเขาจะกลับมาหาคุณ คุณไม่ควรรอตั้งแต่แรก
Photo by DDDanny D on Unsplash
อนาคตคือ สิ่งที่เราไม่รู้หากจะทำนายอนาคต จงทำนายจากการรู้ว่า อะไรมันจะเกิดขึ้นไม่ใช่จากการเชื่อว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น การรู้ กับ การเชื่อ นั้นต่างกัน เมื่อไหร่ที่คุณรู้นั่นแปลว่า มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อไหร่ที่คุณเชื่อนั่นแปลว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน
หากคุณจะรอใครสักคน คุณต้องรอจากการที่คุณรู้ว่าอนาคตเขาจะกลับมาหาคุณ แต่หากคุณไม่รู้ ว่าอนาคตเขาจะกลับมาหาคุณหรือไม่ แต่คุณมีความเชื่อมั่นว่าเขาจะกลับมาหาคุณ คุณอย่าได้รอ เพราะความเชื่อไม่ใช่ความจริง คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าเขาจะกลับมาหาคุณหรือไม่ และคุณอาจต้องรอตลอดไปทั้งชีวิต
Photo by DDDanny D on Unsplash
ดังนั้น หากคุณจะรอใครสักคน คุณต้องรอด้วยความรู้ไม่ใช่ความเชื่อ หากคุณตัดสินใจไม่ได้ว่า ควรจะรอดีไหม คุณจงตัดสินใจจากสามสิ่งนี้
หนึ่ง โอกาส หากคุณรอเขา คุณอาจจะพลาดโอกาสที่มีอยู่ในปัจจุบัน คุณอาจจะพลาดสิ่งดีๆ หลายสิ่งในชีวิต และบางสิ่งก็อาจเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถจะเอากลับคืนมาได้อีก คุณยอมรับได้หรือไม่ที่จะปิดกั้นโอกาสในชีวิตของตัวเองเพื่อใครสักคนที่คุณไม่รู้เลยว่าอนาคตเขาจะมีคุณอยู่ในชีวิตไหม
สอง ความคุ้มค่า จงไตร่ตรองให้ดีว่าการที่คุณรอเขาเป็นสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่ หากคุณคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะรอ ก็ให้คุณรอด้วยความรู้ว่ามันเป็นการรอที่คุ้มค่า แต่หากคุณไม่แน่ใจว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ คุณจงอย่าได้รอ
สาม ความสูญเสีย คุณจงมองปัจจุบันของคุณให้ดี และคิดอย่างมีสติว่าการรอใครสักคนทำให้คุณสูญเสียอะไรไปบ้าง และถ้าหากเขากลับมาสิ่งที่คุณสูญเสียไปมันคุ้มค่าหรือเปล่า
ข้อคิดสำหรับคนที่รอใครสักคน
อย่ารอคนที่คุณรู้ว่า คุณรักเขา แต่จงรอคนที่คุณรู้ว่า เขารักคุณ
โฆษณา