10 มี.ค. 2022 เวลา 12:34 • ดนตรี เพลง
50 Cent
เสียง ‘ปัง!’ เก้าครั้ง และกระสุนเก้านัด จากเด็กส่งยาสู่แร็ปเปอร์
“ผมไม่ได้มองว่าความตายเป็นสิ่งเลวร้ายเสมอไป ความตายทำให้ชีวิตมีความหมาย การหวาดกลัวความตายคือการปฏิเสธความหมายแห่งชีวิต เพราะชีวิตไม่อาจเป็นชีวิตได้ หากไม่มีความตายเป็นองค์ประกอบในนั้น”
คือคำพูดของ ‘เคอร์ติส แจ็กสัน’ (Curtis Jackson) ชายที่ผู้คนกล่าวขานถึงเขาด้วยสมญาแทนตัวว่า ‘50 Cent’ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะแร็ปเปอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการนักแสดงและนักธุรกิจ มีเพลงฮิตยุค 2000s อย่าง ‘In Da Club’ มีปูมหลังเกี่ยวพันกับข้างถนนและการขายยา และมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานประจำตัวว่า
เขาเคยถูกยิงด้วยกระสุน 9 นัด และรอดตายมาได้
#ลูกชายหญิงขายยา
6 กรกฎาคม 1976 คือวันที่เด็กชาย ‘เคอร์ติส แจ็กสัน’ ลืมตาดูโลก ในอ้อมกอดของ ‘ซาบรินา แจ็กสัน’ (Sabrina Jackson) ผู้เป็นแม่ ใต้ความแร้นแค้นและความรุนแรงในย่านแก๊งคุมเมือง เซาท์จาเมกา เป็นย่านใกล้ชิดติดกับย่านควีนส์ เขตหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก
ชีวิตวัยเยาว์ของเด็กชายเคอร์ติสห้อมล้อมด้วยความรุนแรง ซาบรินา แม่ของเขาไม่คิดว่าอาชีพพนักงานเสิร์ฟอาหารในร้านรวงขนาดเล็กจะมอบชีวิตที่ดีให้เธอและลูกได้ จึงเลือกอาชีพสาวเดินยาเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูบุตรชายคนเดียวอย่างดีที่สุด เธอซื้อหาทุกสิ่งที่เขาอยากได้ เคอร์ติสมีชีวิตสุขสบาย ขณะที่เธอถลำลึก กลายเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งค้ายาที่น่ากลัวที่สุดในควีนส์
ความสัมพันธ์ระหว่างซาบรินาและลูกชายไม่ได้ราบรื่นนัก 50 Cent เล่าถึงช่วงเวลาดังกล่าวว่าเขากลัวแม่เข้ากระดูกดำ แม้แต่การถูกเพื่อนร่วมโรงเรียนกลั่นแกล้งก็ไม่น่ากลัวเท่าแม่ของเขาเอง
“ผมถูกแกล้งบ่อย ๆ ในสวนสาธารณะ แต่ผมไม่ได้กลัวคนที่แกล้งผมเท่ากับแม่ เพราะแม่คือคนที่ผมไม่สามารถหนีไปจากเธอได้”
50 เล่าว่าแม่ของเขาเป็นหญิงเข้มแข็งจนเกือบกระด้าง เธอไม่เคยยอมปล่อยผ่านหยาดน้ำตาของลูกชาย “เธอจะมองมาที่ผมซึ่งร้องไห้อยู่บนพื้น พูดว่า ‘ลุกขึ้นมา แกจะฟูมฟายน้ำตาเหมือนเด็กผู้หญิงไปเพื่ออะไร’” กระนั้นเด็กชายก็ยังรักเธออย่างสุดซึ้ง เคอร์ติสในวันที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่เข้าใจดีว่าการที่เธอต้องเข้มงวดกับเขาถึงเพียงนั้น เพราะประสบการณ์ชีวิตสอนเธอว่าผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอดในโลกอันตรายของยาเสพติด “เธอเป็นหญิงที่สู้ในโลกของผู้ชาย”
วัยเด็กของเคอร์ติส แจ็กสัน เปลี่ยนไปตลอดกาลหลังความตายของผู้เป็นแม่ ตอนนั้นเขาอายุเพียง 8 ขวบ ปี 1983 ซาบรินา แจ็กสันตายในกองไฟอย่างเป็นปริศนา (ที่น่าจะเกี่ยวกับอาชีพค้ายาของเธอ) ด้วยวัยเพียง 23 ปี
แม้จะหวาดกลัวผู้เป็นแม่มาโดยตลอด แต่สำหรับเด็กชายวัย 8 ขวบนั้น “เธอคือทั้งชีวิตของผม” 50 Cent เล่า ในวันนั้นเขาทำใจยอมรับไม่ได้เมื่อผู้เป็นยายรับเขาไปดูแลพยายามบอกกับหลานว่าซาบรินาจะไม่กลับมาอีก
#ชีวิตหลังไร้แม่
“หลังแม่จากไป ทุกอย่างที่ผิดพลาดไป เป็นเพราะไม่มีเธอ เพราะแม่ไม่อยู่ตรงนี้กับผม
“ถ้าผมอยากไปสวนสาธารณะ และทันใดนั้นฝนก็เริ่มตก…เป็นเพราะแม่ไม่อยู่ตรงนี้กับผม”
อายุ 8 ขวบ เป็นลูกในความดูแลของแม่เลี้ยงเดี่ยว ถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ชินชากับความรุนแรงและข่าวคราวของแก๊งส่งยา เด็กชายเคอร์ติส แจ็กสัน ผู้ผ่านพ้นประสบการณ์เลวร้ายมา บัดนี้เสียที่พึ่งหนึ่งเดียวที่เขาเรียกว่า ‘แม่’ ไป แม้มองขึ้นไปจะยังมีหลังคาเหนือหัว เมื่อหิวยังมีอาหารให้ท้องอิ่ม แต่ชีวิตของเคอร์ติสในบ้านของยายนั้นทำให้เด็กชายเลือกที่จะโดดเดี่ยว เก็บตัวในห้องเพียงลำพัง เขาทนไม่ได้ที่ต้องแสดงออกให้คนอื่นรู้ว่าเขากำลังอ่อนไหวและเสียใจ
อายุ 8 ขวบ อารมณ์ด้านลบมากมายวิ่งเข้าใส่เขา 50 Cent ยอมรับว่าประสบการณ์เหล่านั้นส่งผลต่อตัวตนของเขาในวัยผู้ใหญ่
“ผมโมโหร้าย
“แต่ละคนก็มีวิธีจัดการอารมณ์ด้านลบต่างกันไป บ้างร้องไห้ บ้างทำอย่างอื่น สำหรับผม ความโกรธคือสิ่งนั้น”
อายุ 12 ปี เคอร์ติส แจ็กสันเดินตามเงาของผู้เป็นแม่ และเริ่มอาชีพเด็กส่งยา เด็กชายเริ่มโกหกยายว่าโรงเรียนเลิกค่ำ ขณะนำ ‘crack’ หรือผงโคเคนไปส่งลูกค้าแลกเงิน ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่นำพาเขามาหายาก็คือการเลี้ยงดูในวัยเด็กของผู้เป็นแม่นั่นเอง
“ผมไม่อยากขอรองเท้าแอร์ จอร์แดนจากยาย เพราะผมรู้ว่าเธอซื้อให้ไม่ได้ ดังนั้นผมเลยต้องหาทางซื้อมันเอง”
อายุ 15 ปี เคอร์ติส แจ็กสันซื้อปืนกระบอกแรก เมื่ออายุ 19 เขาก็เป็นราชายาเสพติดในย่านที่เขาอาศัย ด้วยรายได้ 150,000 ดอลลาร์ต่อเดือน เคอร์ติสออกจากโรงเรียนมัธยม และในที่สุดเขาก็กลายเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาในเรือนจำ
1
กระนั้น เคอร์ติสที่เข้าออกคุกเป็นว่าเล่นก็ยังมีจิตใจใฝ่ดนตรี เขาชอบ KRS-One, Rakim และ Run-DMC รวมทั้งพยายามเขียนเพลงของตัวเอง เคอร์ติสไม่ได้จริงจังกับเส้นทางแผ่นเสียงมากนักจนวันที่เขากลายเป็นพ่อคน
‘มาร์ควิส’ (Marquise) ลูกชายคนแรกทำให้เขาอยากลองทำเพลงดูสักตั้ง
#เส้นทางเด็กแร็ป
ปี 1996 คือครั้งแรกที่เคอร์ติส แจ็กสัน หรือ 50 Cent ได้รู้จักกับ แจม มาสเตอร์ เจย์ (Jam Master Jay) สมาชิกรุ่นบุกเบิกของก๊วนแร็ป Run-DMC
Jam Master Jay เห็นแววในตัว 50 ถึงขั้นลงมือฝึกวิชาแร็ปให้ชายหนุ่มด้วยตนเอง และในปีถัดมาก็เซ็นสัญญาให้ 50 Cent เป็นแร็ปเปอร์หน้าใหม่ที่เขาจะดูแลทั้งด้านการผลิตและโปรโมต
เพลงของ 50 Cent นั้นดิบและกร้าวไปด้วยชีวิตจริงของเขาบนท้องถนนย่านควีนส์ เสียงเพลงเหล่านั้นกลายเป็นที่นิยมในโลกใต้ดิน ไม่นาน ค่ายเพลงก็เริ่มจับตามอง ‘สตรีต เติร์ก’ หรือนักเลงแห่งท้องถนนรายนี้ ก่อนที่ค่าย Columbia Records จะคว้าเขาไปเซ็นสัญญาพร้อมจ่ายเงินล่วงหน้า 65,000 ดอลลาร์ ในปี 1999
เงินจำนวนนั้นอยู่ในการดูแลของ Jam Master Jay 50,000 ดอลลาร์เพื่อทำเพลงให้เขา ส่วนที่เหลือจ่ายให้แก่ทนาย ดังนั้น แม้ว่าจะได้เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่สมใจแล้ว 50 Cent ก็ยังรามือจากตำแหน่งราชาแห่งยาเสพติดประจำย่านไม่ได้อยู่ดี
และแล้ว เสียง ‘ปัง!’ ก็ดังขึ้น
#วันที่เสียงปืนดังเก้าครั้ง
เรื่องเล่ายอดมนุษย์หนังเหนียวในแวดวงแร็ปเปอร์เกิดขึ้นเมื่อปี 2000 ขณะนั้น 50 Cent อายุยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่ กำลังนั่งชิลล์กับเพื่อนอยู่ในรถซึ่งจอดในลานไม่ห่างจากบ้านยายของแร็ปเปอร์หนุ่มนัก 50 Cent ได้เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายครั้งนั้น ในหนังสือชีวประวัติ ‘From Pieces to Weight: Once Upon a Time in Southside Queens’ ว่า
“ผมมีปืนอยู่กับตัว แต่ไร้กระสุน มือปืนจ่ออาวุธของเขามา แรกเริ่มยิงโดนขา ผมรู้สึกแสบร้อนเหมือนไฟเผา จ่อปืนสวน พยายามยิงกลับ แต่รังเพลิงของผมว่างเปล่า มือปืนลงมืออีกครั้ง กระสุนเจาะเข้าที่ใบหน้าผม ระเบิดปากและมือของผม ก่อนที่มือปืนบนรถจะล่าถอย”
หลังระรัวเสียง ‘ปัง!’ กระสุนเจาะร่าง 50 Cent ถึง 9 นัด แร็ปเปอร์หนุ่มอาการสาหัสและพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 13 วัน หลังจากนั้นเขาก็ต้องกายภาพบำบัดเพื่อให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ชายหนุ่มเคลื่อนไหวได้ดั่งใจอีกครั้งหลังผ่านไป 6 สัปดาห์ แต่บาดแผลบริเวณใบหน้านั้นถาวรยิ่งกว่า ซึ่งนั่นส่งผลต่อการพูด - และอย่างยิ่ง ส่งผลต่อวิธีแร็ปของเขา
“ผมมีเศษกระสุนฝังอยู่ในลิ้น มีแผลเป็นที่มือและใบหน้า และชิ้นในลิ้นนี่แหละปัญหา มันส่งผลต่อวิธีที่ผมพูด”
50 เชื่อว่าคนที่ยิงเขาเป็นอริในสายอาชีพพ่อค้ายา เขาบอกว่าคนที่ยิงเขาตายไปแล้ว ส่วนผู้ว่าจ้างโดนจับเข้าซังเต แต่สำนักข่าว The Guardian รายงานว่าเรื่องราวในชั้นศาลนั้นต่างออกไป โดยมีใจความว่าคนที่หมายชีวิตเขาไม่ใช่เด็กเดินยาชั้นกระจอกงอกง่อย แต่เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มีแรงจูงใจมาจากที่ 50 เคยเขียนเพลงดิส ‘เคนเนธ แมคกริฟฟ์’ (Kenneth McGriff) ขาใหญ่ขายยาที่รู้จักในนาม ‘Supreme’ โดยมีพยานยืนยันว่าแมคกริฟฟ์และพวกนัดพบกันหลังการลงมือ และพูดคุยกันว่าจะทิ้ง 50 Cent ไว้แบบนั้นและปล่อยให้ตาย
อย่างไรเสีย ว่ากันว่าแมวมีเก้าชีวิตอย่างไร 50 ก็รอดจากกระสุน 9 นัดมาได้ฉันนั้น แต่ก็พ่วงมาด้วยอาการหวาดวิตกอย่างรุนแรงจนต้องจ้างบอร์ดีการ์ดไว้ข้างกายไปพักใหญ่ แถมอีก 2 ปีถัดมา Jam Master Jay ที่ 50 นับถือเป็นอาจารย์ก็ถูกฆ่าตายด้วยวัย 37 ปี โดยรูปคดีเป็นปริศนามายาวนาน และเพิ่งจับตัวคนร้าย 2 รายได้ในปี 2020 ที่ผ่านมานี้เอง
#ชีวิตหลังวัน(เกือบ)ตาย
แม้จะผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย แต่เพลงของ 50 Cent ก็ค่อย ๆ ติดหูผู้คนมากขึ้นหลังจากปี 2002 เมื่อเขาปล่อยเพลง ‘Wanksta’ เพลงจิกกัดคู่กัดในวงการอย่าง จา รูล (Ja Rule) ทั้งคู่เคยมีคดีกันในปี 1999 ที่ Ja Rule ถูกปล้นและกล่าวหาว่า 50 Cent เป็นหัวขโมย
‘Wanksta’ และเพลงอื่น ๆ ของเขาในช่วงนั้นเข้าตาแร็ปเปอร์ผิวขาวผู้เป็นที่จับตามองมากที่สุดของยุคอย่าง เอ็มมิเน็ม (Eminem) จน ‘เอ็ม’ ต้องจับ ‘50’ เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเบอร์แรกใน Shady/Aftermath Records ค่ายเพลงของเขาเอง และต่อมาโลกก็รู้จักชื่อเขาจากอัลบั้ม ‘Get Rich or Die Tryin’’ ซึ่งมีเพลงเอกอย่าง ‘In Da Club’ อยู่ด้วย
ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์ผู้ล่วงลับ ด้วยความตาถึงของ Eminem ที่มองเห็นแววและส่งเขาไปเป็นแร็ปเปอร์ใต้ปีกโปรดิวเซอร์อย่าง ดร.เดร (Dr. Dre) ชื่อเสียงของ 50 Cent จึงทะยานขึ้นสู่ระดับ ‘ซูเปอร์สตาร์’ และโด่งดังคับฟ้าในช่วงเวลาหนึ่ง และจนถึงวันนี้ สมญา 50 Cent ก็ยังจัดว่า ‘เก๋า’ อยู่
อายุ 12 เขาเป็นเด็กส่งยา อายุ 23 เขาเกือบถูกฆ่าตาย ชีวิตวัยเยาว์ของเขาไม่ได้ขาวสะอาดอย่างไร ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของเขาก็ไม่ได้คิด พูด ทำ แต่เรื่องดีงามเช่นกัน แม้บทความนี้ไม่อาจรวบรวมการกระทำทั้งดีและร้ายของชายคนนี้มาเล่าให้ครบถ้วนได้ก็ตาม
ถ้าเปรียบชีวิตเป็นภาพยนตร์ ‘50’ รู้ว่าเขาเองก็คงไม่แคล้วบทตัวร้าย กระนั้น ชีวิตของเขาก็เป็นดั่งคำที่เขาเคยพูดไว้ว่า
“ผู้คนรักตัวร้าย… มันอาจเป็นกฎของหนังที่ตัวร้ายต้องตายในตอนจบ แต่บางครั้งตัวร้ายก็อาจได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์”
1
ป.ล. ปี 2015 50 Cent ได้นำประสบการณ์ 9 นัดเฉียดตายมาเขียนเป็นไรห์มแร็ปและใช้ชื่อเพลงว่า 9 Shots
เรื่อง: จิรภิญญา สมเทพ
#ThePeople #Culture #50Cent
โฆษณา