10 มี.ค. 2022 เวลา 15:17 • ความคิดเห็น
ผมขอตอบในฐานะเป็นผู้ประกอบการนะครับ ถ้ามันเป็นเกียรติบัตรที่สอบวัดระดับ ที่เราอยากจะทดสอบความรู้ของตัวเอง สำหรับผมจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่สนุก ท้าทายความสามารถ
หากคุณกำลังสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การเรียนและสอบวัดระดับ จากระดับ1 ไป2 จนสำเร็จขั้นSpecialist คุณก็จะยิ่งชอบเรื่องที่คุณสนใจมากขึ้น
การที่เราตัดสินใจไปสอบวัดระดับให้ไปสุดทาง มันก็มีความยากในระดับหนึ่ง และเมื่อเราสอบผ่าน จะช่วยเพิ่มไฟให้เราขึ้นทุกครั้ง ความเชื่อมั่นก็จะมีมากขึ้น
หากเรารักในงานอดิเรกอะไรสักอย่าง ทำไมไม่เรียนรู้มันอย่างจริงจัง แล้วทำจากแค่ดีให้กลายเป็นเยี่ยมไปเลย ถ้าคุณชอบหรือรักในสิ่งนั้นจริงๆ อย่าให้มันเป็นแค่งานอดิเรกครับ
การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เราต้องทำไปตลอดชีวิตครับ
หากคุณอยากจะยกระดับฐานเงินเดือนจากการเป็นพนักงาน การไปสอบเอาคุณวุฒิเป็นสิ่งที่คุณต้องคิดให้หนัก ให้ถามคนในบริษัท รุ่นพี่ที่เขาต้องไปสอบคุณวุฒิเพื่ออัพตัวเองขึ้น ถามเขาว่า มันให้อะไรไหม ได้เลื่อนขั้น หรือเป็นบวกกับตัวเขาหรือเปล่า ?
และส่วนมากจะตอบคล้ายๆกันว่า “ไม่” เพราะ ผมในฐานะ เจ้าของธุกิจ ผมไม่สนใจที่คุณวุฒิเลย แต่สนใจใน ทัศนคติว่าสามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของเราได้ไหม? ความสามารถในการทำงานจริงเป็นอย่างไร?
ดังนั้น สำหรับผมการมีวุฒิสูงหรือเพิ่มวุฒิมาไม่ได้ช่วยให้ผมต้องเลื่อนขั้นใครสักคนขึ้นมาแน่นอน
ความคิดที่จะมีวุฒิหลายๆใบเพื่อเพิ่มรายได้ จากการเลื่อนขั้น นั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่หากเป้าหมายคุณคือ การท้าทายตัวเอง เรียนรู้ ฝึกสมอง ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็คำนึงถึง “เวลา และ ต้นทุน” ด้วยครับ การเรียนโท เอก เหนื่อยมากกว่าที่คิด แต่บางที่เรียนก็ทำให้เราได้คอนเนคชันดีๆ
ดูให้ดีว่าเราอยากได้ไหม เช่น mba โท เราก็ต้องดูมหาลัยที่เน้นเอาพวกเจ้าของทำธุรกิจหรือผู้บริหาร ระดับหัวหน้า มาเรียน ไม่ใช่ไปเลือกเรียนที่มีแต่เด็กพนักงาน หรือ น้องที่เพิ่งว่างงานมาเรียน คอนเนคชันอาจจะเกิดยาก ขึ้นอยู่กับเราอยากได้คอนเนคชันแบบไหน แต่การไปเรียนต่อเพื่อคอนเนคชันอย่างเดียวก็ไม่เหมาะอีก เพราะคอนเนคชันดีๆก็หาได้จากนอกห้องเรียน
เอาเวลาไปเรียนคอร์ส หรือสัมนา workshop ที่พัฒนาทักษะจำเป็นคุ้มค่ากว่า ตอนนี้มีคอร์สเรียนเยอะมาก เลือกเรียนสิ่งที่เราเจาะจง เพื่อจะพัฒนาตัวเองคุ้มที่สุดครับ
ส่วนถ้าเป็นเกียรติบัตรช่วยเหลือสังคม หรือ ทำความดี หรืออื่นๆเยอะแยะ สิ่งที่ผมจะแนะนำนะครับในเรื่องของการทำงาน
คนไทย จีน เชื่อคน ส่วนฝรั่งเชื่อป้าย
เพราะ กฎหมายของฝรั่งเขาเข้ม การสอบใบป้ายต่างๆ คนที่สอบผ่าน อย่างใบขับรถบรรทุกใหญ่ ก็ยากแล้ว และต้องรักษากฎต่างๆอย่างเคร่งครัด ระเบียบวินัยเขาสูง กว่าจะได้ใบอะไรมาค่อนข้างยากและมีมาตรฐานสูง เขาจึงเชื่อในป้ายมากกว่า กลับมาที่คนไทย แค่สมัครการเมือง ยังมีเบื้องหลังปลอมป้ายอะไรขึ้นมาได้เลย ดังนั้นการมีป้ายเยอะๆสำหรับคนไทย ส่วนมากไม่ค่อยช่วยอะไรครับ
ดูอย่างร้านค้าออนไลน์ก็ได้ ของต่างชาติ เขาจะเน้น ว่า ผ่านมาตรฐาน ป้ายนุ่นนี่นั่นเยอะ เขาถึงจะซื้อ แต่สำหรับร้านไทย ขอแค่ไลฟ์สดจริตถูกใจฉันชอบคนนี้ ฉันซื้อ!
อ่านถึงตรงนี้ คุณคิดว่าการมีป้ายติดตัวเราเยอะๆจะยังจำเป็นอยู่ไหมครับ ?
ให้กลับไปถามตัวเองว่า ป้ายอะไรที่เราจะต้องมีติดตัว และ ทำไมเราต้องมีป้ายนั้นติดตัว แล้วก็ถามไปอีกว่า ถ้ามีป้ายนั้นจะตอบความต้องการของตัวเองได้ไหม
โชคดีครับ :)
โฆษณา