13 มี.ค. 2022 เวลา 02:00 • ปรัชญา
ความพยายาม คือ? มันเทียบได้จริงหรือกับความสามารถ มันเทียบได้จริงหรือกับการมีเงินทองให้ทดลอง และมันเทียบชั้นได้จริงหรือกับความอัจฉริยะภาพของคน
“ถ้ามีความสามารถเพียงแค่นี้ก็จงเรียนรู้ที่จะอยู่แบบเป็ดไปซะ อย่าพยายามทำให้ตัวเองกลายร่างเป็นหงส์ หรือมังกรเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์กับความสามารถเพียงแค่นี้”
มันเป็นคำพูดที่อาจจะไม่รุนแรงถ้าเทียบกัน กับสังคมสมัยนี้ที่ซึ่งทุกอย่างกำลังก้าวไปข้างหน้าในหลังจากยุคปฏิวัติอุตสหกรรม ที่ซึ่งสังคมในทุกวันนี้ต่างแสวงหาความเป็นเลิศในตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นต่างให้ความเคารพกับพลังอำนาจ ยอมก้าวเดินไปบนกองความรู้สึกที่มีพลังด้านลบเป็นแบบในการใช้ชีวิต ทั้งการหักหลัง การโกหกเพื่อให้ได้มา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาเหล่านี้ต่างหากที่ผู้คนยอมทำ เพราะทุกคนต่างรู้แล้วว่า ปลายทางที่แห่งนั้นมีความเคารพต่อตัวเองรออยู่ที่ปลายทางข้างหน้าอย่างแน่นอน ที่ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างได้รับการเรียกว่า พยาหงส์ พยามังกร ที่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างวัดกันด้วยความสำเร็จเพียงฉากหน้า ที่อาจเคลือบไว้ด้วยน้ำหวานที่ขมขื่น
ในบางครั้งชีวิตก็ได้มอบประสบการณ์อันขมขื่นที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกว่าเป็นบททดสอบได้หรือเปล่า ไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจะเลวร้ายขนาดไหน เราก็พบเจอความช่วยเหลือด้านต่างๆอย่าง ผู้คน หนังสือ ทุกคำพูดปลอบประโลมจิตใจ ทุกตัวอักษรที่แสดงออกถึงการพยายามมีกำลังใจเกิดขึ้น ทุกอย่างรอบข้าง ต่างบอกให้รู้ว่าให้พยายามขึ้นอีกนิด พยายามอีกหน่อย แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ผลพวงจากการพูดว่าพยายามอีกนิด อีกนิด อาจดูเหมือนไม่มีผลกระทบภายนอก แต่ทว่าจิตใจภายในตัวเองนั้นไม่รู้ว่าบอบช้ำไปมากขนาดไหน การที่คนๆหนึ่งจะเรียกกำลังใจเพื่อให้สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งอย่างมั่นคง ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
การลุกขึ้นกลับมายืนอีกครั้งอาจดูเหมือนง่าย แต่กลวิธีนั้นกลับมีความแตกต่างอย่างมาก สิ่งนั้นต้องอาศัย ความเข้าใจในตัวเอง การตระหนักรู้ถึงที่มาที่ไปของปัญหา การเรียนรู้ที่จะยอมรับปัญหานั้นทางเบื้องต้นเพื่อเรียนรู้เข้าสู่ปัญหาที่อยู่ในระดับลึกลงไปอีก จากนั้นจะพบรากเหง้าของปัญหา แต่หลายครั้ง มีการพบว่าจริงๆแล้วปัญหาทีหลายคนคิดว่าร้ายแรงเหล่านั้น เราทุกคนต่างให้เหตุผล ความหมายกับปัญหานั้นรุนแรงเกินจริงไปเสมอ หลายครั้งปัญหาเกิดมาจากจิตใจข้างในของเราเองซะมากกว่า แบบนี้แล้วนั้นการทำความเข้าใจทางด้านความคิด จิตวิญญาณของตัวเราเองย่อมสำคัญกว่า เพราะมันอาจจะเป็นกระบวนการที่เปลี่ยนให้กลายร่างจากเป็ดไปสู่ที่ยืนที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นปัจจัยภายนอกก็มีส่วน แต่คนที่เปลี่ยนตัวเองได้ส่วนมากต่างพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นหรือพบเจอด้วยการมองหาวิธีแก้ปัญหาแบบร่วมกันโดยเริ่มจากที่ภายในของตัวเองก่อนเสมอเหมือนดังซึ่งมีเนื้อความว่า
“โปรดประทานใจอันสงบนิ่งให้ลูกยอมรับในสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ”
“โปรดประทานความกล้าหาญให้ลูกเปลี่ยนในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้”
“และโปรดประทานปัญญาให้ลูกเข้าใจว่าสิ่งใดเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งใดเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
นี่คือคำกล่าวหนึ่งที่สามารถบอกได้อย่างแท้จริงในการเปลี่ยนแปลงมุมมองในการมองปัญหาอย่างแท้จริง ด้วยการหยุดคิด ตระหนักรู้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และมีอีกคำกล่าวที่ผมชอบ จนอดห้ามไม่ได้ที่จะยกมาให้ผู้อ่านได้รู้
“ชาวอาราบิก มีคำกล่าวที่ว่า”
“คุณอยากตายใช่ไหม? เช่นนั้นแล้ว คุณจงโยนตัวคุณเองลงไปในทำเลอันกว้างใหญ่ แล้วคุณจะค้นพบว่า ตัวคุณและร่างกายของคุณเอง กำลังดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด”
“คุณจะรู้ได้ว่า คุณไม่ได้ต้องการจะฆ่าหรือทำลายจิตวิญญาณของตัวคุณเองหรอก เพียงแต่คุณต้องการ ฆ่าบางสิ่งในตัวคุณต่างหาก”
บางครั้งการที่เราเฝ้ามองคนๆหนึ่ง อาจทำให้เราสามารถพบเจอกับเรื่องบางอย่างที่อาจเปลี่ยนมุมของเราหรือเหล่าคนที่พบเจอไปเลยก็ได้ แต่ไม่สามารถบอกถึงในรายละเอียดภายในจิตใจว่าเปลี่ยนไปมากขนาดไหน แต่ที่สามารถรู้สึกได้ว่ามุมมองของเขาที่มีต่อโลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ผมเคยพบเจอแม้แต่เด็กที่ต้องเข้ามาที่สังคมแห่งความมืดมนด้วยอายุเพียงแค่ 20ปี ถ้าเป็นในสมัยคนรุ่นก่อน อายุเพียงแค่นี้อาจจะเรียนในมหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมตัวเผชิญกับโลกกว้าง แต่เด็กคนนั้นกลับเดินเข้าสู้สังคมในตอนที่อายุยังน้อย แถมยังเลือกเดินด้านที่มืดมน แต่ด้วยความสนุกสนานที่พบเจอ ความสามารถในการเอาตัวรอดยังต่ำเกินไปสุดท้ายกลายเป็นเหตุการณ์สลด จากอุบัติเหตุรถที่ต้องเปลี่ยนชีวิตของคนๆหนึ่งไปตลอดกาล อย่างที่เขาพูดกันมาว่า อยู่มิสู้ตาย
เหตุการณ์บางเหตุการณ์สามารถเปลี่ยนความคิด การกระทำของเราไปได้เลยตลอดชีวิต แต่โปรดอย่าได้ลืมไปว่าเรายังมีความสามารถในการมองสถาการณ์จากภายในความคิด จิตใจ สิ่งเหล่านี้นั้นไม่มีใครสามารถเอาไปจากเราได้ เราสามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ หลายทาง ทั้งจากการเปลี่ยนมุมมองทางความคิด การค้นหาจิตใจภายในตัวเองว่าเป็นมาอย่างไร ถ้าเราสามารถเปลี่ยนได้แม้เพียงเล็กน้อย ชีวิตคุณก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอาจเป็นความคิดที่พัฒนาจากเป็ดไปสู่การเป็นนักคิดที่มองเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา รู้จักยอมรับ รู้จักการผ่อนปรน แล้วแบบนี้คุณจะกล้ายอมรับกับตัวเองได้ว่า ฉัน ผม หรือเขา ไม่ใช่เป็ดอีกต่อไปแล้ว พวกเขาเหล่านั้นพร้อมจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว คุณหละพร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลงทางควาทคิด และจิตใจ
ขอบคุณที่ติดตาม
โฆษณา