12 มี.ค. 2022 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
เรื่อง : ลายนิ้วมือสำคัญ ช่วยคลี่คลายคดีที่ค้างคามากว่า 29 ปี
6
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 10นาที
Part 1 : เริ่มเรื่อง
คดีลานจอดรถ Temple Street เกิดขึ้นในรัฐ Connecticut ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกิดขึ้นในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัฐแห่งนี้ ซึ่งก็คือเมือง New Heaven, ณ ใจกลางเมืองแห่งนี้มีถนนอยู่สายหนึ่งที่เรียกว่า Temple Street โดยในย่านนี้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่มากมาย มีผู้คนจำนวนมากมายมาจับจ่ายใช้สอยกันที่นี่ และเนื่องจากสถานที่นี้มีผู้คนอาศํยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้หาที่จอดรถได้ยาก ดังนั้นเวลาที่หลายคนมาซื้อของที่นี่ก็จะไปจอดรถไว้ที่อาคารจอดรถสูง 10 ชั้น
ในวันที่ 16 กรกฏาคม ปี1973 เวลาบ่ายโมง 15 นาที ทางตำรวจของรัฐ Connecticut ได้รับแจ้งเหตุ โดยผู้แจ้งเหตุนั้นบอกว่าพบร่างของผู้หญิงคนหนึ่งล้มลงที่ระหว่างบันไดชั้นที่ 10 ไปยังดาดฟ้าของลานจอดรถ Temple Street, เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุจหน้าไปที่เกิดเหตุทันที
1
Part 2 : เริ่มสืบสวน
จากการตรวจสอบว่าว่าหญิงสาวรายนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยร่างของเธอนั้นอยู่ในท่าขดตัวเหมือนทารกที่อยู่ในครรภ มีบาลแผลอยู่บริเวณหน้าอก 2 แผล มีเลือดออกในปริมาณมาก ตำรวจจึงสันนิฐานเบื้องต้นว่าเธอคงเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมาก
ในที่เกิดเหตุยังพบเลือดเป็นหย่อมๆบนพื้นของลานจอดรถตั้งแต่ชั้น 10 ลงไปถึงชั้นที่ 5 ซึ่งมีระยะห่างไม่เท่ากัน และยังพบรถ Buick Electra ปี 1971 สีฟ้า 1 คันที่ลานจอดรถชั้น 8 โดยมันไม่ได้ถูกล้อคไว้ และมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ที่มือจับประตู ที่เบาะด้านหลังของรถมีกล่องทิชชู่ตกอยู่ บนกล่องทิชชู่มีรอยนิ้วมือติดอยู่ นอกจากนั้นภายในรถยังพบกระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินอยู่ 14.75 USD แล้วก็พบบัตรจอดรถที่บรรทึกเวลาการเข้าที่จอดรถแห่งนี้ไว้ที่ เที่ยง 42 นาที และพบซองจดหมายที่ยังไม่ได้เปิดผนึกฉบับหนึ่ง โดยในนั้นเป็นรายงานการทำฟันฉบับหนึ่ง
1
จากหลักฐานที่รวบรวมจากที่เกิดเหตุ ตำรวจสามารถยืนยันตัวตนของหญิงสาวรายนัี้ได้ โดยเธอคือ Penney Serra อายุ 21 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยคลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ และเธอเป็นคนขับรถ Buick ของเธอเข้าไปในลานจอดรถเอง และจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนก็พบว่าเจ้าของรถนั้นก็คือพ่อของเธอ ดังนั้นตำรวจจึงโทรแจ้งให้เขาทราบในทันที
1
Penney Serra
จากนั้นพนักงานสืบสวนได้ตรวจพบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งที่ลานจอดรถชั้น 7 บนผ้าเช็ดหน้ามีเลือดอยู่เต็มไปหมด และจากการตรวจสอบเลือดที่พบในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นกรุ๊ป o ทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าจากตัวอย่างที่เก็บได้มี Freons และน้ำมันเครื่องเจือปนอยู่ ตำรวจจึงสันนิฐานว่าผู้ก่อนเหตุอาจทำงานเกี่ยวข้องกับงานซ่อมบำรุงรถยนต์
ผ้าเช็ดหน้าที่พบในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่นิติเวชได้ตรวจสอบร่างของ Penney พบว่าเธอมีเลือดกรุ๊ป B ส่วนบาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ความตายคือบาดแผลบริเวณหน้าอก 2 แผล ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ จึงคาดการได้ว่าเลือดกรุ๊ป o ทั้งหมดที่พบในที่เกิดเหตุนั้นเป็นของผู้ก่อเหตุเอง
มีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด 5 คนในเหตุการครั้งนี้ โดยคนหนึ่งบอกกับทางตำรวจว่าเขาเห็นผู้ชายรูปร่างผอมวิ่งไล่ตามหญิงสาว ชายยคนนั้นมีผิวขาว อายุประมาณ 18-35 ปี มีอะไรบางอย่างพันอยู่ที่มือซึ่งดูเหมือนเขาจะได้รับบาดเจ็บ, ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนบอกว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งเข้าไปในรถด้วยสีหน้าตื่นตระหนกแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
พนังงานเก็บเงินตรงทางเข้าออกลานจอดรถซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่งได้บอกกับทางตำรวจว่าตอนที่ชายคนดังกล่าวออกจากลานจอดรถได้ยื่นบัตรจอดรถที่เปื้อนเลือดให้เขา รวมถึงเขายังเห็นว่ามือของชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บอยู่ เขาถึงได้เอ่ยถามออกไปว่าอยากให้เขาช่วยอะไรไหม แต่ชายคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาว่าไม่ต้อง
1
ลานจอดรถในยุคนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องจดเวลาเข้าออกด้วยลายมือของเขาเอง และโดยมากจะไม่ได้จดทะเบียนรถไว้ด้วย ทำให้ทำเบียนรถของชายคนดังกล่าวไม่ได้ถูกจดไว้เช่นกัน อีกทั้งตัวพนักงานในลานจอดเองยังต้องพบปะผู้คนมากมาย ทำให้จำหน้าชายผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวไม่ได้ โดยจำได้แค่ว่าเขาพูดติดสำเนียงสเปน
ภาพสเก็ตของคนร้าย
การสืบสวนดำเนินต่อไป จนในที่สุดตำรวจก็พบผู้ต้องสงสัยรายแรก เขามีชื่อว่า Phil Delieto โดยชายคนนี้เป็นอดีตคู่หมั้นของ Penney, โดยก่อนเกิดเหตุไม่นานพวกเขาทะเลาะกันครั้งใหญ่ ทำให้การแต่งงานซึ่งน่าจะเกิดขึ้นได้ถูกยกเลิก, ตำรวจได้เรียกตัว Delieto มา และเรียกผู้เห็นเหตุการณ์ทั้ง 5 คนมาชี้ตัว โดยทั้ง 5 คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Delieto นี่แหละที่เป็นคนร้าย แต่ตำรวจก็ได้มารู้ในภายหลังว่า Delieto แค่บังเอิญไปหน้าคล้ายคนร้ายตัวจริงเท่านั้น เพาะเขาไม่ได้มีเลือดกรุ๊ป O รวมถึงตอนเกิดเหตุเขามีหลักฐานที่อยู่ว่ากำลังรับประทานอาหารอยู่ในร้านบาร์บีคิวแห่งหนึ่ง
1
Phil Delieto (4)
หลังจากจับคนผิด คดีก็ได้หยุดชะงักลง สารวัตร George Mazzacane ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ มีความเห็นว่าคดีนี้อาจเป็นคดีทำร้ายร่างกายแบบไม่เจาะจง ซึ่งคดีในลักษณะนี้จะไขได้ยากมาก แม้จะมีหลักฐานมากมาย แต่เพราะขาดข้อมูลสำคัญทำให้คดีไม่มีความคืบหน้าเป็นเวลานาน
เวลาผ่านไป 11 ปีย่างรวดเร็ว ในปี 1984 ตำรวจได้สงสัยชายคนหนึ่งชื่อ Anthony Golino ซึ่งภรรยาของเขาเป็นเพื่อนของ Penney สมัยมัธยมปลาย ซึ่งเธอได้แจ้งความกับตำรวจว่า สามีของเธอขู่จะทำร้ายเธอ อีกทั้ง Golino ยังมีแผลเป็นยาวประมาณ 1 นิ้วที่มือซ้าย แต่หลังจากที่ตรวจเลือดของเขาแล้วก็พบว่าเขามีเลือดกรุ๊ป A ไม่ใช่ O ซึ่งก็หมายความว่าตำรวจจับคนร้ายผิดคนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
Anthony Golino
พ่อของ Penney ชื่อว่า John Serra เขาได้ขายโรงงานเล็กๆของตัวเองทิ้งหลังจากเกิดเหตุ และทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการตามหาคนร้ายที่ทำร้ายลูกสาวของเขา, เขาลงประกาศให้เงินรางวัลทางหนังสือพิมพ์ แต่เวลาผ่านไปเงินของเขาก็ร่อยหรอลง ผ่านไปหลาย 10 ปี ก็ยังไม่มีใครสามารถให้เบาะแสที่เป็นประโยชน์ได้
John Serra
ต่อมา John ได้ไปปรึกษานักสืบเชื้อสายจีนคนหนึ่งชื่อ Henry C.Lee ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญสำหรับคดีอาชญากรรมแบบนี้ ซึ่งทาง Henry ก็ได้รับทำคดีนี้ โดยสิ่งแรกที่เขาทำก็คือการพาทีมไปยังจุดเกิดเหตุ และจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
Henry C.Lee
ย้อนกลับไปวันที่ 16 กรกฏาคม ปี1973 ซึ่งเป็นวันหยุดของ Penny เธอจึงไม่ได้ไปทำงาน เธอขับรถ Buick สีฟ้าที่พ่อของเธอเพิ่งซื้อมาใหม่มาที่ Temple Street โดยตั้งใจว่าจะมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ในห้างสรรพสินค้าแถวนั้น โดยเธอได้นำรถไปจอดไว้ที่ชั้น 9 หลังจากนั้นก็มีชายแปลกหน้าบุกเข้ามาในรถ Penny นั้นตกใจมากและพยายามใช้มีดต่อสู้ป้องกันตัว ทำให้ชายคนกังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย Penny อาศัยจังหวะนั้นรีบหนีออกมาจากรถ และวิ่งออกไปพร้อมร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย แล้วเธอก็พยายามวิ่งหนีไปยังชั้นดาดฟ้า แต่ถูกคนร้ายตามทัน และลงมือแทงเธอ 2 ครั้งที่หน้าอก Penny ทรุดลงและเสียชีวิตอยู่ตรงนั้น ส่วนคนร้ายวิ่งกลับลงมาที่รถของเธอ และทิชชู่ 2-3 แผ่นไปปิดแผลที่มือซ้ายเอาไว้ แล้วจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองพันทับอีกชั้น
1
จากนั้นคนร้ายจึงขับรถบูอิคของ Penny ลงมาจากชั้น 9 ไปชั้น 8 จากนั้นจึงพยายามมองหารถของตัวเอง แต่เพราะเขาจำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ที่ชั้นไหนเขาจึงเดินหารถเขาลงมาเรื่อยๆจนถึงชั้นที่ 5 และสุดท้ายเขาก็นึกขึ้นได้ว่ารถของเขาอยู่ที่ชั้น 7 คนร้ายจึงได้เดินกลับขึ้นไป โดยก่อนที่เขาจะขับรถออกไป เขาได้อังเอิญทำผ้าเช็ดหน้าของเขาหล่นไว้ด้วย
ในยุค 70 นั้นยังไม่มีเทคโนโลยีการตรวจสอบ DNA ทำให้ไม่สามารถสืบสาตัวคนร้ายจากหลักฐานที่มีได้ แต่พอมาถึงสมัยที่ Henry ได้เข้ามาทำคดี เทคโนโลยีการตรวจสอบ DNA ได้เริ่มสุกงอมแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาคือหลักฐานเหล่านั้นถูกเก็บไว้เป็นเวลานานมากแล้ว ไม่แน่ว่าจะสามารถสกัด DNA ออกมาได้หรือไม่
Henry ได้ใช้เทคนิคเฉพาะตัวของเขา สกัดส่วนหนึ่งของ DNA จากผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็เก็บลายนิ้วมือจากกล่องทิชชู่ด้วยน้ำยาเคมีและเลเซอร์ โดยลายนิ้วมือที่เก็บได้มีความชัดเจนกว่าของตำรวจที่เก็บได้จากปี 70 มาก, จากนั้น Henry เขาจึงได้ทำการอัพโหลดลายนิ้วมือดังกล่าวขึ้นไปบนฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลี่คลายคดีให้ภายหลัง
ลายนิ้วมือของคนร้ายที่พบในที่เกิดเหตุ
เวลาผ่านไปอีกหลายปี ในฤดูร้อนปี 1994 มีผู้หญิงคนหนึ่งแจ้งว่าเอนั้นมีปัญหากับสามี โดยสามีของผู้หญิงคนนี้ชื่อ Edward Grant ทำงานเป็นช่างซ่อมรถที่อู่เมือง Waterbury ซึ่งอยู่ห่างจาก New Heaven ไป 20 กิโลเมตร โดยตามขั้นตอน Grant ได้ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ แล้วตำรวจก็ได้เก็บรอยนิ้วมือของเขา แล้วสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตำรวจพบว่าลายนิ้วมือของ Grant นั้นตรงกันกับลายนิ้วมือที่ Henry เก็บไว้เหมือยหลายปีก่อน
3
Edward Grant
John พ่อของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ได้ทุ่มเททุกอย่างในชีวิตของเขาไปกับการหาตัวผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายลูกสาวของเขา แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เขาถึงแต่กรรมไปก่อนด้วยอาการป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่ศาลจะตัดสินโทษแก่ Grant ถึง 8 ปี โดย Henry ได้เขียนเล่าในหนังสือของเขาว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของเขา John มักโทรหาเขาจากโรงพยาบาล และพูดกับเขาว่า “อย่าลืมลูกสาวของผมนะ” แต่แล้วไม่นาน John ก็ได้จากโลกนี้ไปก่อนที่จะได้เห็นผู้กระทำผิดได้รับโทษ
2
Part 3 : บทสรุป
24 เมษายน ปี1999 หรือ 26 ปีหลังเกิดเหตุการณ์ในลานจอดรถขึ้น Grant ในวัย 56ปี ถูกจับกุมที่บ้านของเขา และอีก3 ปีต่อมา คดีก็ดึขึ้นสู่ชั้นศาล โดย Grant ได้ว่าจ้างทนาย 3 คนเพื่อมาช่วยแก้ต่างในตัวเอง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งคือผ้าเช้ดหน้าพร้อมรอยเลือดที่พบในที่เกิดเหตุที่มี DNA ของ Grantอยู่ จากนั้น Grant จึงได้ยอมรับสารภาพ แต่เขาบอกว่าเขาแค่ต้องการขโมยรถเท่านั้น ไม่ได้ต้องการฆ่าใคร เขาพลั้งมือเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
1
Edward Grant ขณะสู้คดี
กันยายน ปี 2002 ศาลได้ประกาศคำตัดสินให้ Edward Grant มีความผิด ถูกจำคุกเป็นเวลา 20 ปี และห้ามประกันตัวก่อนอายุ 80 ปี แล้วคดีฆาตกรรมที่ค้างคามากว่า 29 ปีนี้ก็ได้คลี่คลายลง
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
11 มีนาคม 2022
1
โฆษณา