11 มี.ค. 2022 เวลา 08:42 • หนังสือ
การทำสมาธิวันละ5นาทีจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
เมื่อร่างกายและสมองไม่ได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากเพียงพอ ร่างกายและจิตใจก็จะเกิดความผิดปกติตามมา ดังนั้นเราจึงควรเริ่มจากการปรับท่าทางและการหายใจ โดยการยืดหลังให้ตรง และหายใจเข้าออกลึกๆเป็นประจำ
การทำสมาธิแบบจดจ่อจะช่วยขัดเกลาทักษะการจดจ่อ ทักษะการจำ และทักษะการตัดสินใจได้
หลักพื้นฐานในการทำสมาธิแบบนี้ประกอบไปด้วย3อย่าง คือ ปรับหลัง ปรับลม และปรับใจ
ปรับหลัง ก็คือการปรับท่าทาง ยืดหลังให้ตรง
ปรับลม ก็คือการปรับการหายใจ สูดลมหายใจเข้า5วินาที แล้วพ่นลมหายใจออกช้าๆประมาณ10-15วินาที
ปรับใจ ก็คือการปรับจิตใจ จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจจะเริ่มจากการจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตนเองก่อน จากนั้นลองนับจังหวะการหายใจเข้าออกของตัวเองไปเรื่อยๆ
แล้วทำไมการทำสมาธิแบบจดจ่อถึงทำให้ทักษะการจดจ่อ ทักษะการจำ และทักษะการตัดสินใจดีขึ้นล่ะ คำตอบคือ เมื่อเราทำสมาธิแบบจดจ่อ สมองส่วนหน้า หรือ พรีฟรอนทัล คอร์เท็กซ์ จะตื่นตัว ซึ่งสมองส่วนนี้ทำหน้าที่คิดทบทวน และเกี่ยวข้องกับทักษะการรับรู้ด้านต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้เรามีทักษะดังกล่าวดีขึ้นนั่นเอง
การทำสมาธิแบบสังเกต ช่วยให้เราคิดไอเดียดีๆได้ง่ายขึ้น
การทำสมาธิแบบนี้คือการไม่วิเคราะห์ความคิด ความรู้สึกต่างๆขณะทำสมาธิ แต่จะสังเกตและรับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งต่างจากสมาธิแบบจดจ่อที่เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เวลาที่ทำสมาธิแบบสังเกต เราจะต้องนึกภาพเกี่ยวกับสิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองของเราไปด้วยโดยที่ไม่ต้องวิเคราะห์อะไร การนึกภาพความคิดหรือความรู้สึกจะช่วยไม่ให้เราคิดเรื่องที่ไม่จำเป็นขณะทำสมาธิได้
การทำสมาธิแบบสังเกตจะให้ผลลัพท์ที่ต่างจากแบบจดจ่อเนื่องจากเมื่อทำสมาธิแบบจดจ่อจะทำให้ DMN (ส่วนที่มีบทบาทในการเชื่อมโยงความรู้สึกหรือความทรงจำในอดีต)ทำงานน้อยลง แต่การทำสมาธิแบบสังเกตจะทำให้ DMN ทำงานมากขึ้น (เนื่องจากสมองผ่อนคลาย) ดังนั้นจึงทำให้เรานึกไอเดียใหม่ๆได้ง่ายมากขึ้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา