11 มี.ค. 2022 เวลา 13:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⭐ สรุป Oppday PDJ Q4/2021 ⭐ : รายได้ Q4 1,017 ลบ. เพิ่มขึ้น 31% จากยุโรป อมริกาขายดี และปิดสาขาและยกเลิกตัวแทนจำหน่ายที่ไม่ทำกำไร ทำให้มีกำไร 58 ลบ. เติบโตขึ้น 2,412%%
Published: 11 MAR 2022
สวัสดีครับวันนี้พบกับ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือใช้ตัวย่อในตลาดว่า PDJ ซึ่งประกอบธุรกิจหลักผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ตัวเอง เช่น "PRIMA" และรับจ้าง OEM โดยผลการดำเนินงานในปี 2021 สามารถสร้างรายได้ 2,900 ลบ. เพิ่มขึ้น 18% และทำกำไรได้ 138 ลบ. เติบโต 245%
🚩1. ลักษณะธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตจัดจำหน่ายและค้าปลีกครื่องประดับเป็นหลัก จำหน่ายใต้แบรนด์ตัวเอง เช่น “PRIMA”, “GEMODO” และปัจจุบันยังเป็นผู้นำด้านการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีของไทยซึ่งมีการกระจายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคที่สำคัญของโลก อันได้แก่ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย
◼️Production Base◼️
▪ มี 4 โรงงานใน 3 ประเทศ
▪ มีกำลังการผลิตมากกว่า 4 ล้านชิ้นต่อปี
▪ มีช่างฝีมือ ช่างพัฒนาต้นแบบ และดีไซเนอร์ รวมกว่า 2,500 คน
◼️ Retail Base◼️
▪ ขายภายใต้แบรนด์ PRIMA เป็นหลัก
▪ ไทยและเวียดนาม เน้นขายกลุ่มแบรนด์ PRIMA ผ่าน Offline Store
▪ อังกฤษ เน้นขายแบรนด์ Gemodo ผ่าน www.gemondo.com และ E-Marketplace
◼️Distribution Base◼️
▪ ทำตลาดในอินเดีย
🚩2. ภาพรวมและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
◼️ภาพรวมปี 2021◼️
✔ รายได้รวม 2,900 ลบ. เพิ่มขึ้น 18% โดยหลักๆจะมาจากยอดขายจากฝั่ง Production Base สูงขึ้น 43% แต่ฝั่งรายได้ Rertail Base ลดลง 23% จากการปิดเมือง และฝั่ง Distribution Base มียอดขายลดลง 12% จากการปิดบริษัทย่อยในอังกฤษและอมริกา ทำให้สัดส่วนรายได้ของ Production Base อยู่ที่ 74%, Retai Base 22% และ Distribution Base 4%
✔ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในภาพรวมอยู่ที่ 24.7% เพิ่มขึ้น 1.4 ppt (Percentage Point) จาก Production Base ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17% (+2 ppt) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนของ Retail Base ขึ้นมาอยู่ที่ 42% (+2 ppt) เนื่องจากปีที่แล้วมีการทำโปรชันค่อนข้างเยอะ และในส่วนของ Distribution Base ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 39% (+18 ppt) จากการทำตลาดในอินเดียประเทศเดียว
ดังนั้นในปี 2022 น่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
✔ ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sale) ลดลงจาก 27.5% ในปี 2020 เหลือ 20.4% ในปี 2021 จากการ Distrubution Base ในอังกฤษและอเมริกาและลดค่าใช้จ่ายในการขายและบรหารใน Retail Base
✔ จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 31% เมื่อเทียบกับปี 2020 ทำให้ทำกำไรได้ 138 ลบ. เพิ่มขึ้น 245% (รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 77 ลบ. และรายการได้ที่เกิดจากการปรับแผนทางธุรกิจที่อเมริกาใน Distribution Base 58 ลบ.)
✔ งบกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมา 300 ลบ. และนำเงินไปชำระหนี้ทั้งหมดอีก 178 ลบ. จากตั๋วแลกเงิน 50 ลบ. การไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพ 35 ลบ. คืนเงินกู้ 93 ลบ.
◼️ภาพรวมปี Q4/2021◼️
✔ รายได้รวม 1,017 ลบ. เพิ่มขึ้น 31% โดยหลักๆจะมาจากยอดขายจากฝั่ง Production Base ที่มีสัดส่วนการขาย 74% ขายดีขึ้น 45% จากลูกค้าในยุโรปและอมริกา ส่วนฝั่งรายได้ Retail Base ที่มีสัดส่วนการขาย 23% ขายดีขึ้น 6% จากการยกเลิกการปิดเมืองในไทยและเวียดนาม และรายได้ฝั่ง Distribution Base ซึ่งคิดเป็นยอดขาย 3% ปรับตัวลดลง 14% จาการยกเลิกทำการตลาดในอังกฤษและอเมริกา ส่วนในอินเดียยอดขายเริ่มกลับมา
✔ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในภาพรวมอยู่ที่ 23.7% ลดลง 1.8 ppt (Percentage Point)
✔ ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sale) ลดลงจาก 27.3% ใน Q4/2020 เหลือ 15.5% ใน Q4/2021 จากการลก Distrubution Base ในอังกฤษและอเมริกา
✔ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 23% เหลือ 8 ลบ. เมื่อเทียบกับปี 2020 ทำให้ทำกำไรได้ 58 ลบ. เพิ่มขึ้น 2,412% (รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 39 ลบ. และรายการได้ที่เกิดจากการปรับแผนทางธุรกิจที่อเมริกาใน Distribution Base 31 ลบ.)
🚩3. แผนงานในอนาคตและการเติบโต
◼️Core Business◼️
✔ เน้น Distribution Pranda ในอินเดียโดยขายแบรนด์ PRIMA เป็นหลักและยุบ Rental Base และ Distribution Base ให้เป็น Omnichannel Distribution Base ส่วน Production Base ยังเหมือนเดิม
◼️Production Base◼️
✔ เน้นในการเป็นพาร์ทเนอร์หลักกับ Affordable Fine Jewelry Brand โดยที่ผ่านมามีการเติบโตของยอดขายและมาจาก Catalyst ของโควิดที่ทำให้ช่องทางการขายของลูกค้า Social Commerce เติบโต นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ในการหาฐานลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเสริมขึ้นเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเนื่องจากสินค้าส่วนมากเป็นธุรกิจในกลุ่ม Fashion
✔ ใน Q3/ Q4 Order จะเกินกำลังการผลิตโดยปีนี้มีแผนจะเกลี่ยมาลง Q1 / Q2 ให้มากขึ้น
✔ บริษัทมี Order on Hand ใน เดือน Dec21 Jan22 Feb 22 สูงขึ้นเฉลี่ย 40 %
✔ ณ ตอนนี้ Q1/ Q2 ยังมีแผนใช้การผลิตได้ไม่เต็มที่ โดยการผลิตของ Q1 คาดว่าจะจบกว่าสูงกว่าที่วางเอาไว้
✔ คาดว่า Target ทั้งปี 2,300 ลบ. และเฉพาะ Q1 น่าจะสูงขึ้นในระดับ Double-Digit
◼️Omnichannel Distribution Base◼️
✔ เน้นแบรนด์ PRIMA ที่ทำตลาดในไทย เวียดนาม และอินเดีย ส่วนแบรนด์ GEMONDO เน้นทำตลาดใน UK
✔ ในส่วนของ Prima Gold, Prima Diamond, Prima Art จะออก Collection ใหม่จับกลุ่มตลาดใหม่ เช่น จับตลาดแหวนแต่งงานหรือแหวนคู่ และจับฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงที่มีประวัติการซื้ออกับ PRIMA และอื่นๆ
✔ ทำ Customer Centric ผ่านช่อง Social, Lazada, Shopee และหน้าร้าน
✔ จับมือกับ Key Partner ต่างๆ เช่น Central, The Mall, Siam Paragon, Robinson, The WISDOM, Lazada, Shopee, Shop at 24
✔ Prima Art: ในอินเดียจะเป็นแบบตั้งตัวแทนจำหน่ายแบบมีหน้าร้านโดยใช้วิธีการขยายไปในเมือง และทำแบรนด์ภายในร้านอินเดีย และจะทำตลาด E-Commerce ทีอินเดีย นอกจากมียังมีการทำ Local Production และเพิ่ม Capacity 2-3 เท่าภายในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น โดยตอนนี้มีตัวแทนจำหน่าย 1,234 ร้านค้า และยังเห็นโอกาสในการขยายๆเพิ่มได้อีกเยอะ
✔ GEMONDO: คาดว่าจะขยาตลาดใหม่ในยุโรปได้มากขึ้น และควบคุมต้นทุนหลังบ้านและ 3PL logistics ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยอดขาย 1 ใน 3 ของ GEMONDO มาจาก Markletplace เช่น Amazon, Ebay, Wold and Badger
✔ คาดการรายได้ทั้งปีในไทย 830 ลบ. เวียดนาม 70 ลบ. เฉพาะในเวียดนามคาดว่า Q1 น่าจะต่ำกว่า Target 20% เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่กลับมา ส่วนในอินตั้งเป้าไว้ 130 ลบ. และใน UK 100 ลบ.และในเฉพาะใน UK ใน Q1 น่าจะต่ำกว่า Target 15%
✔ สรุปตั้งเป้ายอกขาย 1,130 ลบ. โดยคาดว่าจะจบ Q1 ได้ต่ำกว่า Target นิดหน่อย
🚩4. ข้อมูลอื่นๆ จาก Section Q&A
◼️GPM◼️
✔ GPM ใน Q3/2021 สูงกว่าปกติเนื่องจาก Q2/2021 GPM Drop ลงผิดปกติ ทำให้ต้นทุนไปกองใน Q2/2021 เยอะ
◼️เงินเฟ้อ◼️
✔ การขึ้นราคา PRIMA ไม่ได้ปรับตามราคาทองประจำวันแต่จะดูต้นทุนจองราคาทองคำเฉลี่ยแล้วค่อยพิจารณาว่าต้องปรับไหม
✔ ต้นทุนเพชรทอง ส่งผ่านให้ลูกค้าฝั่ง Production ได้ และ PRIMA เพิ่งปรับราคาขึ้นไปตอนปลาย Q4/2020
◼️อื่นๆ◼️
✔ กลยุทธ์ให้ Bottom line มีกำไรทุกไตรมาส คือ ต้อง Balance ยอดขายในครึ่งปีแรกให้ได้
✔ ยอดขายต่ำกว่า Capacity Level ที่ประมาณ 80% ก็ไม่ขาดทุน
✔ สงครามยูเครน ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ถ้ายืดเยื้ออาจได้รับผลกระทบจากจำนวน Order ที่น้อยลงได้
✔ ที่ดินในการลงทุนยังไม่เร่งที่จะขายเพราะผลการดำเนินการของบริษัทดีขึ้น และยังไม่มี Offer เข้ามาที่ชัดเจน
✔ ภาษีขายในอินเดียที่มีปัญหากับทางสรรพากร โดยเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมาหลายปี และคาดการว่าไม่น่ามีผลกระทบที่ต้องทำการตั้งสำรองและ Auditor ไม่คิดว่ามีความเสี่ยงสูง
✔ การปันผลระหว่างปีอาจจะมีถ้ามีกำไรต่อเนื่อง
✔ แบรนด์ที่บริษัทผลิตให้ไม่อาจเปิดเผยข้อมูลได้แต่เป็นเครื่องประดับทองแท้ เงินแท้ อยู่ในช่วงราคา 25 USD - 250 USD และขายในไทยหลายแบรนด์
✔ บริษัทไม่ได้ Order จากบริษัทโรงานอื่นที่ปิดตัวเนื่องจากโรงงานอื่นมีฐานลูกค้าค่อนข้างเล็ก
💡 Key Takeaways
▪ กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทกลับมาเป็นบวกชัดเจน 2 ไตรมาสติด โดยยืนเหนือเกิน 80 ลบ. มา 2 ไตรมาสติดซึ่งสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส (เท่าที่แอดมีข้อมูลนะครับ)
▪ ในฝั่ง Production Base: Demand ชอบ Peak Q3, Q4 ทำให้ Over Capacity โดยปกติ Q1,Q2 ใช้ Capacity ไป 70% - 75% และ Q3, Q4 ใช้ Capacity ไป 120 - 125% นอกจากนี้บริษัทต้องใช้ฐานแรงงานที่มีฝีมือมาก และถ้ามีการเปลี่ยนลูกค้าใหม่จะทำให้ GPM ดรอปลงเพราะพนักงานต้องใช้เวลาในการเทรนสำหรับสินค้าใหม่ๆ
▪ ส่วนในฝั่ง Omnichannel Distribution Base: บริษัทลดค่าใช้จ่ายโดยปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรออกไปในปีก่อนๆ และเน้นการขายแบบมีตัวแทนจำหน่ายในอินเดียเป็นหลัก ซึ่งปีที่แล้ว 3 ไตรมาสแรกขายดีจนของไม่พอขาย ซึ่งปีนี้บริษัทเลยเพิ่ม Local Production ในอินเดียเพื่อรับกับความต้องการ ส่วนถ้าสถานการณ์โควิดดีขึ้นน่าจะเห็นยอดขาย Retail ที่สูงขึ้นในปีนี้
▪ ในยุโรปบริษัทเน้นขาย Online โดยเริ่มจาก UK เป็นหลัก และเริ่มตีตลาดเพิ่มเข้าไปในแต่ละประเทศในกลุ่มยุโรป
▪ ปีนี้จะไม่มีรายได้จากการปิดสาขาในอมริกาเข้ามาช่วยแล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นที่ดึงบริษัทขาดทุน บริษัทก็เคลียร์แทบจะไปหมดแล้ว เหลือแค่กำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างส่งผลกับกำไรของบริษัทในภาพรวมค่อนข้างมาก
▪ สิ่งที่ควรระวังคือ ยอดขายจะกลับมาโตได้ต่อเนื่องรึเปล่า เพราะฝั่งต้นทุนบริษัทก็พยายามปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายน้อยลงกว่าปี 2020 มาก โดยถ้าสังเกตุจะพบว่ายอดขายกลับมาจาก Social Commerce ของกลุ่มแบรนด์ Affordable Fine Jewelry และสินค้าพวกนี้แอดมองว่าเป็นสินค้าแฟชันที่ต้องมีการปรับ Design ใหม่ๆ ถ้ายังสามารถกระตุ้นให้บริโภคซื้อได้เรื่อยๆ PDJ ยังรักษารายได้ฝั่ง Production ได้เรื่อยๆ ส่วนในอินเดียถือว่าเป็นตลาดใหญ่มากซึ่งถ้าบริษัทตัวแทนจำหน่ายขายดีเรื่อยๆ กำไรของบริษัทก็จะโตขึ้นเรื่อยๆเช่นกันครับ
--------------------------------------------------------
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบการสรุปของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
สามารถฟัง Oppday ตัวเต็มได้ที่ ▶️
#OpportunityDay #OppdayQ42021 #PDJ
โฆษณา