✔ รายได้รวม 2,900 ลบ. เพิ่มขึ้น 18% โดยหลักๆจะมาจากยอดขายจากฝั่ง Production Base สูงขึ้น 43% แต่ฝั่งรายได้ Rertail Base ลดลง 23% จากการปิดเมือง และฝั่ง Distribution Base มียอดขายลดลง 12% จากการปิดบริษัทย่อยในอังกฤษและอมริกา ทำให้สัดส่วนรายได้ของ Production Base อยู่ที่ 74%, Retai Base 22% และ Distribution Base 4%
✔ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในภาพรวมอยู่ที่ 24.7% เพิ่มขึ้น 1.4 ppt (Percentage Point) จาก Production Base ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17% (+2 ppt) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนของ Retail Base ขึ้นมาอยู่ที่ 42% (+2 ppt) เนื่องจากปีที่แล้วมีการทำโปรชันค่อนข้างเยอะ และในส่วนของ Distribution Base ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 39% (+18 ppt) จากการทำตลาดในอินเดียประเทศเดียว
✔ เน้น Distribution Pranda ในอินเดียโดยขายแบรนด์ PRIMA เป็นหลักและยุบ Rental Base และ Distribution Base ให้เป็น Omnichannel Distribution Base ส่วน Production Base ยังเหมือนเดิม
◼️Production Base◼️
✔ เน้นในการเป็นพาร์ทเนอร์หลักกับ Affordable Fine Jewelry Brand โดยที่ผ่านมามีการเติบโตของยอดขายและมาจาก Catalyst ของโควิดที่ทำให้ช่องทางการขายของลูกค้า Social Commerce เติบโต นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ในการหาฐานลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเสริมขึ้นเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเนื่องจากสินค้าส่วนมากเป็นธุรกิจในกลุ่ม Fashion
✔ ใน Q3/ Q4 Order จะเกินกำลังการผลิตโดยปีนี้มีแผนจะเกลี่ยมาลง Q1 / Q2 ให้มากขึ้น
✔ บริษัทมี Order on Hand ใน เดือน Dec21 Jan22 Feb 22 สูงขึ้นเฉลี่ย 40 %
✔ เน้นแบรนด์ PRIMA ที่ทำตลาดในไทย เวียดนาม และอินเดีย ส่วนแบรนด์ GEMONDO เน้นทำตลาดใน UK
✔ ในส่วนของ Prima Gold, Prima Diamond, Prima Art จะออก Collection ใหม่จับกลุ่มตลาดใหม่ เช่น จับตลาดแหวนแต่งงานหรือแหวนคู่ และจับฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงที่มีประวัติการซื้ออกับ PRIMA และอื่นๆ