12 มี.ค. 2022 เวลา 02:07 • สุขภาพ
12 มีนาคม 2565 ยอดผู้ติดเชื้อชะลอตัวลง แต่ยอดผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เกิดอะไรขึ้น ?
2
โควิดระบาดระลอกที่สี่ของประเทศไทย เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565
โดยมีไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน เป็นสายพันธุ์หลักแทนไวรัสเดลต้าซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของระลอกที่สาม
ที่ผ่านมา ด้วยความสามารถของไวรัสโอมิครอนที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าไวรัสเดลต้า 4-8 เท่า
จึงทำให้การติดเชื้อในระลอกนี้ มีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าระลอกที่แล้วชัดเจน
จากความรู้ทางวิชาการ ในช่วงแรกของการระบาดพบว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งคือ BA.1
1
ต่อมาเริ่มพบสายพันธุ์ย่อยที่สอง BA.2 ในประเทศไทย ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่า BA.1 อีก 40%
จึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยยังคงขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง และคงจะสูงขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเข้าถึงจุดสูงสุดหรือพีคของระลอกนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้พบไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ที่แยกออกจากสายพันธุ์ย่อยที่สองเรียกว่า BA.2.2 ที่ฮ่องกง
และเกิดปรากฏการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในฮ่องกงเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ ซึ่งมีเพียงสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2
1
จึงทำให้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าสายพันธุ์ย่อยใหม่ BA.2.2 น่าจะมีความสามารถในการแพร่ระบาดและทำให้เกิดความรุนแรงสูงกว่า สายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2
ส่วนจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้ใช้เครื่องช่วยหายใจของประเทศไทย พบจำนวนสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวอยู่
เป็นประเด็นที่จะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไปว่า ทำไมจึงมีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น
ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2.2 เข้ามาในประเทศไทยแล้วหรือยัง ถ้าเข้ามาแล้ว อาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดลักษณะดังกล่าวขึ้น
ถ้าไวรัส BA.2.2 ยังไม่ได้เข้ามาหรือมีจำนวนน้อยมาก การกำหนดมาตรการเพื่อรับมือสายพันธุ์ BA.2.2 จึงน่าจะเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ เช่น การห้ามหรือการเข้มงวดผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงในช่วงนี้จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าที่ฮ่องกงเกิดอะไรขึ้น
รวมตลอดถึงการเร่งตรวจหาสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ในประเทศไทย และกำหนดมาตรการรักษาตัวหรือกักตัวให้เข้มงวดขึ้นสำหรับกลุ่มดังกล่าว เพื่อไม่ให้ออกไปแพร่เชื้อได้
วันนี้ 12 มีนาคม 2565
ติดเชื้อเพิ่ม 24,592 ราย
ติดในระบบ 23,712 ราย
ติดจากตรวจเชิงรุก 677 ราย
ติดในสถานกักตัว 52 ราย
ติดในเรือนจำ 151 ราย
สะสมระลอกที่สี่ 937,806 ราย
สะสมทั้งหมด 3,161,241 ราย
หายป่วยกลับบ้านได้ 21,371 รายสะสมระลอกที่สี่ 742,953 ราย
รักษาตัวอยู่ในระบบ 226,151 ราย
โรงพยาบาลหลัก 66,089 ราย
โรงพยาบาลสนาม 59,984 ราย
แยกกักตัวที่บ้าน 98,756 ราย
อาการหนัก 1312 ราย
ใช้เครื่องช่วยหายใจ 435 ราย
เสียชีวิต 68 ราย
สะสมระลอกที่สี่ 1948 ราย
สะสมทั้งหมด 23,643 ราย
ติดเชื้อเข้าข่าย 20,385 ราย
สะสมระลอกที่สี่ 702,631 ราย
ติดเชื้อรวม 44,977 ราย
สะสมระลอกที่สี่ 1,640,437 ราย
Reference
ศูนย์ข้อมูล โควิด-19
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
โฆษณา