13 มี.ค. 2022 เวลา 03:58 • ท่องเที่ยว
บ้าน ป่า ฮาลา บาลา
จุดชมวิว ผาหินโยก
ตามหลักที่ถูกต้อง คำว่า “ฮาลา” จะใช้เรียกผืนป่าเริ่มต้นจากจังหวัดยะลา ส่วนป่า “บาลา”จะใช้เรียกผืนป่าที่มีแนวเขตเริ่มต้นจากจังหวัดนราธิวาส ซึ่งทั้งสองชื่อนี้หมายถึงป่าผืนเดียวกัน
เรามาถูกทางละ เดินทางต่อจากปัตตานีเพื่อเข้าป่าทางจังหวัดยะลา
ป่าฮาลา-บาลา เป็นเทือกเขาสลับทับซ้อน และเป็นป่าดิบชื้นผืนใหญ่สุดท้ายที่คงความอุดมสมบูรณ์เพียงแห่งเดียว ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพื้นที่ประมาณ 390,000ไร่ และยังเป็นแหล่งต้นน้ำหล่อเลี้ยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
บรรยากาศในผืนป่าฯ
มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปจนถึงอำเภอสุคิริน อ้าเภอแว้ง อำเภอจะแนะ และอ้ำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ซึ่งติดกับแนวเขตชายแดนประเทศมาเลเซีย
เช้านี้เรามีนัดกับสารถี ผู้ประสานงาน แอดมินเพจ เจ้าของภัตตาคารน้อยๆ เค้านั้นละ ทั้งหมดคนเดียวกัน น้องหลิงปิง
น้องเป็นคนรุ่นใหม่ รักบ้านเกิด ความคิดพึ่งพาทรัพย์ที่มีในชุมชนอย่างรู้ค่า
ก่อนเดินทางเข้าที่พัก อีกหนึ่งสถานที่ๆไม่ควรพลาดแวะชม เพราะเป็นส่วนหนึ่งให้พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างอุดมสมบูรณ์ น้ำสำหรับการเพาะปลูก ไฟฟ้าสำหรับความสะดวกในชีวิตประจำวัน
เขื่อนบางลาง ตั้งอยู่ใน ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นมาเพื่อกั้นกลางแม่น้ำปัตตานี
ซึ่งที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2519 แล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2524 ลักษณะของเขื่อนจะเป็นหินทิ้งแกนดินเหนียว
หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา ๙
ด้วยความที่ฮาลาบาลา มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก เป็นป่าดิบชื้น ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความชื้นตลอดทั้งปี พืชพันธุ์ สัตว์ป่ายังสมบูรณ์มาก
ตรงนี้ คือปลายทางที่เราตั้งใจมามาก นึกอยากมาสัมผัสความดิบแดนใต้ ก็ต้องเป็นหมู่บ้านนี้ละค่ะ
ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่อยู่ในผืนป่าฮาลาบาลา ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่หวาย อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เป็นชุมชนประวัติศาตร์ ที่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย
หมู่บ้านที่มองไปทางไหนก็สบายตา มีน้ำ มีป่า มีสัตว์และมีกลิ่นอายแห่งความภาคภูมิใจของบรรพชนอยู่เต็มพื้นที่
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
ด้านในจัดแสดงเรื่องราวของคอมมิวนิสต์มลายา เครื่องใช้รักษา เครื่องมือสื่อสาร และความอดทนในการต่อสู้ของบรรพบุรุษ ผ่านเสียงเล่า แววตาของอาม่าผู้ถ่ายทอดได้สมจริง เพราะเธอเป็นหลักฐาน พยานที่อยู่ในเหตุการณ์จริง
ยามบ่ายคล้อย ที่คล้อยนี้คือฝนนะค่ะ อยู่ที่นี่เอาแน่นอนไม่ได้นะ อย่าล้อเล่นกับธรรมชาติ พออากาศดีให้รีบเดินทางเลย
ตอนออกตัวนั่งเรือล่องอ่างเก็บน้ำจากการสร้างเขื่อนบางลางนั้น ฟ้ากับแดดนี่นัดกันมาทำงานมาก
พอล่องเรือมาถึง คลองน้ำใส จุดที่หลายคนจะเลือกจอดและลงไปเล่นน้ำกัน เรือจอดปุ้บ ฝนโปรยทันที
พอกลับเข้าที่พักได้ อาบน้ำ เดินไปทานอาหารเย็น พักผ่อนออมแรง พรุ่งนี้ต้องล่าหมอกกันแต่เช้าตรู่
ตีห้าตรง น้องหลิงปิง ก็เอารถมาจอดรอหน้าที่พัก พวกเราขับย้อนออกไปอีกหมู่บ้าน ราว 20 นาทีปิงก็บอกถึงแล้วครับพี่ พร้อมมั้ย
ห่ะ ไหนทางขึ้น ปิงชี้ นั่นไง มองยังไงก็ริมถนนธรรมดาที่ด้านบนเป็นเขาสูง ไม่มีช่อง ไม่เห็นทาง แต่ยังง่วงไง เลยไม่อยากงอแง ตอบปิงว่า ป่ะ...พร้อมมาก เดินนำเลยน้อง จำได้ว่าก้าวแรกก็ก้าวขึ้นเขาเลยอ่ะ ไม่มีเห็นใจ และก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ราว 800 เมตร รู้แต่หยุดหอบ 2 เฮือก พอถึงจุดหมาย พื้นรองเท้าก็ขอเป็นอิสระกับตัวรองเท้าซะงั้น
ลานหินโยก จุดชมวิวทะเลหมอกผืนป่าฮาลาบาลา
เอาเป็นว่าตั้งแต่ตื่นเช้า ก้าวขึ้น ดึงตัวเองขึ้นไปยืนบนนั้นได้ และเดินกลับลงมาที่รถ รักน้องหลิงมากขึ้น ก็ตอนพาพวกเราไปเติมความอิ่มที่ร้านค้าเล็กๆ ริมทาง แต่บรรยากาศอบอุ่นมาก
เช้านี้ กาแฟ โรตี ข้าวเหนียวและข้าวยำ
ช่วงสายเรามีนัดกับน้องโก้ ผู้จะมาเป็นพรานพาเราเดินลุยดงทากเข้าป่ากันวันนี้ ใช่จ้ะ ไม่ต้องสงสัยว่าจะเจอน้องทากมั้ย เมื่อวานฝนตก แค่ลุ้นว่าจะต้องแกะออกกันถี่แค่ไหนพอ
น้องโก้
เราขับรถผ่านหมู่บ้านเข้าไปสัก 15 นาที แล้วเริ่มเดินเท้าเข้าไป เป็นเส้นทางทวนเข็มนาฬิกา ผ่านไม้เล็ก ไม้ใหญ่ สมุนไพร ลำธาร บอนสี และหยุดพักกันที่น้ำตกฮาลาซะห์
โดยตลอดเส้นทางพวกเราใช้สติและสมาธิสูงมาก นอกจากหูก็ตัองฟังข้อมูลกับน้องโก้ ปากก็สนทนาตั้งคำถามกันตลอดทางแล้ว ตายังไม่ละวางจากพื้นและรองเท้าเพื่อมองหาน้อนทาก ที่ชอบดีดตัวเข้าหาตลอดเวลา
ลูกกระเทียม หล่นใต้ต้นเต็มไปหมด อันนี้ชอบและใช่ที่สุด คือแกะออกได้กลิ่นกระเทียมคลุ้ง นึกถึงส้มตำซะงั้น
น้ำตกฮาลาซะห์ ชื่อน้ำตกก็มีที่มาจากป่าฮาลานั้นเอง ความสูงราว 100 เมตร เป็นน้ำตกของหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านหวงแหน ดูแล ห่วงใยเป็นพิเศษ ถือเป็นต้นน้ำ เป็นประปาหมู่บ้านที่น้ำเต็มก็ปิดก๊อกน้ำที่บ้านไม่ไดั เพราะจะเกิดแรงกดดัน ให้มวลน้ำดันท่อส่งน้ำแตกได้
จากที่ลุยมาแต่เช้าตรู่ ได้เวลาพักร่าง นั่งชิลล์กับภัตตาคารบ้านป่า ที่ได้อารมณ์ดิบแต่สุขมาก
ฝายเล็กๆ หลังร้าน
บรรยากาศยามค่ำ (ชุดนี้ขอยืมจากเพจน้องหลิงมา) เพื่อการโปรโมทให้น้องจ้าา
แต่ที่น่าประทับใจอีกแล้ว เมนูอันหากินไม่ได้ง่ายๆ แม้แต่คนที่หมู่บ้านเพราะไม่ค่อยมีใครหากันแล้ว ....ปลากระโดดทอดกรอบ...
เป็นอันว่า ค่ำคืนที่ได้พักในหมู่บ้าน ประทับใจพวกพี่มาก ได้เยอะกว่าที่คาดหวัง แถมจะขอพักต่ออีกคืน ด้วยความห่วงใยจากน้องหลิง กลัวพี่ๆ เหงาเลยนำเสนอให้เราปรับแผนที่พักคืนนี้เถอะ ไปนอนอีกหมู่บ้านดีกว่าครับ....เฮ้ยยย น้องทำไมมันวิวดีอีกแล้ว
ที่พักใหม่ หมู่บ้านสันติ
Bye ก่อน ครั้งนี้พี่ยังไม่ได้คุยกับนกเงือกเลย ไว้มีโอกาสพี่จะมาเยือนอีก
ว๊าาา งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกราฉันใด เมื่อคุณเดินทางเข้าป่า ก็ต้องถึงเวลาออกมาเผชิญเมืองอีกครั้ง ฉันนั้น ...ไม่อยากออกเล้ย
แล้วเจอกันบนผืนป่าสาละวินแบบไม่ได้ตั้งใจ
โฆษณา