12 มี.ค. 2022 เวลา 08:44 • ธุรกิจ
การกู้เงินไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความกล้าค่ะ มันเกี่ยวกับการประเมินขุมพลังในการรองรับความเสี่ยง เพื่อให้ผู้ปล่อยกู้ประเมินขุมพลังที่ว่านั้น ว่าในอนาคตหากปล่อยกู้ไปแล้ว จะได้หนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนแน่ๆ แต่ถ้าไม่ได้คืน ผู้ปล่อยกู้ก็ยังสามารถสืบทรัพย์ตามเอาคืนได้ตามกฎหมาย เถ้าแก่จะเอาทรัพย์ไปซุกที่ไหนก็ตามเถอะ ถ้าไม่มีเงินจ่ายคืนเจ้าหนี้ เขาก็จะตามสืบจนเจอ เมื่อเจอทรัพย์เขาก็จะตามอายัดทรัพย์นั้น เพื่อขายทอดตลาด เอาเงินคืนได้อยู่ดีค่ะ แม้ไม่ทั้งหมดก็แต่บางส่วนไปก่อน
มาว่ากันที่ขุมพลัง ว่าเราหมายถึงอะไร มันก็คือสินทรัพย์ และหรือเครดิตของผู้กู้ค่ะ (คำว่าเครดิตผู้กู้ ผู้ปล่อยกู้เขาก็จะขอดูฐานะการเงินของกิจการ ว่าขายดีไหม ว่ากระแสเงินสดคล่องตัวดีไหม มีทรัพย์สินอื่นอีกไหม อาทิเช่น อาคาร โรงงาน โรงเรือน ที่ดิน ฯลฯ และเหล่านี้ก็เป็นหลักประกันให้ผู้ปล่อยกู้มั่นใจว่า ถ้าไม่มีเงินจ่ายหนี้ ก็สามารถตามอายัดและขายทอดตลาดได้ไงคะ) หากคุณนำเข้าเครื่องจักรราคาร้อยล้านพันล้าน ก็ตัวของเครื่องจักรเองนั่นแหละที่เป็นสินทรัพย์ เป็นหลักประกันขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อเครื่องจักรค่ะ (ซึ่งคุณได้ประเมินแล้วว่า แหมนี่ถ้าได้เครื่องจักรมานะ ผลิตทันขายแน่นอน กำลังซื้อเยอะโคตรๆ) ซึ่งถ้าอนาคตคุณไม่จ่ายคืนหนี้ ผู้ปล่อยกู้ก็ตามอายัดเครื่่องจักร ขายทอดตลาดก่อนเลยค่ะ ถ้ายังได้เงินไม่ครบ ก็ใช้สิทธิเจ้าหนี้เพื่ออายัดทรัพย์อื่นๆ ต่อไปจนกว่าจะครบค่ะ
กิจการไม่ว่าใหญ่เล็ก มีหนี้ทั้งหมดแหละค่ะ อยากรวยต้องยอมเป็นหนี้ค่ะ คุณต้องไปศึกษาเรื่องบัญชีการเงิน และสินเชื่อเพื่อธุรกิจประเภทต่างๆ จนเมื่อวิชาแก่กล้าคุณจะพบว่าหนี้มันมีประโยชน์ อภิมหาเศรษฐีระดับโลก เลือกจะเป็นหนี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ เพียงแต่พวกเขาเลือกจะเป็นหนี้เพื่อธุรกิจ ไม่ใช่หนี้เพื่อการบริโภคแบบมนุษย์เงินเดือน หรือคนธรรมดาทั่วไปค่ะ
ยาวไปไหมคะ ถ้ายาวไปก็ขออภัยนะคะ เราแค่อยากช่วยให้เข้าใจง่ายๆ แต่ก็กังวลว่าจะเข้าใจอะไรผิวเผินเกินไปค่ะ
โฆษณา