13 มี.ค. 2022 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
'เบียร์ช้าง-ไฮเนเก้น' ขึ้นราคา เรทขยับ 1-6 บาท ต่างจังหวัดขายปลีกสุดแพง!
เบียร์จะขึ้นราคา ต้องแจ้งเสียภาษีสรรพสามิตล่วงหน้า 15 วัน เดือนกุมภาฯ จึงมีสะพัด "น้ำเมา" จ่อขึ้นราคาขาย มีนาคม "เบียร์ช้าง-ไฮเนเก้น" ได้ฤกษ์ขายราคาใหม่แล้ว เบียร์ช้าง/แพ็คเพิ่ม 6 บาท ไฮเนเก้น ขึ้น 4 บาท/ขวด เหล้านอกสต๊อกบวม เบรกขยับราคา
1
'เบียร์ช้าง-ไฮเนเก้น' ขึ้นราคา เรทขยับ 1-6 บาท ต่างจังหวัดขายปลีกสุดแพง!
สินค้าทยอยปรับขึ้นราคาถ้วนหน้าจากอาหาร สินค้าจำเป็น ล่าสุดเป็นคิวของ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ทั้งเหล้า เบียร์ เพราะแบกรับแรงกดดันไม่ไหว จากภาวะเงินเฟ้อพุ่ง วัตถุดิบราคาแพง ทิศทางพลังงานเชื้อเพลงขาขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศยังไม่ดีขึ้น โลจิสติกส์ในประเทศเผชิญน้ำมันขยับขึ้นทุกวัน
กรุงเทพธุรกิจ ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้า กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ปรับขึ้นแล้ว นำร่องโดย “เบียร์ช้าง” บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และแบรนด์ระดับโลก “ไฮเนเก้น” ของกลุ่มบริษัททีเอพี หลังส่งสัญญาณการขยับราคามาระยะหนึ่ง
สำหรับราคาใหม่ มีดังนี้
📌 #เบียร์ช้าง ขนาด 620 มิลลิลิตร(มล.) แพ็ค 3 ขวด ราคา 160 บาท จากเดิม 154 บาท แพ็ค 2 ขวด ราคา 110 บาท จาก 104 บาท
📌 #ไฮเนเก้น กระป๋อง 490 มล. 65 บาท จากเดิม 62 บาท ขวดแก้วขนาด 620 มล. ราคา 76 บาท จากเดิม 72 บาท เชียร์ราคา 56 บาท จาก 54 บาท
1
ส่วนเบียร์จากค่าย #สิงห์ ยังราคาเดิม ซึ่งสินค้าทั้งหมดจำหน่ายช่องทางร้านสะดวกซื้อ
ส่วนร้านค้าทั่วในต่างจังหวัดเบียร์ช้างขวด 620 มล. ราคา 60 บาท จาก 53 บาท ลีโอขวด 620 มล. ขายปลีก 60 บาท จาก 55 บาท เป็นต้น
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ต้นทุนการผลิตเบียร์มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่สูงมากนัก เช่น ฮอปส์ มอลต์ ฯ ปกติราคาขึ้นทุกปีเฉลี่ย 3-5% ส่วนราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น บริษัทขนาดใหญ่บริหารจัดการได้อยู่แล้ว หากต้องการช่วยเหลือหรือไม่เป็นการผลักภาระขึ้นราคาสินค้ากระทบผู้บริโภคในช่วงที่ยากลำบากเช่นนี้
ส่วนการปรับราคาเบียร์ขึ้น เนื่องจากผู้เล่นในตลาดเป็นรายใหญ่ สามารถทำได้ง่าย เมื่อเป็นเรื่องผลกระทบต้นทุน สินค้าที่มีราคาต่ำสุด เช่น ไทยเบฟมีแบรนด์ “อาชา” หากปรับขึ้น จะทำให้ทุกยี่ห้อขยับตามโดยปริยาย
“ถ้าช้าง แบรนด์ขายดีปรับขึ้น แล้วอาชาไม่ขึ้นอาจสะท้อนต้นทุนไม่ได้ขึ้นจริง แต่ถ้าแบรนด์ต่ำสุดขึ้น ซีลลิ่งขึ้นตาม ส่วนราคาที่ปรับขึ้น 5 บาทต่อขวด ในมุมผู้บริโภคถือว่าแพง เพราะตลาดแข่งขันกันที่ราคา 1-2 บาท”
🍺 คราฟท์เบียร์ ต้นทุนนำเข้าพุ่ง 10-20% 🍺
นายปณิธาน ตงศิริ ที่ปรึกษาบ้านนอกเบียร์ และเบียร์กรุงเทพ กล่าวว่า ตลาดเบียร์มีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิดหนักมาก เพราะช่องทางจำหน่ายที่เป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิงต่างๆ(ออนเทรด) ถูกปิดให้บริการ ทำให้ตลาดหดตัว เช่นเดียวกับตลาดคราฟท์เบียร์ที่เคยมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ล่าสุดเหลือไม่ถึง 1,000 ล้านบาท
ส่วนภาวะต้นทุนคราฟท์เบียร์นำเข้ามีการปรับตัวสูงขึ้น 10-20% จากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศพุ่ง ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ส่วนวัตถุดิบเช่น ฮอปส์ มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาด กำลังซื้อผู้บริโภคลด ผู้ประกอบการไม่กล้าขยับราคามากนัก
ขณะที่บริษัทต้องหยุดผลิตสินค้าทำตลาดในร้านสะดวกซื้อชั่วคราว แต่เน้นจำหน่ายให้ร้านประจำเพื่อรักษาฐานลูกค้าเท่านั้น เนื่องจากยอดขายไม่ฟื้น กระทบการแบกสต๊อก และต้นทุนการดำเนินงาน
“คราฟท์เบียร์จะขึ้นราคา เจ็บทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะวิกฤติโควิดขายสินค้าอยากอยู่แล้ว ลูกค้าน้อย หากขึ้นราคาไม่มีลูกค้าคนไหนสุนทรีย์มาดื่มเบียร์ขวด 200-300 บาท การขึ้นราคาจึงไม่ใช่ทางออก”
🍺 เหล้านอกตรึงราคา เหตุแบกสต๊อกอ่วม 🍺
นายธนากร คุปตจิตต์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) กล่าวว่า ก่อนโควิดระบาดภาพรวมสุรานำเข้ามีมูลค่าเชิงปริมาณกว่า 30,000 ล้านลิตร แต่วิกฤติโควิด-19 ฉุดตลาดหดตัวแรง 30-40% เนื่องจากการขายส่วนใหญ่พึ่งพากิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนเทรดเป็นหลัก เมื่อขายสินค้ายาก ผู้ประกอบการจึงแบกสต๊อกไว้มหาศาล
ด้านภาพรวมต้นทุนสุรานำเข้า มีการปรับตัวขึ้นจากน้ำมันแพง สงครามรัสเซียยูเครน ค่าเงินที่ผันผวน สงครามการค้า และการขนส่งที่ยังเป็นโจทย์ใหญ่การนำเข้า แต่ผู้ประกอบการยังไม่กล้าปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะกังวลอาจซ้ำเติมการขายและการบริโภคของลูกค้า ยิ่งกว่านั้นกลุ่มเป้าหมายสุรานำเข้าคือนักท่องเที่ยวซึ่งปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเที่ยวไทย
โดยทั่วไป การนำเข้าสุราจะมีการคำนวณต้นทุนและแจ้งราคาต่อตัวแทนจำหน่ายล่วงหน้าหลายเดือน รวมถึงใช้เวลาขนส่งราว 3-4 เดือน จากประเทศต่างๆ เช่น สก๊อตแลนด์ ฝรั่งเศส และการแจ้งราคาขายปลีกแนะนำเพื่อเสียภาษีสรรพสามิตไว้ก่อน หากปรับราคาขายแนะนำใหม่ จะถูกปรับในจำนวนที่เพิ่มขึ้น
“ขณะนี้มีปัจจัยเสี่ยงทั้งสงครามรัสเซียยูเครน ปัญหาโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ผู้นำเข้าสุราไม่กล้าขึ้นราคาสินค้า เพราะเดิมยังมีสต๊อกเหลือค่อนข้างมาก แต่จะปรับขึ้นราคา จะเกิดก่อนเทศกาล เพราะไม่มีผลต่อการบริโภค ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงสิงหาคมถึงตุลาคม อาจเห็นการพิจารณาราคาอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้จะมีการขึ้นราคา แต่สิ่งที่สะท้อนภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบจากการบริโภคลดลง คือการเสียภาษีสรรพสามิต เช่น เบียร์อยู่ที่ 70,000-80,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนสุราหดตัวกว่า 10%
🍺 สินค้าจำเป็นจ่อขยับราคาไตรมาส 2 🍺
นอกจากนี้ ที่ต้องจับตาผลกระทบค่าครองชีพผู้บริโภคต่อ คือการขยับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดย ​​อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี กล่าวว่า สงครามรัสเซียยูเครน เป็นเหตุการณ์โลกที่กระทบความเชื่อมั่นของธุรกิจ การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และเป็นแรงกดดันต่อราคาพลังงานเชื้อเพลิง
1
ซึ่งบีเจซี มีโรงงานขวดแก้วที่ใช้พลังงานมหาศาล หากราคาทะยานต่อเนื่อง บริษัทสามารถปรับราคาไปยังลูกค้าราว 50% รวมถึงต้องเกาะติดต้นทุนการผลิตกระดาษชำระที่ขยับขึ้น ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ของบีเจซี และบิ๊กซีจะปรับรถขนส่งสินค้าจากใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้พลังงานไฟฟ้าแทน
“ไตรมาส 2 จะเห็นชัดว่าต้นทุนสินค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างไร เพราะนอกจากสงครามรัสเซียยูเครน กระทบราคาพลังงาน ยังมีความผันผวนของค่าเงิน ส่งผลต่อต้นทุนนำ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยมีผลต่อต้นทุนแฝงอื่นๆตามมาอีกมาก”
ที่ผ่านมานอกจากเนื้อหมูราคาแพง สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียมขึ้นราคาแล้ว ในต่างจังหวัดยังพบตัวแทนจำหน่ายมีการปรับราคาขายส่งอื่นๆด้วย เช่น เครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม-150 จากลังละ 435 บาท ขึ้นมา 515 บาท หรือขายปลีก 12 บาท จากเดิม 10 บาทต่อขวด น้ำมันถั่วเหลือง ราคา 65 บาท และ 70 ต่อขวด เป็นต้น
โฆษณา