12 มี.ค. 2022 เวลา 12:41 • การตลาด
ปรับกลยุทธ์อย่างไรไม่ให้เสียลูกค้า? เมื่อเงินเฟ้อพุ่งทำต้นทุนสูงลิ่ว!
ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาไข่ไก่ ผักสด เนื้อหมู รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งไม่หยุดจนใกล้แตะ 50 บาทต่อลิตรในอีกไม่นานนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับ “ภาวะเงินเฟ้อ” (Inflation) ที่พุ่งสูงสุดในรอบหลายสิบปี ประจวบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังตึงเครียด กลายเป็นระเบิดเวลาเศรษฐกิจอย่างไรอย่างนั้น
โดย “เงินเฟ้อ” ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราทุกคนทั้งทางตรงและทางอ้อม ตั้งแต่ระบบบุคคล ธุรกิจ ไปจนถึงประเทศ ซึ่งเราคงคุ้นเคยกันดีกับประโยคที่ว่า “ค่าแรงสวนทางกับค่าครองชีพ” เพราะเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ซึ่งเงินเฟ้อทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเรามีเงินเท่าเดิมแต่กลับซื้อของได้น้อยลงนั่นเอง
1
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า หรือชะลอการผลิตออกไปก่อน ซึ่งส่งผลกระทบตามมาเป็นวงจรไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการว่างงาน ยอดขายลดลง ทำลายความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
แล้วจะทำอย่างไรเมื่อการรักษาฐานลูกค้าและกำไรของธุรกิจนั้นสำคัญไม่แพ้กัน
จุดกึ่งกลางที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการในสถานการณ์นี้คืออะไร?
วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับที่ช่วยให้ภาคธุรกิจปรับกลยุทธ์ในช่วงภาวะเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งใหม่และเก่า และยังสามารถควบคุมให้ผลประกอบการโดยรวมเป็นที่น่าพอใจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มาดูกันว่าจะมีกลยุทธ์ไหนบ้างที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้กัน!
1. ปรับราคาอย่างมีกลยุทธ์
แม้ว่าเงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าต้องถูกปรับขึ้นตามมาเป็นวัฏจักร แต่การขึ้นราคาทันทีโดยไม่วางแผนหรือวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายก่อน อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีสักเท่าไรนัก เพราะเมื่อราคาสินค้าปรับเพิ่มตามต้นทุนที่สูงขึ้น ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าจะยอดขายจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันอาจทำให้มียอดขายลดลง และยังทำลายความเชื่อใจของลูกค้าอีกด้วย
หากผู้ประกอบการจำเป็นต้องขึ้นราคาก็ควรพิจารณาทั้งปัจจัยภายในและภายนอกอย่างรอบคอบก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ ความเสี่ยง คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ หรือความเต็มใจจ่ายของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างมาก เพราะปฏิกิริยาของลูกค้าต่อการขึ้นราคาจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับความอ่อนไหวของราคาสินค้าแต่ละประเภทว่าจะได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าหรือไม่ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นและสถานการณ์เงินเฟ้อในช่วงเวลานั้นๆ
1
เมื่อการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้บริโภคเป็นหลัก การสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ (Product Differentiation) ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบ คุณภาพ ความคุ้มค่า หรือความทันสมัย ก็ช่วยสร้างจุดขายที่ดี และยังเพิ่มมูลค่าของธุรกิจไปในตัว ทำให้การปรับราคามาพร้อมกับความพึงพอใจของลูกค้าที่ได้สินค้าที่ดี มีคุณภาพ และราคาสมเหตุสมผล
2. ติดตามการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
การปรับราคาสินค้าขึ้นย่อมตามมาด้วยแรงกดดันและผลกระทบที่ไม่คาดคิด ทำให้จำเป็นต้องมีการจัดตั้งทีมพิเศษเข้ามาบริหารจัดการปัญหาด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วและตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาของลูกค้าเมื่อปรับราคาสินค้าขึ้น ราคาสินค้าในตลาด ภาพรวมของคู่แข่ง หรือรับข้อเสนอแนะต่างๆ จากลูกค้า เพื่อการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
เมื่อมีทีมที่เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการ แก้ไขปัญหา และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก็จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการรับมือ การวางแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ วิธีปรับราคาที่เหมาะสม รวมถึงช่วยให้รู้ว่าสินค้าประเภทไหนที่ได้รับความนิยม คุ้มค่าที่จะผลิตและจัดจำหน่ายในสถานการณ์ต่างๆ หรือสินค้าประเภทไหนที่ควรชะลอออกไปก่อน เพราะอาจมีความเสี่ยงเกินไปทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
1
3. วางแผนสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ
“การออกแบบ” เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสและขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปต่อได้ในทุกสถานการณ์ เพราะการออกแบบที่ดีและมีประสิทธิภาพจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของลูกค้า และข้อจำกัดต่างๆ ของธุรกิจได้อย่างตรงจุด รวมถึงช่วยสร้างความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร กลายมาเป็น “จุดขาย” ที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าไม่ใช่น้อย
อย่างที่ทราบกันว่า “เงินเฟ้อ” ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่สามารถปรับราคาสินค้าขึ้นได้ หรือแบกรับภาระไม่ไหวอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้ ดังนั้น การออกแบบจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก หากมีทีมและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยกันปรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ตั้งแต่วัสดุตั้งต้น (Material) หรือบรรจุภัณฑ์ (Package) ที่มีต้นทุนต่ำลง แต่คงคุณภาพไว้เหมือนเดิม ก็ช่วยลดต้นทุนการผลิตไปได้อีกทาง และยังสามารถครองใจลูกค้าได้เหมือนเดิม
เงินเฟ้อทำให้ทุกคนวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบมากขึ้น รวมถึงภาคธุรกิจก็ต้องระมัดระวังในทุกกระบวนการ ซึ่งทุกปัญหามีทางแก้เสมอ เพียงแค่เรื่องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม นำบทเรียนในอดีตมาประยุกต์ใช้ และพัฒนาแนวทางของตัวเอง สู่การปรับกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างไม่ติดขัดด้วยการรักษาผลกำไรและความสัมพันธ์ของลูกค้าในระยะยาว
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
- 3 ปัจจัยที่ห้ามมองข้าม ถ้าอยากจัดโปรโมชันและสร้างกลยุทธ์การขายให้ ‘ปัง’: https://bit.ly/3hUlYmy
- รวม 8 กลยุทธ์สร้าง ‘Brand Loyalty’ โดนๆ จนลูกค้าต้องกลับมาซื้อซ้ำ!: https://bit.ly/3Jj6Lrn
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#marketing
โฆษณา