12 มี.ค. 2022 เวลา 13:22 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] God Don’t Make Mistakes - Conway The Machine
พระเจ้ารู้ดี
รีวิวอัลบั้ม] God Don’t Make Mistakes - Conway The Machine
-Demond Price (a.k.a Conway The Machine) ถ้าหากใครยังจำการ introduce เมื่อเกือบ 2 ปีก่อนในรีวิวอัลบั้ม From King to GOD ว่า เขาคือแร็ปเปอร์พันธ์พิเศษที่น่าจับตามองจากเมือง Buffalo, New York ที่ดั้นด้นอยู่ในวงการฮิปฮอปใต้ดินนานเกือบทศวรรษ รวมพลังกับญาติพี่น้องอีกสองคนอย่าง Westside Gunn และ Benny The Butcher ก่อตั้งค่ายเพลงและ collective group อย่าง Griselda Records สะสมแต้มบุญจนเพิ่งได้รับการยอมรับเมื่อไม่กี่ปีก่อน ทั้งๆที่พวกเขาก่อร่างสร้างตัวมาแล้วตั้งแต่ปี 2012 กว่าจะได้รับการยอมรับจากแร็ปสตาร์ระดับไอคอนทั้ง Eminem และ Kanye West ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร
-โดยเฉพาะ Demond ที่หนักกว่าใครเค้า เพราะได้มาในทางกายภาพด้วย เจอประสบการณ์เฉียดตายจนได้อาการอัมพาตบนใบหน้าครึ่งเสี้ยว Bell’s Palsy แน่นอนว่าการหยิบประสบการณ์ถึงฆาตจนปากเบี้ยวนั้นถูกเอามาเล่าเยอะมากๆในหลายเพลงที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าอัลบั้มชุดที่สอง God Don’t Make Mistakes เป็นการย้ำกับสิ่งที่เจอเยอะเป็นพิเศษ รวมไปถึงภาวะ survivor guilt ที่ค่อนข้าง personal หนักหน่วงพอกัน เป็นการตอกย้ำถึงการที่พระเจ้านั้นอยากให้เขาเป็นผู้ได้ไปต่อ ดิ้นรนในโลกนี้อย่างที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ก็เป็นได้
รีวิวอัลบั้ม From King to GOD >>> https://www.facebook.com/fungpaifungma/photos/2475848456043780
-ถ้าใครได้ฟังงานเพลงชุดแรก FKTG หลายคนคงจะอินกับความพยายามที่เลยจุดพิการทางกายภาพจนยกให้เป็นหนึ่งในแร็ปเปอร์ผู้พิเศษโดยไม่ต้องสงสัย พอมาเป็น GDMM จะอินกับสตอรี่ของแกยิ่งกว่าเดิม อินเสียจน โอ้โห พี่ Demond แกผ่านอะไรมาเยอะสัดๆ นอกเหนือจากประสบการณ์ถูกยิงแล้วเป็น Bell’s Palsy ในบางเพลงก็ลงดีเทลประสบการณ์ post-traumatic เสียจนยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บ ถ้าไปอยู่ในจุดที่สื่อสารออกมา แกคง hurtful ยิ่งกว่า โดยเฉพาะเพลง Stressed หนึ่งเพลงที่หนักสุดในชีวิตที่แกตอกย้ำถึงการติดเหล้าอย่างหนักในช่วงที่สูญเสียลูกชายและญาติในเวลาไล่เลี่ยกันในปี 2019 เป็นตัวอย่างคนติดเหล้าที่ฟังแล้วเข้าใจเลยว่า การจะบำบัดอาการเสพติดเหล่านั้นแม่งไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ควรตัดสินเอาดาบหน้าในแบบที่ไม่เจอแบบนี้ก็คงไม่มีวันเข้าใจจริงๆ
My cousin, he took a cord and put his throat through that
I wish I had a chance to tell a nigga, "Don't do that"
Uh, niggas don't understand depression is real
People stressin' 'bout real life shit, you stressin' your bills
And not too long' after my cousin hung his self
I never told nobody, but I lost a son myself
08. Stressed
-Wild Chapters ก็เช่นกัน บีทโปรดักชั่นแน่นๆกลิ่นอายหม่นๆเป็นพิเศษจาก Hit-Boy และยังมีทั้ง T.I. และ Novel มาร่วมแจมด้วยแล้ว แกระล่ำระลักถึงลูกชายที่จากไปในแบบที่ตัวเองก็สูญเสียความมั่นใจไปโดยปริยายว่า ในเมื่อลูกชายกูตายไป กูจะยิ้มออกได้ไง ทั้งๆที่กูอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จแล้ว และได้มีลูกอีกคนในเวลาต่อมาด้วย เป็นการร่วมแชร์เส้นทางอันไม่ราบเรียบ สมบุกสมบันของจริง
Look at all the niggas I look out for and people I'm feedin' (Know how I move)
Yeah, I had a son a lil' while after
And when he died, know it was hard for you to smile after
While all that was goin' on, I had a child after
So how the fuck I'm 'posed to be a proud rapper?
Story of my life, shit got wild chapters
04. Wild Chapters Ft. T.I. & Novel
-เป็นรีวิวแรกที่ผมดันเริ่มเปิดรีวิวด้วยเพลงที่ประเด็นส่วนตัวหนักๆก่อน ทั้งๆที่แทร็คเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในลำดับต้นๆของอัลบั้มเลยด้วยซ้ำ อย่าเพิ่งแปลกใจว่าเฮีย Demond จะยัดประเด็นหนักๆแบบนี้มาตลอดทั้งอัลบั้ม ด้านชิวล์ ด้าน flex ด้านสำแดงเดชแก๊งส์เตอร์ก็ยังมีให้เห็นไม่มากไม่น้อย แสดงให้เห็นความฟิตที่ความพิการบนใบหน้าก็ยังไม่ทำให้ไฟมอดดับลง เริ่มด้วย Lock Load ที่ได้แร็ปเปอร์เสียงแหบพร่า Beanie Sigel มาร่วมแจม เป็นเพลงเปิดที่มาแนวเคาะสนิมพร้อมลั่นไก wordplay อย่างห้าวเป้ง
-โชว์ความเก๋าเข้าไปอีกในเพลง Tear Gas ที่ได้ทั้ง Lil Wayne และ Rick Ross มาอยู่ในเพลงเดียวกันไม่รู้จักกี่รอบ สำหรับเพลงนี้เท่ห์ได้ที่ ด้าน Demond ยังมีการระล่ำระลักที่ไม่ได้เห็นหน้าลูกชายอีกครา เหมือนกับที่ลูกของ Future ที่เกิดกับเมียเก่า Ciara ถูกเลี้ยงดูโดย Russel Wilson แทน เปรียบเปรยแบบนี้ไม่รู้ว่าจะยั่ว Future รึเปล่าหว่า?
-นอกจากจะแพ็คคู่สองแร็ปสตาร์แล้ว อีกหนึ่งสองคนที่ขาดไม่ได้คือญาติพี่น้อง Westside Gunn และ Benny The Butcher ที่ต้องมาแจมไม่ขาด ชนิดที่ว่าญาติคนไหนปล่อยผลงานเพลงเมื่อไหร่ มาช่วยแจมช่วยดันคนในครอบครัวอย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของพันธะครอบครัวที่หนักแน่นของทั้งสาม John Woo Flick ก็มาในลักษณะขึงขัง ฮาร์ดคอเอาเรื่อง สามประสานพร้อมบวก เดือดคงเส้นคงวา เป็นทรีโอ้กรุ๊ปที่ไม่แมสเท่า Migos แต่โคตรแข็งแกร่ง และดู long term กว่า
-Piano Love ซาวน์ดเปียโนหลอนๆ ที่โปรดิวซ์โดย The Alchemist ดันออกแบบสุ้มเสียงได้ใกล้เคียงซาวน์ดซิกเนเจอร์เฉพาะของ Griselda ราวกับรู้ใจว่าต้องแทรกสไตล์ฮิปฮอปแบบไหน ในขณะที่ Drumwork (ชื่อเพลงเป็นชื่อเดียวกับค่ายเพลงใหม่ของเฮีย Demond) กลับกลายเป็นความจำเจที่เพลงก่อนหน้าดันจัดหนักเต็มข้อมาแล้ว ถึงโปรดิวซ์โดย Daringer โปรดิวซ์เซอร์ของ Griselda ก็ตาม แต่พอถูกเลือกมาแทรกด้วยตีมคล้ายๆกัน มันเลยแอบฆ่าเวลาไปนิดนึง
-หนึ่งเพลงสั้นๆที่มาแบบไพเราะเสนาะหูหน่อยก็มีอย่าง Guilty ที่หยิบเรื่องอุบัติเหตุ Bell’s Palsy มาตอกย้ำด้วยบริบทที่เป็นมิตร แต่มีวลีนึงที่น่าสนใจคือ โปรด focus กันที่ lyrics มากกว่ารูปร่างอันไม่สมบูรณ์ภายนอกน่าจะดีกว่า ซึ่งตอนที่เกิดอุบัติเหตุใหม่ๆแกก็เคยทำใจไม่ได้ สูญเสียความมั่นใจเลยก็มี
-เพลงที่ให้ความรู้สึก motivation มากสุดคงหนีไม่พ้น So Much More ที่นอกจากจะพร้อมท้าชนทุกคนในวงการแล้ว เขางัดความรู้สึก self-proud ในแบบที่ไม่มีอะไรจะเสียของจริง ไม่แมสก็ช่างแม่ง สื่อจะชอบนำเสนอด้านแย่ๆของเขาโดยที่มองข้ามการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ก็ช่างแม่ง บอกให้โลกรู้ว่า Conway The Machine เป็นมากกว่าแร็ปเปอร์เห่อแฟชั่นตามกระแสก็แล้วกัน
-Chanel Pearls หนึ่งพื้นที่การ flex ด้วยบริบทสบายๆเรียบหรู เป่าความกดดันในชีวิตกับแร็ปเปอร์สาวบ้านเดียวกัน Jill Scott แทร็ครองสุดท้าย Babas เป็นการ transition ที่น่าสนใจ ใส่กิมมิคที่คล้ายๆกับการเกริ่นนำสั้นๆแบบนิทานหรือนิยายสยองขวัญที่เรามักจะคุ้นเคยกันก่อนเข้าไปสู่ใจความสำคัญของอัลบั้มนี้ในแทร็คถัดไป ชอบการเล่นคำจากชื่ออัลบั้มก่อน From King To GOD โคตรทรงพลัง
-ในไตเติ้ลแทร็ค God Don’t Make Mistakes ที่สรุปความสงสัยใคร่รู้ต่อโชคชะตาที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ ในแบบที่ต้องมอบความบาดเจ็บสาหัสกันก่อนจึงจะได้เจอความรุ่งโรจน์ของชีวิต รอดชีวิตแล้วมาเจอ Eminem เชิญมาเซ็นสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การได้ร่วมงานกับ Daringer, The Alchemist และ DJ Clark Kent ที่ช่วยผลักดันจนมีคนพูดถึง รวมถึงการได้ร่วมงานกับ Jay-Z ในซาวน์ดแทร็คประกอบหนัง The Harder They Fall ในแบบที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ มันทำให้สำนวน เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ชัดเจนยิ่งกว่าชัดเจน ดิบเถื่อนยิ่งกว่าใคร อีกทั้งการมี voice over ของคุณแม่ Annette Price ในช่วง outro เป็นโมเมนต์ซาบซึ้งราวกับปาฏิหาริย์มีจริงโดยที่ไม่ต้องร่ายยาวว่า มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ?
-จากที่เคยประทับใจกับ From King To GOD แบบที่เจอตัวพระกาฬที่ถูกมองข้ามมานานแล้วเว้ย อัลบั้มที่สองเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นคนจริงที่วงการควรจะรักษาแกไว้ ต่อให้ไม่แมส แต่มีความเชื่อมั่นสูงว่าพี่แกสามารถยกระดับวงการได้อย่างน่าเกรงขาม แน่นอนว่าคนจริงในวงการฮิปฮอปมีหลายคนที่ผ่านประสบการณ์วิถีชาวแก๊ง drug dealer ก็เยอะแยะ แต่จะมีซักกี่คนที่ลับคม lyrics ออกมาได้หนักแน่น เรียลสมจริงโดยที่ไม่มีคำโม้โอ้อวดปนอยู่เลย
-อีกมุมนึงมันก็ทำให้ผมสงสัยใคร่รู้พอๆกับแกในเพลงสุดท้ายว่า กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องแลกมากับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ได้ Bell’s Palsy มาเป็นคำสาป สูญเสียเพื่อนสนิทไม่รู้จักกี่คน แล้วได้พรมาเป็นความสำเร็จในอาชีพ ได้เจอกับแร็ปเปอร์ระดับไอคอน และแน่นอนว่าการโดนยิงครั้งนั้น ชีวิตเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆจากการที่ยอมปฏิเสธ French Montana เพื่อไปออกคอนเสิร์ตร่วมกับเพื่อนแล้วโดนเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ชีวิตของแร็ปเปอร์แมวเก้าชีวิตคนนี้แม่งมีอะไรให้เซอร์ไพรส์ของจริง
-อีกอย่างการเปิดแผลที่นอกเหนือจาก Bell’s Palsy แบบหงายไพ่ไม้ตายในมือจนหมดหน้าตัก เป็นการยื่นมือคนที่เจอเรื่องราวภาวะสูญเสียหนักๆคล้ายๆกันให้รู้ว่า ไม่ได้แค่เราคนเดียวที่ depress นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งในตัวเฮีย Demond ที่ไม่ได้เกาะหมวกฮิปฮอปเพียงเพื่อความดัง เพื่อเงิน จนลืมชีวิตของผู้ฟังซะทีเดียว มันเป็นแร็ปเพื่อชีวิตของคนที่สู้ภายในจิตใจและสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วไป inspire ผู้อื่นอย่างตรงไปตรงมา
-น่าเสียดายที่ดีลสัญญาทั้งค่าย Shady Records และ Griselda หมดลงแล้ว ไปสู่เส้นทางใหม่ที่แกก่อตั้งเองอย่าง Drumwork บ่งบอกให้รู้ว่าแกได้ปูเส้นทางเป็นตัวของตัวเองอย่างท้าทาย โดยเป็นอิสระจากเครือญาติ Griselda และค่ายของ Eminem แบบจบสวย ไม่ขาดสะบั้น ยังคงติดตามไปเรื่อยๆในความสัตย์จริงของพี่แกที่น่าจะมีมาเรื่อยๆจนตามฟังไม่ทัน แต่ถ้ามองข้ามไป เดี๋ยวพลาดความเก๋าไปอย่างน่าเสียดาย
เซนส์ผมไม่น่าจะพลาด
Top Tracks : Tear Gas, Piano Love, Wild Chapter, Guilty, John Woo Flick, Stressed, So Much More, Babas, God Don’t Make Mistakes
Give 8/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
Genre: Hip Hop/Rap
Label : Drumwork Music Group, Shady Records, Griselda Records
Producer : Daringer, The Alchemist, Hit-Boy, Beat Butcha, G Koop, Cozmo, Gracia, The Beat Brothers, Bink, Kill, J.U.S.T.I.C.E. League
โฆษณา