ได้เล่มนี้มา ตอนยืนรอกดกาแฟตู้เต่าบิน ที่อยู่ข้างร้านหนังสือ ไปยืนเปิดๆ ดูแล้วก็ซื้อเฉยเลย ซื้อก่อนกาแฟอี๊ก 555
📌สิ่งที่น่าสนใจ
1.คำว่า คนขี้เกียจ สำเร็จ สบายๆ ดึงดูดมาก (ขนาดคิดว่าตัวเองเป็นคนขยันนะเนี่ย 555)
2.สารบัญ มีชื่อบทที่ดึงดูดหลายบท เช่น
-ความฉลาดจะกลายเป็นอุปสรรคในการเรียน (แสดงว่าคนไม่ฉลาดอย่างเรา ดีกว่าน่ะสิ 555)
-ถ้าทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย จะสร้างสินทรัพย์ไม่ได้ (คือต้องขี้เกียจเหรอ 555)
-ถ้าอยากเงินเดือนเพิ่ม ต้องเรียนมากกว่าทำงาน (ห้ามให้เจ้านายรู้เลยสินะ ว่าเราอ่านเล่มนี้ 555)
📌เรื่องที่ชอบและคิดว่าได้ไอเดียจากหนังสือเล่มนี้
1.คนฉลาดมักจะมีคำถามเยอะ เป็นกำแพงขวางไม่ให้เราเริ่มก้าวแรก … คนที่ "ลองทำดูก่อน" โดยไม่คิดมากไป จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ
.
2.คนจะรวยได้จากการสร้างสินทรัพย์ ซึ่งการเรียนคือการลงทุนในสินทรัพย์ที่เรียกว่า "เวลา" ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในอนาคต เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นหรืออื่นๆ
.
3.การตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร ก็เหมือนกับการตัดสินใจเลือกหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่ควรเลือกมั่วๆ แต่ต้องเลือกที่จะได้ผลตอบแทนในอนาคต และคำนวณกำไรขาดทุนไว้เป็นอย่างดี
.
4.โฟกัสไปที่จุดประสงค์หรือเป้าหมายของการเรียน อย่ากระจายการลงทุน หรือเรียนทุกอย่าง ให้เรียนเฉพาะสิ่งที่จะเอาไปใช้ได้
.
5.คำถาม 7 ข้อ ก่อนเลือกลงทุนในความรู้
-เราอยากพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนแบบไหน ไม่ใช่อยากเรียนก็เรียน เพราะจะกลายเป็นการเรียนที่สูญเปล่า
-เหมาะสมกับลักษณะนิสัยของเรารึเปล่า เช่น กลัวความเสี่ยงก็อย่าไปเรียนการเทรดระยะสั้น เพราะมันจะเครียด
-เราจะได้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องมั้ย ผู้เขียนแนะนำตัวเลือกการลงทุนที่ทรงพลัง คือ ความรู้ด้านภาษา การเงิน และ IT
-นี่เป็นความรู้พื้นฐานที่ควรมีใช่มั้ย ทุกคนควรมีความรู้พื้นฐานในด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น อสังหาฯ สินเชื่อ ภาษี กฎหมาย ประกัน
-สิ่งนี้กำลังขาดแคลนและยังไม่มีใครทำใช่มั้ย การเรียนรู้สิ่งที่เป็นที่ต้องการในอนาคต จะได้ผลตอบแทนดีกว่าทักษะที่กำลังได้รับความนิยม
-รู้จักสถานการณ์จริงหรือไม่ ถ้าไม่รู้ว่าสนามจริงเป็นยังไง สิ่งที่เลือกเรียนอาจจะใช้การไม่ได้
-สิ่งนี้เป็นไปตามกระแส ทันยุคสมัยหรือไม่ ถ้าหวังสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง ต้องมีวิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า 1 ก้าวเสมอ
6.ควรเริ่มลงทุนเรียนรู้จากเรื่องใกล้ตัวก่อน โดยเฉพาะการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ที่จะให้ผลตอบแทนสูงในอนาคต เพราะเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจ และการเพิ่มเงินออม
7.ลองสร้างกฎว่าเราจะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยจากเงินที่งอกเงยจากการลงทุนเท่านั้น เพื่อลดการผ่อนซื้อของฟุ่มเฟือย
8.สร้างกลไกการเรียนรู้ของตัวเอง โดยเอาประสบการณ์ของคนที่สำเร็จแบบที่เราต้องการมาต่อยอด ไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์
9.ใช้ความคิดเชิงรุกในการเรียนรู้ ไม่ต้องอ่านหนังสือทุกบท เอาเฉพาะที่สำคัญกับเรา เพื่อให้จำได้ , เมื่อบริษัทส่งไปฝึกอบรมให้คิดว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง แทนการเรียนให้จบๆ ไป
10.เรียนรู้จากผู้คนโดยการเตรียมความรู้ที่เป็นประโยชน์ไปแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ไปเอาความรู้อย่างเดียว
11.กำหนดเป้าหมายเป็นตัวเลข จะรักษาแรงจูงใจในการทำได้ดีขึ้น เช่น แทนที่จะบอกว่า ฉันจะฟังภาษาอังกฤษทุกวัน เปลี่ยนเป็น ฉันจะใช้เวลา 30 นาทีในการฟังภาษาอังกฤษทุกวัน
12.จดบันทึกสิ่งที่ได้ลงมือทำ เพื่อให้เห็นความคืบหน้า และเฉลิมฉลองกับความสำเร็จเล็กๆ
13.เมื่อกำหนดเป้าหมายและเวลาที่จะทำแล้ว อย่าสนใจ "อารมณ์" ของตัวเอง แต่ให้ลงมือทำไปก่อนตามตารางที่วางไว้ เมื่อได้เริ่มแล้วกลไกของสมองจะสร้างกลไกให้ทำต่อได้เอง
14.ลงทุนในตัวเองก็เหมือนการออม ต้องหักเวลาไว้ก่อนจะเอาไปทำอย่างอื่น
15.อย่าพยายามมากเกินไป หรือหักโหมเพราะอยากเห็นผลเร็ว ยิ่งพยายามมากจะยิ่งเปลืองเวลาและไม่ได้ผล การเรียนแล้วพักทุก 90 นาทีจะเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีขึ้น
16.อย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบ ตั้งเป้าหมายในระดับที่เราต้องการก็พอ เต็ม 100 อาจจะตั้งเป้าที่ 60 ก่อน จะเห็นผลได้ง่ายขึ้น
17.หาเทคนิคที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ไว และทำ Output เพื่อสร้างความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง พร้อมกับสร้างรากฐานให้แน่นควบคู่ไปด้วย เช่น เรียนภาษาอังกฤษ ให้สามารถพูดประโยคที่จำเป็นได้ก่อน แล้วเอาไปใช้ พร้อมๆ กับเรียนแกรมมา ท่องศัพท์อื่นไปด้วย
18.อย่าเลือกนำเข้าข้อมูลที่ดี เลือกเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับเราก็พอ เพราะข้อมูลในยุคนี้มีล้นเกิน ถ้าเลือกข้อมูลที่ดี อาจเป็นการเรียนรู้ที่สูญเปล่าเพราะไม่ได้นำมาใช้
นับถือผู้เขียนที่ใช้ความขี้เกียจเป็นจุดเด่นในการหาเงินได้ ทุกวันนี้ นะโอะยุกิ ฮนดะ เป็น CEO บริษัท Leverage Consulting จำกัด เป็นบริษัทให้คำปรึกษาเพื่อสร้างผลประกอบการจำนวนมาก จากการลงแรงเพียงน้อยนิด
สิ่งที่จะทำหลังอ่านหนังสือเล่มนี้ คือ
1.การเลือกเรียนรู้ และคิดก่อนรับข้อมูลใดๆ ว่าเราจะสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้มั้ย เพราะเป็นคนนึงที่อยากอ่าน อ่านเรียนไปซะทุกอย่าง 😆
2.การหยุดพักบ้าง เพราะปกติชอบไหล จนบางทีนั่งจนปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรืออ่านหนังสือ
ข้อมูลหนังสือ
สำเร็จสบายสบาย เพราะเรียนรู้ไวแบบคนขี้เกียจ
ผู้เขียน : นะโอะยุกิ ฮนดะ ผู้เขียนหนังสือขายดี 5 ปีซ้อน "สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ"
ผู้แปล : กมลวรรณ เพ็ญอร่าม
คำโปรย : เทคนิคการเรียนรู้อะไรก็ตาม อย่างเร็วที่สุด ง่ายที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์มากที่สุด คนไม่มีเวลาว่างเลยยังทำได้
สนพ. อัมรินทร์ how to
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
