14 มี.ค. 2022 เวลา 04:34 • สัตว์เลี้ยง
น้องกินน้อยลง ทำอย่างไรดี?
นี่เป็นปัญหาที่หมอได้ยินเจ้าของถามบ่อยมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในแมว สัตวกินน้อยลง หลายกรณี มาจากประสบการณ์ฝังใจกับอาหารไม่ดีในอดึต เช่น กินอาหารชนิดนี้แล้วอาเจียน ไม่สบายท้อง หรือในขณะนั้นป่วยอะไรบางอย่างอยู่ มีภาวะอาเจียนอยู่แล้ว เมื่อได้อาหารใหม่ในช่วงนั้น จึงจำภาพว่าอาหารนั้น ๆ ทำให้เค้าอาเจียนเลยพาลเกลียดอาหารนั้นไป
บางกรณี น้องอาจจะฉลาดเกินเบอร์ เป็นต้นว่า ถ้าเค้ารอไม่กินอาหารนั้นได้นานพอ เจ้าของจะให้อาหารที่น่ากินกว่ามาแทน เช่น อาหารเปียก ขนม เป็นต้น (ฉลาดไม่เบาเลยใช่มั้ยล่ะครับ)
ส่วนสาเหตุว่าส่วนประกอบอะไรในอาหารที่ทำให้สัตว์ไม่ชอบกินอาหารชนิดนั้น ปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัด เพราะหลายปัจจัย เช่น กลิ่น รส เนื้อสัมผัส อุณหภูมิ ล้วนมีอิทธิพลต่อความน่ากินหรือไม่น่ากินของอาหารทั้งสิ้น
หลักการประเมินของหมอ เมื่อเจ้าของมาด้วยปัญหาน้อง ๆ กินได้น้อย คือ ใช้น้ำหนักเป็นเกณฑ์ครับ ถ้าน้ำหนักปกติ หรือเกิน แล้วไม่พบอาการป่วยชัดเจน เราจะอนุมานได้ว่า เหตุที่น้องไม่กิน เพราะรักษาหุ่น!! ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิดครับ เนื่องจากในธรรมชาติ สัตว์นักล่าจะมีกลไกของร่างกายในการคงสภาพน้ำหนักให้ผอมเพรียว เพื่อทำให้การล่าประสบความสำเร็จ ลองนึกว่าผู้ล่าอ้วนจ้ำม่ำ คงล่าใครมากินไม่ได้แน่ ถูกมั้ยล่ะครับ (เมื่อเค้าถูกทำหมัน จะเสียทักษะตรงนี้ไป)
อีกกรณีหนึ่ง ถ้าน้ำหนักปกติแต่กินน้อย คือ ได้อาหารจากแหล่งอื่นที่เจ้าของไม่เห็น เช่น จากเพื่อนบ้าน หรือล่ากินเอง หรือสมาชิกคนอื่นในบ้านให้ของกิน
กลับกัน หากน้ำหนักน้อยลง ร่วมกับกินน้อย เราจะสงสัยเรื่องโรคเป็นลำดับแรก เราอาจจะต้องตรวจสอบอวัยวะ ได้แก่ ตับอ่อน ช่องปาก ระบบลำไส้ ไต ตับ ว่ามีปัญหาใด ๆ หรือไม่ เป็นเบื้องต้น หากไม่พบอะไรพิเศษ เราจึงสงสัยเรื่องภาวะวิตกกังวลเป็นลำดับถัดไป
ปัญหาที่อยู่ดี ๆ ก็ไม่กินซะอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมว มักมีเหตุโน้มนำจากความเครียด สาเหตุที่ทำให้เค้าเครียดได้แก่ มีแมวตัวใหม่เข้ามา สิ่งแวดล้อมในบ้านเปลี่ยน สมาชิกในบ้านเปลี่ยน หรือตารางเวลาในชีวิตประจำวันเปลี่ยน หากไม่ได้รับการแก้ไข จะทำให้เกิด Hepatic Lipidosis หรือภาวะไขมันพอกตับในอนาคตได้
และนี่คือ 10 วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อน้องกินน้อยลง ที่เจ้าของทำเองได้ที่บ้าน
1. ทำอาหารให้เปียก อุ่น หรือผสมอาหารเปียก
2. เพิ่มแหล่งโปรตีนต่อไปนี้ ในสุนัข ได้แก่ เนื้อวัว ไก่ หมู แกะ ในแมว ได้แก่ เนื้อไก่ ปลา หมู สัตว์จะชอบแหล่งโปรตีนเหล่านี้มากกว่าที่มาจากพืช
3. เพิ่มรสที่ชอบ เช่น รสตับ น้ำเกรวี่ เป็นต้น
4. เพิ่มกระเทียมสุก ปริมาณเล็กน้อยในอาหาร หากมากไปจะเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง
5. เสริมผลไม้บด หรือผลไม้ปั่นลงในหน้าอาหาร โดยเฉพาะแอปเปิล กล้วย สัตว์ที่ไม่เคยกินผลไม้ มักยอมรับผลไม้สองชนิดนี้ได้ง่าย หรืออาจะเสริมสารให้ความหวาน เช่น แอสปาแตม (Aspartame) เลี่ยงผลไม้พวกลูกเกด องุ่น หรือ ไซลิทอล (Xylitol) เพราะเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง
6. ผสมแหล่งโปรตีนที่ปรุกสุกใหม่ ๆ เช่น แฮมเบอเกอร์ ตับ ไก่ ปลา
7. ลองอาหารรสชาติและสัมผัสใหม่ ๆ (บางตัสอาจจะชอบ หรือไม่ก็เกลียดไปเลย) เช่น ฟักทอง เป็นต้น
8. งดให้ขนม สัตว์บางตัวรอกินขนมมากกว่าอาหารมื้อหลัก
9. หาต้นเหตุความเครียด ความกังวลใจให้เจอ หากกำจัดไม่ได้จึงจะเลือกการใช้ยาช่วย
10. หากต้องเข้าพักโรงพยาบาล ให้นำของใช้ที่ วัสดุรองนอนที่สัตว์คลุกคลีบ่อยๆ เข้ากรงใหม่ไปด้วย หรือใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ ช่วยลดความกังวล เพิ่มความอยากอาหารได้
โฆษณา