15 มี.ค. 2022 เวลา 00:01 • ปรัชญา
เคยรู้สึกว่าทำไมเรายังไม่ประสบความสำเร็จซักที ทั้งที่เพื่อนๆ หรือแม้แต่คนที่อายุน้อยกว่า ต่างก็มีความสำเร็จ มีความก้าวหน้าในชีวิตบ้างมั้ยคะ
ตัวเก๋เองก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้ ยิ่งในยุคที่มีโซเชียลมีเดีย ทำให้เราสามารถรับรู้ความเป็นไปของคนอื่นได้ง่าย ซึ่งเป็นเหมือนดาบสองคม
ด้านนึงคือเราก็มีแรงบันดาลใจ มีแรงกระตุ้นมากขึ้น แต่ในอีกด้านนึง พอเราเห็นความสำเร็จของคนอื่นมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเอามาเปรียบเทียบกับตัวเอง
มีคำกล่าวว่า ถ้าอยากมีความทุกข์ ก็จงเปรียบเทียบ ทุกข์จะมาทันที … เป็นเรื่องจริงมากๆ ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลยค่ะ 5555
ตัวเก๋เองรอดมาจากความคิดแบบนี้ได้ยังไง?
มานั่งทบทวนดูก็มาจากการอ่านหนังสือและการนั่งคุยกับตัวเองค่ะ
หนังสือที่ช่วยชีวิตเก๋ไว้ให้ออกจากความคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก็คือหนังสือ เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด ของ อ.คิมรันโด นักเขียนชาวเกาหลี
มีอยู่บทนึงชื่อว่า ชีวิตจะผลิบานตามฤดูกาลของตัวเอง
ซึ่งแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ทุกคนไม่มีใครเหมือนกัน เราต่างก็เป็นดอกไม้คนละพันธุ์ ที่ผลิบานต่างเวลากัน
เมื่อเห็นดอกไม้อื่นผลิบาน เราจึงสมควรจะชื่นชมความงามนั้น ให้เป็นความสุขของตัวเอง แทนที่จะเอามาเป็นความทุกข์
ส่วนตัวเราเองก็เติบโตไปเรื่อยๆ ทุกวัน รอเวลาที่จะผลิบาน เพียงแค่เราเห็นตัวเองเติบโตจากเมื่อวาน เราก็มีความสุขได้แล้ว
วิธีที่จะรู้ว่าเราเติบโตจากเมื่อวานรึเปล่า ก็คือ การจดบันทึก ค่ะ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบันทึกช่วงเวลาและเหตุการณ์สำคัญแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้ได้คุยกับตัวเองด้วย
เก๋จึงทำเพจนี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อบันทึกการเติบโตทางความคิดของตัวเอง และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อแบ่งปันให้เพื่อนๆ บางคนที่อาจเคยเจอปัญหาเหมือนกัน เผื่อว่าอ่านแล้วจะได้ไอเดียไปปรับใช้กับตัวเองบ้าง
เก๋คิดว่าชีวิตคือกีฬาทางไกล หากเป็นการวิ่งก็คือสนามมาราธอน หรือหากเป็นการปั่นจักรยานก็ต้องเป็นสนาม Audax (ปั่นจักรยานทางไกล 200 กิโลเมตร++)
การเร่งความเร็วในช่วงต้น อาจทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า จนไปไม่ถึงเส้นชัยได้
ความเร็วที่เหมาะสม คือความเร็วที่สมดุลกับความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจตัวเอง เป็นความเร็วที่พอเหมาะ ทำให้เรามีแรง มีความหวังในการก้าวไปข้างหน้าได้ทีละนิด และทุกๆ วันเราจะไปไกลกว่าจุดเดิม แม้ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
เคยมีการทดสอบว่า ระหว่างทีมที่ออกเดินทางไปข้างหน้าทุกวัน กับทีมที่เลือกเดินทางหนักๆ ในวันที่อากาศดี และหยุดพักยาวในวันที่อากาศเลวร้าย พบว่าทีมที่ออกเดินทางทุกวันสามารถไปถึงเส้นชัย โดยที่สมาชิกในทีมยังอยู่กันครบ ในขณะที่อีกทีมมีคนที่ต้องออกจากการแข่งขันกลางทางเพราะไปไม่ไหว และยังไปถึงเส้นชัยช้ากว่าอีกทีมด้วย
เก๋เชื่อว่าทุกคนมีสนามของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือนใคร หน้าที่เราก็คือหาสนาม หาเส้นชัยของเราให้เจอ ให้เวลาตัวเองในการสะสมความแข็งแรง จดบันทึกทุกก้าวเล็กๆ ของเรา แล้วจะมีความสุขระหว่างทาง และเลิกเปรียบเทียบกับคนอื่นได้
ก่อนไปถึงมาราธอน หรือ Audax 1000 Km อาจลงสนามมินิ 10 km หรือ Audax 200 Km ก่อน ให้ตัวเองได้ลิ้มรสความสำเร็จเล็กๆ ระหว่างทาง ก็จะมีโมเมนตั้มให้เราเดินทางอย่างต่อเนื่อง จนถึงเส้นชัยค่ะ
มาค้นหาเส้นชัยที่เป็นของเราเท่านั้น โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นกันนะคะ🥰
โฆษณา