[Cryptonaut TH] 5 เหตุผล ว่าทำไม Heroes of Mavia ถึงเป็น GameFi ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2022 จากการที่กระแส GameFi กำลังถูกพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง หลังจาก Blockchain Play-To-Earn Game ชื่อดังอย่าง Axie Infinity ได้เข

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

14 มี.ค. 2022 เวลา 11:49 • คริปโทเคอร์เรนซี

5 เหตุผล ว่าทำไม Heroes of Mavia ถึงเป็น GameFi ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2022

จากการที่กระแส GameFi กำลังถูกพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง หลังจาก Blockchain Play-To-Earn Game ชื่อดังอย่าง Axie Infinity ได้เข้ามาเขย่าวงการเกม และจุดกระแส GameFi สร้างแรงกระเพื่อมอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในช่วงต้นปี 2021 จนทำให้มีโปรเจค GameFi Model ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ส่งผลให้กระแส GameFi มีความแผ่วลงไปมาก

แต่แล้ว แรงกระเพื่อมลูกที่สองแห่งวงการ GameFi ก็เกิดขึ้นอีกครั้งจากกระแส Metaverse นำโดย Project Sandbox จนเกิด Massive Adoption และ Brand Adoption ครั้งใหญ่เข้าสู่โลกคริปโตฯ และอีกเช่นเคย ที่กระแส Metaverse ทำโห้โปรเจคทั้งที่เป็น GameFi และ โลกเสมือน ผุดขึ้นมามากผิดปกติ และกลบกระแส Metaverse ลงอีกครั้งในช่วงปลายปี 2021

บทความความนี้ เราจะมารู้จักกับเกมระดับ Triple A อย่าง Heroes of Mavia ให้มากขึ้น ว่าทำไม Heroes of Mavia อาจเป็นเกมที่จะสร้างแรงกระเพื่อมลูกที่สามให้กับวงการ GameFi

1. Heroes of Mavia มี Backed VC น่าจับตาที่สุด

ไม่ว่าจะเป็น GameFi หรือ Blockchain Project ประเภทไหนก็ตาม เหล่า VCs หรือ Partners ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่รอบ Seed ถึงรอบ Private มักจะเป็น First Indicator สำหรับนักลงทุนเสมอ การที่ได้ Partner ระดับ World Class มาเป็น Backers ได้ แสดงถึงความไม่ธรรมดาและไม่ควรมองข้ามของโปรเจคนั้นๆ

Heroes of Mavia นอกจากจะได้ Partner เป็น VC ระดับ Tier S อย่าง Binance Labs, Delphi Digital, Animoca Brands และ Alameda Research ซึ่งเป็นการการันตีความน่าลงทุนอยู่แล้ว

Heroes of Mavia ยังได้กลุ่ม Micro VC ที่มากความสามารถและมี Port การลงทุนที่น่าจับตาที่สุดในปี 2022 อย่าง Genblock Capital, Mechanism Capital และ Hashkey Capital มาร่วมลงทุนอีก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งโปรเจค GameFi ที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดแห่งปี 2022 อย่างแน่นอน

นอกจากกลุ่มของ VC แล้ว, Heroes of Mavia ยังได้ Partner เป็น GuildDAO ยักใหญ่ครบทั้ง 4 เจ้าอย่าง Avocado DAO, GuildFi, Merit Circle และ Yield Guild Game ซึ่งการที่ GuildDAO ที่ประกอบธุรกิจ Scholarship เป็นหลักเข้ามาเป็น Partner จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเกม Heroes of Mavia จะเกิดการล่มสลายได้ยากมาก เพราะตัวเกม Heroes of Mavia จะได้ Scholar ของ GuildDAO เหล่านี้เข้ามาเป็น Player จำนวนมาก และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเมื่อเหล่า GuildDAO เหล่านี้มีการเติบโต ขยายฐาน Scholar เพิ่มขึ้นอีก

2. Heroes of Mavia เป็น GameFi ที่มีแนวเกมเฉพาะตัวและมีคู่แข่งน้อยที่สุด

ต้องยอมรับว่ารูปแบบเกมในปัจจุบัน ผู้เล่นที่มีกระเป๋าเงินหนามักจะได้เปรียบในการเล่นเกมเสมอ เกมรูปแบบ Pay-To-Win ลักษณะนี้มักจะเป็นผลเสียต่อตัวเกม เพราะจะเป็นอุปสรรคในการเพิ่มจำนวนผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งในระยะยาวและระยะสั้น เป็นการเพิ่มข้อจำกัดในการเล่นเกมของผู้เล่น และเป็นการสร้างกำแพงชนชั้นระหว่างผู้เล่นที่มีทุนต่ำและผู้เล่นที่มีทุนสูง

ในปัจจุบัน เกมแบบ Play-To-Earn Model ที่ประสบความสำเร็จและอยู่รอดในระยะยาวส่วนใหญ่ จะมุ่งเน้นไปที่ความสลับซับซ้อนของ Economics ( Function ภายในเกมมีความเกี่ยวโยงกันจนเป็น Complicated Network Ecosystem และยากต่อการล่มสลาย) และจะมุ่งไปทางแนวเกมแบบวางแผน(Strategy) เพื่อกลบความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นที่มีทุนต่ำและผู้เล่นที่มีทุนสูง เนื่องจากเกมแนว Strategy ลักษณะนี้ ผู้เล่นที่มีความสามารถในการวางแผนสูงหรือเล่นเกมเก่งมักจะได้เปรียบในการแข่งขันภายในเกม ทำให้เกมแนว Strategy จึงเป็นรูปแบบเกมที่มีการจัดอันดับผู้เล่นได้สมดุลที่สุดในบรรดาเกมทุกแนว ซึ่งความ Fair ในลักษณะนี้เองที่เป็นตัวดึงดูดให้แนวเกมแบบ Strategy ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้เล่นทุกช่วงอายุ

โดยทั่วไปแล้ว เกมแนว Strategy นั้น สามารถแบ่งออกเป็นหลายสายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว Turn-Based Strategy Game ที่ทำออกมาในรูปแบบ Card Game อย่าง Yu-Gi-Oh หรือ Hearthstone, หรือ Board Game อย่าง Avalon, Werewolf หรือ Auto Chess, ไปจนถึง แนวเกมแบบ MOBA อย่าง Dota2 หรือ ROV และอื่นๆอีกมากมาย

แต่ถ้าพูดถึงเฉพาะ Play-To-Earn Game แล้วนั้น Play-To-Earn Game แนว Turn-Based Strategy ที่โด่งดังที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเกมชื่อดังอย่าง Axie Infinity ที่มีศักดิ์เป็นพี่ใหญ่สุดแห่งวงการ Play-To-Earn Game และยังเป็นตัวจุดกระแส GameFi สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับวงการเกม และยังสร้างโมเดลธุรกิจให้กับผู้คนมากมาย ทั้ง Player, Entrepreneur, Scholarship Owner-Player System, ไปจนถึง Speculator และ Trader

ในบรรดาเกมแนว Strategy ทั้งหมดที่มีบนโลกนี้ แนวเกมแบบ Base Builder เป็นอีกแนวหนึ่งที่มีความน่าสนใจมาก แม้เกมแนวนี้จะกินส่วนแบ่งทางการตลาดของ Strategy Game ไม่มากนัก แต่เกมที่ได้รับความนิยมกลับกระจุกตัว หรือมีจำนวนเกมที่น้อยมากๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หากนึกถึงเกมแนว Base Builder ที่มีในปัจจุบัน นอกจาก Clash of Clans แล้ว เราคงนึกถึงเกมอื่นไม่ออก

ประเด็นสำคัญจึงอยู่ตรงที่ Heroes of Mavia ณ ตอนนี้ มีสถานะเป็น Base Builder Strategy Game ที่เป็น Blockchain Play-To-Earn Model ตัวแรกในโลก และอาจจะเป็นเกมที่สองที่คุณจะนึกถึงเมื่อพูดถึงเกมแนว Base builder และถ้าหากในอนาคตอันใกล้นี้ เกมแบบ Play-To-Earn ได้รับความนิยมมากจนกลบชื่อเสียงของเกมในยุคเก่าไปจนหมด เมื่อพูดถึงเกมแนว Base Builder อีกครั้ง คุณในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า หรืออาจเป็นลูกหลานของคุณ อาจจะนึกออกแค่เกมเดียว คุณคิดว่าเกมนั้นคือเกมอะไร ?

3. Heroes of Mavia ออกแบบระบบ Game Model และ Tokenomics ได้น่าจับตาที่สุด

จากที่ได้มีการพูดถึงเอาไว้ในบทความที่แล้ว Tokenomics ของเกม Heroes of Mavia จะเป็นระบบเหรียญคู่(Dual Token Model; Mavia and Ruby)

ระบบเหรียญคู่ส่วนใหญ่จะแยกเป็นเหรียญหลัก(Mavia) กับเหรียญเท(Ruby) โดยระบบเหรียญคู่จะมีจุดเด่นในด้านความมั่นคงของราคาเหรียญหลัก เพราะเป็นการแยก Risk Factor ที่จะโดนเทขายออกจากเหรียญหลัก ทำให้ราคาของเหรียญหลักมีความเป็นมิตรต่อนักลงทุน และมีการเติบโตที่ค่อนข้างเป็นไปโดยธรรมชาติ(Organic) มากกว่าระบบเหรียญเดี่ยวที่จะรวม Risk Factor เอาไว้ในเหรียญเดียว ซึ่งแม้จะมีข้อดีตรงที่ Price Effected Factor ไม่ว่าในทางบวกหรือลบจะค่อนข้างมาก ในระยะยาวหากผ่านการเติบโตได้นานพอจนมั่นคง จะมีความ Decentralization มากกว่า แต่จากประวัติราคาของเกม Play-To-Earn ที่ใช้ระบบเหรียญเดี่ยวในปัจจุบัน ราคามักจะมีความผันผวนมากและเกิด Hyperinflation ได้ง่ายจะการเข้าเก็งกำไรมากผิดปกติ ทำให้ระบบเหรียญเดี่ยวไม่สามารถอยู่รอดได้นานพอที่จะสร้างความ Decentralization ที่มั่นคง และมีแนวโน้มจะล่มสลายสูง

จากสิ่งที่ได้กล่าวไว้ในย่อหน้าก่อนหน้านี้ ระบบเหรียญคู่ในปัจจุบันจึงเป็น Tokenomics Model ที่ได้รับความนิยมที่สุด เหรียญหลัก(Mavia) จะมี Risk Factor ต่ำ ทำให้สามารถเติบโตอย่าง Organic จนมีความมั่นคงได้ เมื่อเหรียญหลักมีการสร้างฐานราคาที่มั่นคงสำเร็จ ความมั่นคงทางราคานี้จะสร้างความเป็นมิตรให้แก่ผู้ใช้งานเหรียญ ส่งผลต่อการดึงดูดนักลงทุนและผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่ม ทำให้ราคาเป็นไปในทางบวกอย่างต่อเนื่องได้ และยากต่อการล่มสลาย ส่วน Risk Factor ส่วนมากจะตกไปอยู่กับเหรียญเท(Ruby) ซึ่งถ้าหากมีการวางระบบ Reinvested Incentivization เอาไว้ไม่ดีพอ ราคาเหรียญเท(Ruby) มักจะขยับลงอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นผลกระทบลบย้อนกลับไปหาเหรียญหลัก(Mavia) เนื่องจาก Earning ที่มีมูลค่าลดลงจะส่งผลต่อการดึงดูดนักลงทุนและผู้เล่นหน้าใหม่

จากทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมา สิ่งที่เราจะต้องให้ความสนใจที่สุดเกี่ยวกับระบบ Tokenomics แบบเหรียญคู่ คือ การจูงใจให้นำเหรียญกลับมาลงทุนใหม่(Reivested Incentivization)เพื่อชะลอการเทขายเหรียญเท(Ruby) จึงนำมาสู่บทสรุปว่า สิ่งที่ทำให้ Tokenomics ของเกม Heroes of Mavia น่าจับตา มาจากระบบ Reinvested Incentivization 3 ส่วนหลัก

ส่วนแรกคือ Game Model ที่นอกจากการเลือกใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมทั้งการเข้าโจมตีและการตั้งรับในการเล่นเกมแล้ว ตัวเกมยังถูกออกแบบให้ผู้เล่นจะต้องอัพเกรด Lands(HQ, Army, Buildings and Walls), Heroes และ Statues เพื่อให้ยังคงได้รับชัยชนะและครอบครองอันดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกครั้งที่เราชนะผู้เล่นที่มีอันดับสูง Ruby Rewards ที่จะได้รับจะสูงขึ้นตาม แต่ในทำนองเดียวกัน การอัพเกรด Lands, Heroes และ Statues ในอับดับที่สูงขึ้น ก็จะต้องใช้ Ruby ที่สูงขึ้นด้วย ระบบแบบนี้จะจูงใจผู้เล่นให้เกิด Ruby Reinvesting วนซ้ำอยู่ในระบบอย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงต่อการเกิด Inflation ลง

ส่วนที่สองคือ การเพิ่ม Ruby Deposit Bonus 10%(Minted) และ Ruby Withdraw Fee 15%(Burned) ในการโอนเหรียญเข้า-ออกจาก Game’s Ecosystem เป็นการจูงใจให้ผู้เล่นซื้อ Ruby จาก Exchange เข้ามาใช้ในเกมมากกว่าที่จะนำออกมากเกม และในกรณีเหรียญ Ruby ยังคงมีอัตราการโอนเข้า-ออกที่เท่ากัน หรือมีอัตราการโอน Ruby ออกจากเกมมากกว่าอัตราการโอนเข้า ตัวเหรียญ Ruby จะถูก Burn ทิ้งในอัตราที่มากกว่าการ Mint เพิ่มอยู่ 5% ทำให้จำนวนเหรียญ Ruby จะมีปริมาณโดยรวมที่ค่อยๆลดลง เป็นการช่วยพยุงราคาเหรียญ Ruby เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง

ส่วนที่สามคือ ทุกการอัพเกรดบน NFTs(Lands, Heroes และ Statues) จะเป็นแบบถาวร(Permanently Attaching) หมายความว่า การที่เราใช้ Ruby เพื่ออัพเกรด NFTs จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับ NFTs ไปในตัว หรืออีกนัยหนึ่ง หากเราเป็นผู้ครอบครอง NFTs เราสามารถเปลี่ยน Ruby ที่ไม่ได้ใช้งานให้กลายเป็น Mavia ได้ด้วยการอัพเกรด NFTs โดยการคำนวนจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่ มูลค่าเหรียญ Ruby ที่ใช้ในการอัพเกรด NFTs เทียบกับมูลค่าขายที่เพิ่มขึ้นของ NFTs

Tips: มูลค่าของ NFTs ที่เป็น Heroes และ Statues ราคาจะแปลผันไปตามความต้องการของตลาด นั่นหมายความว่า เราสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นได้

4. “Landlord” Model สำหรับนักลงทุนรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มี Play-To-Earn Game ที่ไหนเคยทำมาก่อน

Heroes of Mavia ออกแบบเกมให้ Land NFTs สามารถซื้อ-ขาย, ปล่อยเช่า หรือสร้าง Partnership กับผู้เล่นอื่นได้ และในหนึ่งบัญชีสามารถครอบครอง Land ได้หลายผืน ในขณะที่ ผู้เล่นทุกคนถูกจำกัดให้ต้องมี Land อย่างน้อย 1 ผืนในการเข้ามาเล่น ระบบแบบนี้ได้สร้างรูปแบบการลงทุนแบบ “Landlord” ขึ้นมา นักลงทุนที่เป็น Landlord สามารถสร้าง Passive Income ได้จากการปล่อยเช่า Land เป็นเหรียญ Mavia โดย Land ที่ครอบครองจะไม่สูญเสียมูลค่า ผนวกกับที่กล่าวในหัวข้อที่ 3 นั่นคือ ผู้เล่นที่มาเช่า Land ของเรา หากต้องการอันดับที่สูงขึ้นหรือชัยชนะที่ต่อเนื่อง ผู้เช่ามีความจำเป็นจะต้องอัพเกรด HQ บน Land และการอัพเกรดนั้นจะติดถาวรอยู่บน Land ของเรา หมายความว่า นักลงทุนแบบ Landlord จะมีกำไร 5 ต่อ

- ต่อที่หนึ่งคือกำไรจากส่วนต่างราคาของ Land ที่จะถูกอัพเกรดให้ฟรีจากผู้เช่า

- ต่อที่สองคือกำไรจากการปล่อยเช่า Land เป็นเหรียญ Mavia โดย Land ไม่

สูญเสียมูลค่า นั่นคือ เราจะได้เหรียญ Mavia มาเพิ่มแบบฟรีๆ

- ต่อที่สามคือกำไรที่อาจได้จากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นของเหรียญ Mavia ซึ่งมีการเติบโตแบบ Organic Growth และมี Risk Factor ที่ต่ำ

- ต่อที่สี่คือค่าเสียโอกาสทางเวลาที่เราไม่ต้องจ่าย เมื่อเทียบกับผู้เล่นหรือนักลงทุนรูปแบบอื่น เช่น Scholarship Owner ที่ต้องจ่ายค่าเสียโอกาสทางเวลาในการดูแล Scholar ของตัวเอง เป็นต้น

- ต่อที่ห้า จากจุดเด่นทั้ง 4 ข้อที่ได้กล่าวมา รูปแบบการลงทุนแบบ Landlord จะดึงดูดนักลงทุนทุกรูปแบบ รวมถึงยุคเก่าที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายมาก ทำให้ราคาของ Land มีโอกาสขยับเพิ่มมูลค่าขึ้นได้อีก

และด้วย Potential Growth ที่สูงลิ่วอย่างที่ได้กล่าวมา ทำให้ราคาของ Mavia Land ทุกระดับความหายาก ทั้ง Common, Rare และ Legendary ซึ่งถูกวางขายอยู่บน Opensea พุ่งสูงขึ้นกว่า 3 เท่าทันทีหลังจากที่ทาง Heroes of Mavia ได้เปิดขาย Land รอบ Whitelist Private Sale ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ Whitelist จากกิจกรรม Whitelist Program เข้าไป Mint เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 65

5. Heroes of Mavia Team’s Member มีประวัติผลงานที่ไม่ธรรมดา

Skrice Studio เป็นอีกหนึ่งบริษัทนี่น่าจับตา เพราะได้สมาชิกที่มีประวัติผลงานไม่ธรรมดามาเป็นพรรคพวก ไม่ว่าจะเป็น

- Yvan Feusi (Executive Producer) ผู้ซึ่งประสบการณ์ เป็น 3D Artist มากกว่า 15 ปี และมีประวัติผลงานเจ๋งๆที่เยอะจนไล่ไม่หมด แถมยังเคยเป็น 3D Generalist ให้กับ Axis Studio ที่เคยทำ Animation ให้กับเกมชื่อดังหลายเกม ไม่ว่าจะเป็น Diablo II: Resurrected, Halo Infinite, AFK Arena, League of Legends ไปจนถึงภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง และอื่นๆอีกมากมาย

- Tristan Chaudhry (Managing Director) ผู้ซึ่งเข้ามาโล่นแล่นอยู่ในวงการ Blockchain ตั้งแต่ปี 2013 เคยมีประวัติเป็น CEO และจัดตั้งบริษัท Fry Egg ได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2018 ด้วยอายุเพียง 20 ปี และเคยได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 18 ผู้นำธุรกิจ Blockchain และ Cryptocurrency ให้เข้าไปบรรยายวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ Blockchain Technology ที่ NASDAQ Time Square ในปี 2018

- Nam Hai (Chief Operating Officer) ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมมายาวนานกว่า 18 ปี และเคยมีประวัติเป็น Production Manager ให้กับ Gameloft Studio ที่เวียดนาม ซึ่ง Gameloft เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมาก เกมที่ผลิตโดย Gameloft และเป็นที่รู้จักมากมายเช่น Asphalt, Assassin's Creed: Altaïr's Chronicles, Brothers in Arms, Modern Combat และเกมบนมือถือชื่อดังอีกนับไม่ถ้วน

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว Skrice Studio ยังมีทีมงานที่มากความสามารถและมีประสบการณ์ทั้งจากอุตสหกรรมเกมและเทคโนโลยี Blockchain อีกมากกว่า 60 คน

สุดท้ายนี้ Heroes of Mavia จะเปิดให้เล่นแบบ Global Launch ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 สำหรับผู้ที่สนใจ Heroes of Mavia สามารถเข้ามาติดตามโปรเจค พูดคุยกับเหล่า Ambassador และ Community อีกกว่า 70,000 คน เพื่อจะได้ไม่พลาดข่าวสาร และอาจได้ร่วมกิจกรรมชิงของรางวัลอีกมากมาย

Link: