21 มี.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา David Beckham ทำธุรกิจเก่ง ไม่แพ้ เล่นฟุตบอล
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ แม้ไม่ได้ติดตามฟุตบอล ก็น่าจะต้องรู้จักชายที่ชื่อว่า “David Beckham”
อดีตนักฟุตบอลสตาร์ดังทีมชาติอังกฤษ
อย่างที่เรารู้กันว่า David Beckham เลิกเล่นฟุตบอลไปนานหลายปีแล้ว
แต่ทุกวันนี้ เขาก็ยังคงมีชื่อเสียงโด่งดัง และปรากฏตัวในสื่ออยู่บ่อยครั้ง
โดยเปลี่ยนบทบาทมาโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจแทน ซึ่งทำให้เขาสามารถสร้างฐานะความร่ำรวย ได้มากขึ้นกว่าตอนเป็นนักฟุตบอลเสียอีก
1
แล้วปัจจุบัน David Beckham ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
David Beckham เกิดในปี 1975 ปัจจุบันมีอายุ 47 ปี
เขาเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 1992
ด้วยการลงเล่นอย่างเป็นทางการให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมดังอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, แอลเอ กาแล็กซี, เอซี มิลาน และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
ตลอดช่วงเวลาการค้าแข้งกว่า 21 ปี เขาลงสนามในระดับสโมสรและทีมชาติไป 638 นัด ยิงได้ 114 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ 19 รายการ
1
ที่สำคัญคือ เขายังเป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษคนแรก
ที่ได้แชมป์ลีกของประเทศอังกฤษ, สเปน, สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส
1
แต่นอกจากความสำเร็จเรื่องฟุตบอล คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกปัจจัยที่ส่งผลให้ชื่อของ David Beckham เป็นจุดสนใจในสายตาผู้คนทั่วโลก คือ การแต่งงานกับ Victoria Adams นักร้องสาวแห่งวง Spice Girls เมื่อปี 1999
1
ในปี 2013 หลายคนคงรู้สึกใจหายไม่น้อย เมื่อเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดอำลาวงการฟุตบอลไป
แต่อย่างไรก็ตาม นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจอย่างเต็มตัวของเขา..
1
จุดเด่นที่สุดของ David Beckham คือ ภาพลักษณ์ที่ดูดีและชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
ซึ่งเป็นโอกาสให้สามารถนำเอาไปใช้ต่อยอดได้อีกมากมาย
เขาได้จัดตั้งบริษัท Beckham Brand Holdings และบริษัทในเครือหลายแห่ง เพื่อบริหารจัดการและแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้โดยเฉพาะ
1
โดยมีบริษัทชื่อว่า DB Ventures ทำหน้าที่ดูแลดีลการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้กับแบรนด์สินค้าดังต่าง ๆ เช่น Adidas, Armani, Calvin Klein, Gillette, H&M, L’Oreal, Pepsi, Samsung, Tudor
1
รวมถึงการโพสต์คอนเทนต์โฆษณาลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
โดย David Beckham มีผู้ติดตามใน Instagram อยู่ 71.3 ล้านบัญชี และในเฟซบุ๊กอีก 56 ล้านบัญชี ซึ่งมีการประเมินว่า เขามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อการโพสต์หนึ่งครั้ง
3
และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Authentic Brands Group เจ้าของแบรนด์รองเท้ากีฬา Reebok ได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัท DB Ventures ในสัดส่วน 55% ด้วยมูลค่าราว 8,900 ล้านบาท
1
เท่ากับว่า ธุรกิจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของ David Beckham นั้นถูกประเมินมูลค่าเต็มไว้สูงถึงราว 16,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
2
รวมทั้งยังมีบริษัท Footwork Productions ที่ดูแลเรื่องการนำลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ของ David Beckham ไปใช้ในธุรกิจด้านฟุตบอล
1
และบริษัท Seven Global ที่ดูแลธุรกิจแบรนด์สินค้าแฟชั่นต่าง ๆ ที่ David Beckham ก่อตั้งขึ้น
2
อย่างไรก็ตาม นอกจากการใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์แล้ว David Beckham ยังมีการนำเงินไปลงทุนในหลากหลายธุรกิจด้วยกัน
ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่เขาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คือ การเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล
1
หลังจากไปค้าแข้งอยู่กับทีมแอลเอ กาแล็กซี ในสหรัฐอเมริกา นานกว่า 6 ปี
David Beckham ก็เล็งเห็นว่ากีฬาฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับการซื้อสโมสรฟุตบอลในทวีปยุโรป
เขาจึงได้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลใหม่ ชื่อว่า “Inter Miami”
ด้วยเงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2018 และได้เข้าร่วมแข่งขันในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ลีกฟุตบอลสูงสุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
1
นอกจากนั้น David Beckham ยังได้เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เป็นเทรนด์ในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น
- บริษัท Guild Esports ซึ่งประกอบธุรกิจทีมกีฬาอีสปอร์ต
โดยเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 10 ล้านบาท กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ของบริษัท และได้เจรจาตกลงให้บริษัทนำเอาภาพลักษณ์ของ David Beckham ไปช่วยโปรโมตทีมได้
1
ซึ่ง Guild Esports ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เมื่อปี 2019 ล่าสุดมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 580 ล้านบาท
2
- ลงทุนในบริษัท Cellular Goods ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยบริษัทได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เมื่อปี 2021 ล่าสุดมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 870 ล้านบาท
1
- บริษัท Lunaz สตาร์ตอัปที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018
ทำธุรกิจดัดแปลงรถยนต์รุ่นเก่าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม โดย David Beckham ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนราว 10% ของบริษัท
3
ทั้งนี้ หากเรามาดูข้อมูล มูลค่าทรัพย์สินของ David Beckham
ในสมัยที่เป็นนักฟุตบอล เขาได้รับค่าจ้างรวมทุกสัญญา คิดเป็นเงินประมาณ 7,400 ล้านบาท
แต่ปัจจุบัน มีการประเมินว่า David Beckham มีทรัพย์สินสูงถึง 15,000 ล้านบาท
ซึ่งสะท้อนได้ว่า เขาสร้างรายได้จากการทำกิจกรรมอื่น ได้มากพอ ๆ กับการเล่นฟุตบอลเลยทีเดียว
5
และถ้าหากนับรวมกับทรัพย์สินของภรรยา Victoria Beckham
ซึ่งทำธุรกิจแบรนด์แฟชั่นหรูด้วย สามีภรรยาคู่นี้ จะมีทรัพย์สินรวมกันทั้งหมดสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
1
จากเรื่องราวนี้เราจะเห็นได้ว่า
ถึงแม้อาชีพหลักที่เราทำมายาวนานจะยุติลง แต่สิ่งที่สั่งสมมาตลอด มันอาจมีมูลค่ามหาศาลซ่อนอยู่ก็เป็นได้
1
กรณีของ David Beckham เมื่อก่อนหลายคนอาจมองว่า เขาหน้าตาดีและแต่งงานกับนักร้องดัง
แต่ความจริงแล้วในอีกมุม เขาก็พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของแฟนบอล ซึ่งนำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงอันโด่งดัง ในเวลาต่อมา
2
และพอถึงวันหนึ่งที่จำเป็นต้องเลิกเล่นฟุตบอล
มันก็ทำให้เขาสามารถหยิบยกสิ่งเหล่านั้น มาใช้ประโยชน์ สร้างเม็ดเงินจากแหล่งรายได้ใหม่ได้อย่างสม่ำเสมอ และมั่งคั่งขึ้นกว่าเดิมได้อีก นั่นเอง..
2
โฆษณา